ก่อนหน้านี้ Mercedes-Benz ให้ความเห็นว่า การผลักดันเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศต่างๆ นั้นเพิ่มต้นทุนการผลิตรถยนต์ ต่างกับ Volkswagen ที่ล่าสุดออกมาบอกว่า ต้นทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มถูกลงเรื่อยๆ
สร้างแพลตฟอร์มกลางจนประหยัดต้นทุนได้
ปัจจุบันค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมามากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อในปัจจุบัน แต่มันก็ไม่ได้มีเหตุผลแค่นั้น เพราะการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของผู้ผลิตรถยนต์ก็มาจากความเข้มงวดเรื่องมลพิษทางอาการของรัฐบาลหลากหลายประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศยุโรป
จุดนี้เองทำให้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต้องลงทุนวิจัย และพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้งบประมาณสูง ซึ่ง Mercedes-Benz ก็ออกมาบอกว่ามันเพิ่มภาระให้กับบริษัท เพราะผลกำไรในไตรมาสล่าสุดทำได้ไม่ค่อยดีนัก ต่างกับ Volkswagen ที่เปิดเผยว่า การลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าช่วยประหยัดต้นทุนในการผลิตได้ดีกว่าเดิม
“เราพัฒนา MEB หรือ Modularer E-Antriebs-Baukasten แพลตฟอร์มกลางในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ในหลายรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนของเรา ล่าสุดรุ่น ID.3 รถยนต์ไฟฟ้าล้วนขนาดเล็กที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ก็มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า e-Golf 40%” Herbert Diess ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม Volkswagen กล่าว
เหตุที่ ID.3 มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า e-Golf เพราะ ID.3 สร้างมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนตั้งแต่แรก ต่างกับ e-Golf ที่พัฒนามาจากรุ่นใช้น้ำมันของ Golf นอกจากนี้ Volkswagen ยังปรับโรงงานหลายแห่งเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าล้วนโดยเฉพาะ ทั้งมีเป้าหมายทำราคารถยนต์ไฟฟ้าล้วนใกล้เคียงรถยนต์น้ำมันให้ได้เร็วที่สุด
สรุป
Volkswagen คือหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่ค่อนข้างจริงจังกับรถยนต์ไฟฟ้า ถ้าตอบแบบสวยๆ ก็น่าจะเพราะต้องการตอบโจทย์อุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต ส่วนถ้าแบบร้ายๆ หน่อยก็เพราะต้องการลบภาพแย่ๆ ที่เคยโกงค่าไอเสีย ดังนั้นต้องติดตามกันต่อไปว่า Volkswagen จะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในโลกรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่
อ้างอิง // Cleantechnica
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา