vivo X200 Pro: เปิดประสบการณ์การถ่ายภาพระดับโปรจาก ZEISS และพลังกล้องเทเลโฟโต้ 200 MP

vivo คือหนึ่งในแบรนด์สมาร์ตโฟนจากประเทศจีนที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพราะหากอ้างอิงข้อมูล Counterpoint Research ในไตรมาส 3 ปี 2024 vivo ติดอยู่ใน 5 อันดับแรกของการส่งมอบสมาร์ตโฟนในระดับโลก ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ vivo ก้าวมาถึงจุดนี้ได้คือเรื่องกล้องถ่ายภาพ

vivo ประกาศความร่วมมือกับ ZEISS ผู้นำด้านเลนส์ถ่ายภาพระดับโลกมาตั้งแต่ปี 2020 เพื่อพัฒนาระบบการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ผ่านการยกมาตรฐานการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนให้ใกล้เคียงกับการใช้กล้องใหญ่

ล่าสุด vivo เปิดตัว vivo X200 Pro ที่ชูจุดเด่นเรื่องการถ่ายภาพที่คมชัด แต่เพิ่มเติมคือเรื่องความละเอียด 200 MP ที่เป็นจุดต่างสำคัญ ถูกสื่อสารลงบนชื่อของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ด้วย Brand Inside จึงอยากชวนมาทำความรู้จักสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ พร้อมกลยุทธ์ในการทำตลาดของ vivo เพื่อรักษาตำแหน่งกลุ่มผู้นำในตลาดสมาร์ตโฟนดังนี้

vivo

vivo และ ZEISS ยกระดับแบรนด์

หากย้อนไปราว 10 ปี ก่อน vivo อาจเป็นสมาร์ตโฟนทางเลือกราคาประหยัดสำหรับหลายคน เพราะด้วยภาพลักษณ์แบรนด์ในเวลานั้นอาจไปแข่งขันแบรนด์ชั้นนำในตลาดได้ลำบาก แต่ด้วยการพัฒนาประสิทธิภาพของสมาร์ตโฟนมากขึ้น ควบคู่กับการสร้างแบรนด์ใหม่ผ่านการประกาศความร่วมมือกับ ZEISS ผู้ผลิตเลนส์กล้องชั้นนำระดับโลก เพื่อช่วยกันออกแบบและพัฒนาประสิทธิภาพในการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนให้ได้ผลลัพธ์และประสบการณ์ใช้งานเหมือนถ่ายด้วยกล้องใหญ่

ความร่วมมือดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2020 และหลังจากนั้นแบรนด์ vivo ก็เริ่มติดตลาดมากขึ้นผ่านการชูจุดเด่นเรื่องการถ่ายภาพ เรียกว่าดึงลูกค้าจากแบรนด์อื่น ๆ มาได้ไม่มากก็น้อย โดยจุดเด่นเหล่านั้นถูกสื่อสารผ่านสื่อโฆษณาหลากหลายรูปแบบที่เน้นเรื่องความหรูหราของการออกแบบ และมีการเน้นเรื่องความน่าเชื่อถือของ ZEISS รวมถึงในจุดจำหน่ายต่าง ๆ ยังมีให้ทดลองใช้งานเพื่อรับรู้ถึงประสิทธิภาพของกล้องบนสมาร์ตโฟนของ vivo ที่ถูกออกแบบผ่านการร่วมมือกับ ZEISS

vivo

ที่สำคัญสมาร์ตโฟนของ vivo ที่ร่วมกันออกแบบกับ ZEISS ไม่ได้มีแค่ 1 รุ่น เพราะมีหลากหลายรุ่นและหลายราคาให้เลือก เรียกว่ากลยุทธ์การสร้างแบรนด์ของ vivo นับตั้งแต่ร่วมมือกับ ZEISS ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าหลากหลายกลุ่ม และล่าสุดเรื่องนี้เกิดขึ้นกับการเปิดตัว vivo X200 และ vivo X200 Pro ที่ร่วมมือกับ ZEISS และมีจุดเด่นอยู่ในชื่อนั่นคือ กล้องหลังเทเลโฟโต้ ความละเอียด 200 MP หรือเมกะพิกเซล เพื่อใช้งานกับโหมดการถ่ายแบบต่าง ๆ เช่น Snapshot, Landscape, Portrait, Photo, Video และ Portrait Video

เจาะลึกคุณสมบัติ vivo X200 และ X200 Pro

vivo X200 และ X200 Pro ถูกวางตำแหน่งเป็นสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียม ผ่านการออกแบบที่หรูหราและเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพตามการพยายามส่งเสริมแบรนด์ผ่านความร่วมมือกับ ZEISS ที่แจ้งไปในเบื้องต้น พร้อมแท็กไลน์ “ซูมชัด ทุกเรื่องราว” โดยหากเริ่มที่ X200 Pro สมาร์ตโฟนรุ่นนี้จะมีให้เลือก 2 สีคือ Midnight Black และ Titanium Gray ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 15 บนชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 9400 RAM และ ROM 16 GB กับ 512 GB ตามลำดับ

vivo

สำหรับตัวกล้องจะประกอบด้วยกล้องหน้าความละเอียด 32 MP (เมกะพิกเซล) ขนาดเซนเซอร์ 1/3.44″ รูรับแสง f/2.0 รองรับโหมด Portrait, Photo, Video และ Portrait Video ส่วนไฮไลต์อย่างกล้องหลังจะประกอบด้วย กล้องหลังหลักความละเอียด 50 MP เซนเซอร์ Sony LYT-818 ขนาดเซนเซอร์ 1/1.28″ รูรับแสง f/1.57 รองรับโหมด Snapshot, Landscape, Portrait, Photo, Video, Portrait Video, High Resolution, Pano, Ultra HD Document, Slow-mo, Time-lapse, Stage, Pro และ Cultural

กล้องหลังมุมกว้าง 50 MP เซนเซอร์ JN1 ขนาดเซนเซอร์ 1/2.76″ รูรับแสง f/2.0 รองรับโหมด Landscape, Photo, Video, High Resolution, Ultra HD Document, Time-lapse และ Pro และที่สุดคือ กล้องหลังเทเลโฟโต้ ความละเอียด 200 MP เซนเซอร์ HP9 ขนาดของเซนเซอร์ 1/1.4″ รูรับแสง f/2.67 รองรับโหมด Snapshot, Landscape, Portrait, Photo, Video, Portrait Video, High Resolution, Ultra HD Document, Time-lapse, Stage, Pro และ Cultural

vivo

ส่วน vivo X200 จะเป็นรุ่นที่รองลงมา แต่ยังคงประสิทธิภาพต่าง ๆ ไม่แพ้รุ่นใหญ่ เช่น ขนาดความจุแบตเตอรี่ที่ลดลงเล็กน้อย และกล้องหลังเทเลโฟโต้ที่มีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ส่วนคุณสมบัติในแง่มุมอื่น ๆ ของ vivo X200 กับ vivo X200 Pro เช่น หน้าจอขนาดใหญ่ความคมชัดสูงขนาด 6.67 นิ้ว และ 7.78 นิ้วตามลำดับ รองรับการใช้งาน AI ตามสมัยนิยม ผ่าน Gemini Assistant ผู้ช่วย AI จะรองรับทั้งการค้นหาด้วย Circle to Search, การสรุปข้อความ AI Note Assist, การถอดความ AI Transcript Assist และการแต่งภาพ AI Erase

ตอบโจทย์คนไม่อยากพกกล้องใหญ่ หรือซูมคอนเสิร์ตชัด ๆ

จากคุณสมบัติทั้งหมดนี้ Brand Inside มองว่า vivo X200 และ vivo X200 Pro ค่อนข้างตอบโจทย์ในกลุ่มผู้ใช้ที่รักการถ่ายภาพ แต่อาจไม่สะดวกในการพกกล้องมืออาชีพที่มีขนาดใหญ่ หรืออาจเป็นคนที่เพิ่งเริ่มต้นถ่ายภาพ และอยากได้สมาร์ตโฟนที่มีกล้องดี ๆ สักเครื่องเพื่อตอบรับกับความต้องการของตัวเอง เพราะทั้งการออกแบบ, เทคโนโลยี และฟีเจอร์การถ่ายภาพของ vivo X200 และ vivo X200 Pro คือทางเลือกอันดับต้น ๆ ยิ่งได้ระบบถ่ายภาพที่ร่วมกันพัฒนากับ ZEISS ก็ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นในการถ่ายภาพได้มากขึ้น

vivo

vivo

ในทางกลับกัน หากคุณเป็นคนที่ชอบไปดูคอนเสิร์ต และมักจะหยิบสมาร์ตโฟนของตัวเองมาบันทึกภาพความทรงจำดี ๆ ระหว่างศิลปินกับตัวเอง ด้วยระยะที่ค่อนข้างไกลจากเวที vivo X200 และ vivo X200 Pro ก็ตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ เพราะตัวเลนส์เทเลโฟโต้นั้นมีความละเอียดสูงสุดถึง 200 MP ช่วยบันทึกความทรงจำได้อย่างคมชัด ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว เรียกว่าเป็นอีกทางเลือกสำหรับกล้องบนสมาร์ตโฟนที่ใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวที่ปัจจุบันยังมีให้เลือกในตลาดไม่มากนัก

ดังนั้นใครกำลังหาของขวัญดี ๆ ให้ตัวเองหลังจากเหนื่อยมาทั้งปี vivo X200 และ vivo X200 Pro ก็เป็นอีกทางเลือกที่เหมาะสมอย่างปฏิเสธไม่ได้

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา