เปิดตัว vivo X300 Series พร้อมเลนส์ซูม 2.35x เอาใจสายคอน พร้อมเปิดให้จองกลางเดือนพฤศจิกายนนี้

สมาร์ทโฟนยุคนี้แค่ถ่ายรูปสวยไม่พอ ต้องถ่ายได้ไกลและคมชัดในทุกระยะด้วย

จากสถิติแพลตฟอร์มให้บริการเช่าสมาร์ทโฟนในประเทศจีนพบว่า กว่า 50% ผู้เช่าสมาร์ทโฟนนิยมเช่า vivo X200 Pro เพื่อไปถ่ายงานคอนเสิร์ต หรือแฟนมีท โดยให้เหตุผลว่า เป็นสมาร์ทโฟนที่มีคุณภาพการถ่ายภาพระยะไกล หรือการซูมที่ดีที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนในแพลตฟอร์มที่มีให้เช่า นั่นถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นของ vivo และถือเป็นก้าวสำคัญของ X Series รุ่นใหม่อย่าง X300 Series ที่ออกแบบให้มีเซนเซอร์กล้องหลักและกล้องซูมขนาดใหญ่ขึ้น เสริมความคมชัด การจับการเคลื่อนไหว และระยะภาพที่ไกลขึ้น ด้วยชุดเลนส์ซูมแบบเสริม 2.35x ที่มีจำหน่ายแยก เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ภาพที่คมชัดขึ้นไปอีก

ภัทร โกมลฐิตินันท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ vivo ประเทศไทย

คุณซัน ภัทร โกมลฐิตินันท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ vivo ประเทศไทย ให้ข้อมูลที่น่าสนใจในด้านของเทรนด์ของตลาดสมาร์ทโฟนโลก พบว่าหลายแบรนด์ให้ความสำคัญกับประสบการณ์การถ่ายภาพ โดยเฉพาะการเสริมประสิทธิภาพของกล้องบนสมาร์ทโฟน ทั้งเรื่องของความละเอียด ความคมชัดการถ่ายภาพในที่แสงน้อย รวมไปถึงการถ่ายภาพระยะไกล โดยแบรนด์ส่วนมากจะเข้าไปร่วมมือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันกับแบรนด์เจ้าของเทคโนโลยีการถ่ายภาพชั้นนำของโลก

“อย่าง vivo ได้เข้าไปร่วมมือในการพัฒนาและเทคโนโลยีกล้องบนสมาร์ทโฟนกับ ZEISS มาตั้งแต่ปี 2021 และต่อมาในรุ่น vivo X100 Series ถือว่าเป็นการพลิกโฉมวงการสมาร์ทโฟนอีกครั้งเลยก็ว่าได้ การได้ ZEISS มาเป็นพาร์ทเนอร์ที่ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีเรื่องกล้อง ทำให้ภาพที่ได้จากสมาร์ทโฟน vivo มีกลิ่นอายของ ZEISS เป็นอย่างมาก ความสามารถที่โดดเด่นอย่างการถ่ายภาพระยะไกล ที่ vivo X100 Series สร้างตำนาน โดยเป็นที่พูดถึงเรื่องของภาพที่ได้ มีความคมชัด ทั้งภาพในที่แสงน้อย หรือภาพที่ได้จากการซูมก็มีความคมชัด และโดดเด่นกว่าคู่แข่งในท้องตลาด”

สำหรับในไทย vivo ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก โดยปีที่ผ่านมาส่วนแบ่งการตลาดของ vivo ติดอันดับ 1 ใน 5 โดยทั้ง X Series และ V Series ที่เราได้นำเทคโนโลยี ZEISS มาใช้ ได้รับการตอบรับที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดได้เปิดตัว vivo V60 Series ที่ได้ หลิง-ออม มาร่วมงานในฐานะ vivo friends เป็นครั้งแรก ถือเป็นการสร้างการรับรู้ของตัวสินค้าได้เป็นอย่างดี

คงจุดเด่น ภาพคมชัดในการถ่ายระยะไกล

คุณซัน ภัทร ยังเสริมว่า ในตลาดสมาร์ทโฟนโลก vivo เป็นแบรนด์ที่โดดเด่นที่สุดเรื่องของการถ่ายภาพระยะไกล โดยแพลตฟอร์มบริการเช่าสมาร์ทโฟนที่ใช้งานคอนเสิร์ตของจีนอย่าง Renren (เหรินเหริน) เปิดเผยว่ากว่า 50% ที่มีการเช่านั้นเป็น vivo X200 Pro ถือเป็นการการันตีจากผู้ใช้งานจริงในเรื่องคุณภาพของการถ่ายภาพระยะไกล

“เราเห็นเทรนด์การถ่ายภาพในช่วงโมเมนต์สำคัญที่เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที และเชื่อว่าสมาร์ทโฟนคืออุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ที่สุดในการบันทึกช่วงเวลาเหล่านั้น โดยเฉพาะในงานคอนเสิร์ตหรืออีเวนต์ที่มักมีข้อจำกัดในการพกกล้องถ่ายภาพเข้าไปภายในงาน ดังนั้น vivo X200 Pro จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ผู้ใช้มากที่สุด ด้วยศักยภาพของกล้องที่ให้ภาพคมชัด แม้อยู่ในระยะไกลก็ยังเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน พร้อมให้ผู้ใช้งานแชร์ภาพนิ่งหรือวิดีโอคุณภาพสูงลงบนโซเชียลมีเดียได้อย่างมั่นใจ”

เปิดตัว vivo X300 Series ลุ้นขายในไทยปลายเดือนพฤศจิกายนนี้

และแล้วในปีนี้ vivo X300 Series ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วที่นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณประชาชนจีน ถือเป็นการยกเครื่องใหม่ของการถ่ายภาพ ทั้งการปรับเปลี่ยนกล้องหลัก อย่างในรุ่น X300 Pro ที่ได้ใช้เซนเซอร์กล้องหลักใหม่ Sony LYT-828 ขนาด 1/1.28″ ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ในกล้องซูม Periscope Telephoto ก็ใช้เซนเซอร์ใหม่ HPB ขนาด 1/1.4″ ความละเอียด 200MP ที่พัฒนาร่วมกับ Samsung และ MediaTek ให้การโฟกัสแม่นยำ ภาพชัด และจับภาพเคลื่อนไหวได้ไวขึ้น พร้อมกันสั่นใหม่ มีระยะซูม 3.5x Optical Zoom (85mm) และซูมไกลสุด 100x รองรับ Telephoto Macro ที่คมชัดยิ่งขึ้น ขณะที่กล้องหน้า ได้ทำการอัปเกรดเซนเซอร์จากรุ่นเดิมเป็น JN1 มุมมอง 92 องศา และมีออโต้โฟกัส ความละเอียด 50MP ทั้งนี้ในทุกกล้องยังเป็นเลนส์ ZEISS เช่นเคย

สำหรับรุ่นรองอย่าง vivo X300 ใช้เซนเซอร์กล้องหลักใหม่ HPB ขนาด 1/1.4″ ความละเอียด 200MP ที่พัฒนาร่วมกับ Samsung และ MediaTek ให้การโฟกัสแม่นยำ ภาพชัด และจับภาพเคลื่อนไหวได้ไวขึ้น ส่วนเลนส์ซูม Periscope Telephoto (ZEISS APO) เซนเซอร์ LYT-602 ความละเอียด 50MP มีระยะซูม 3x Optical Zoom (70mm) ซึ่งจุดเด่นคือเป็นครั้งแรกที่รุ่นธรรมดามาพร้อมมาตรฐาน ZEISS APO ช่วยให้สีสันที่ตรงและแม่นยำมากขึ้น ขณะที่กล้องหน้าเองก็อัปเกรด ใช้เซนเซอร์ JN1 มุมมอง 92 องศา ความละเอียด 50MP และรองรับโหมดออโต้โฟกัสเช่นเดียวกัน

ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับชุดเลนส์ซูมเสริม 2.35x เป็นกระบอกทรงยาว พร้อมชุดกริพ (Grip) ที่เป็นส่วนโครงสร้างในการประกอบชุดเลนส์กล้องซูมกับตัวมือถือเข้าด้วยกัน

สำหรับประเทศไทย มีแผนเปิดจองทั้งตัวเครื่อง X300 Series และชุดเลนส์ซูมเสริมพร้อมชุดกริพ ให้ผู้ที่สนใจช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ และคาดว่าจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการปลายเดือนพฤศจิกายนนี้เช่นกัน

“สำหรับราคา vivo X300 Series คาดว่าคงไม่ต่างจากราคา vivo X200 Series ในช่วงเปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และเลนส์ซูมเสริมที่จะจำหน่ายพร้อมกันนี้ เชื่อว่าจะสร้างประสบการณ์การถ่ายภาพ โดยเฉพาะระยะไกล โดยเฉพาะงานคอนเสิร์ต หรือระยะวัตถุที่ไกลออกไป จะให้ภาพที่คมชัด พร้อมนำไปใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องปรับแต่ง”

OriginOS 6 ใหม่ ยกระดับการใช้งานใหม่หมดจด

OriginOS ถือเป็นระบบปฎิบัติการใหม่ ที่มาทดแทน FuntouchOS ในสมาร์ทโฟน vivo และ iQOO ที่จำหน่ายนอกประเทศจีน ถือเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ทั้งในด้านดีไซน์ การทำงาน และฟีเจอร์อัจฉริยะ โดย OriginOS 6 มีสโลแกน ‘Smooth at Origin’ สื่อถึงความลื่นไหล ถึงขั้นสื่อในประเทศจีนหลากหลายแห่งยกให้เป็นระบบปฎิบัติการที่ลื่นไหลและเปิดแอปพลิเคชันรวดเร็วที่สุดในเวลานี้

ผลจากการพัฒนาระบบสถาปัตยกรรม Dual Rendering สามารถทำให้การทำงาน OriginOS โดยเฉพาะส่วนเฟรมเรทเสถียรขึ้นถึง 11% เพิ่มประสิทธิภาพการเรนเดอร์มากถึง 35% ในขณะเดียวกันเทคโนโลยี Hypercore Computing ทำให้แอปเปิดเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 14% ส่วน Photonic Storage Architecture ปรับการจัดการแคชและหน่วยความจำให้ดียิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มความเร็วในการโหลดข้อมูลมากถึง 230% นอกจากนี้ยังมีระบบ Scenario Energy Efficiency 2.0 ที่ใช้ AI วิเคราะห์การใช้งาน เพื่อประหยัดพลังงานได้สูงสุด 18% เมื่อดูวิดีโอ และ 14% เมื่อเล่นเกม พร้อมด้วยเทคโนโลยีควบคุมอุณหภูมิ Global Direct Drive Power Supply 2.0 และระบบ System Lightweight 3.0 ที่ช่วยยืดเวลา Standby ได้เพิ่มขึ้น 7%

และแน่นอนประสบการณ์การใช้งาน OriginOS Global Version ยอดเยี่ยมไม่แพ้กับ OriginOS ที่ใช้ในประเทศจีน โดยเฉพาะฟีเจอร์ที่เชื่อมต่อการใช้งานอุปกรณ์แอปเปิ้ลอย่าง MacBook สมาร์ทโฟน พีซี และแท็บเล็ตได้แบบไร้สาย ทำการโอนถ่ายข้อมูลอย่างง่ายดายผ่าน vivo Office Suite

ผู้ใช้งาน vivo และ iQOO ในไทย สามารถรออัปเดท OriginOS 6 ได้ในภายในปีนี้ โดยจะทยอยอัปเดทต้นเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป

  • – X Fold 5, X200 Pro, X200, X200 FE, X100 Pro, X100
  • – V60, V50
  • – iQOO 13, iQOO 12, iQOO Neo 10

สำหรับ Y Series จะได้รับการอัปเดทภายในครึ่งปีแรกของปี 2026

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา