สมชัย เลิศสุทธิวงค์ CEO แห่ง AIS กับสิ่งที่ยังทำไม่สำเร็จเพื่อสร้างการเติบโตอีกเท่าตัว

วัคซีน ใกล้จะมาแล้ว คำถามที่หลายคนอยากรู้คือ แล้วเศรษฐกิจไทยจะฟื้นหรือไม่ ฟื้นช้าหรือเร็ว ธุรกิจไหนจะฟื้นตัวได้เร็วที่สุด มาดูมุมมองของ สมชัย เลิศสุทธิวงค์ CEO ของ AIS จาก งานเสวนาวัคซีนมาเศรษฐกิจไทยจะฟื้นไวหรือไต่ช้าโดยสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนเพื่อเปิดมุมมองจากภาคธุรกิจ ที่ตอบคำถามต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ

ceo ais

วิกฤตครั้งนี้กระทบครบทุกอุตสาหกรรม

สมชัย เลิศสุทธิวงค์ CEO ของ AIS บอกว่า โควิดครั้งนี้กระทบทุกอุตสาหกรรมมากน้อยต่างกันไป AIS อาจจะโชคดีที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่พื้นฐานเป็นดิจิทัล หลายคนมองว่า AIS น่าจะได้รับผลในทางบวกเพราะ ผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร มีการใช้งาน Digital Service มากขึ้น แต่ในความเป็นจริง AIS ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

ถ้าดูจากการใช้งานจะเห็นว่ามีการใช้งาน Digital Service เพิ่มขึ้น 30-40% แต่ภาพรวมรายได้ลดลง 5% เพราะไม่สามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มตามการใช้งานได้ เนื่องจากกำลังซื้อลดลงตามสภาพเศรษฐกิจ เท่ากับว่าการใช้งานเพิ่มแต่รายได้ไม่ได้เพิ่มตาม

อย่างไรก็ตาม ข้อดีที่เห็นได้ชัดคือ โควิด ได้เร่งให้ Digital Disruption & Transformation เร็วและแรงขึ้น ซึ่งในระยะยาวองค์กรต่างๆ จะแข็งแรงขึ้น เพราะต้นทุนลดลงและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ในส่วนนี้ AIS มีการลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะสวนทางกับองค์กรอื่นๆ ที่รัดเข็มขัด ชะลอการลงทุน แต่ 1-2 ปีนี้ AIS จัดเต็มเพื่อเป็นพื้นฐานด้านดิจิทัลให้กับอุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วย แม้ว่าคนไทยจะไม่ใช่เจ้าของเทคโนโลยี แต่เรื่องการนำไปใช้ประโยชน์ บอกเลยว่า ไม่เป็นรองใคร

ais

อย่าเปลี่ยนเพราะโดนบังคับ แต่เลือกจะเปลี่ยนด้วยตัวเอง

โควิด สอนให้เรียนรู้ว่าต้องปรับตัวและเตรียมรับมือสิ่งที่คาดไม่ถึงตลอดเวลา หลายคน หลายองค์กร ผลัดไปก่อนเพราะสถานการณ์ยังไม่บังคับ แต่สำหรับ AIS มองเรื่องการ Transformation ตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว เวลานั้น AIS คือ ผู้นำอันดับ 1 ที่แข็งแกร่งมาก แต่เลือกที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองในวันนั้นเพื่อเป็น Digital Service Provider ตั้งเป้าว่าจะทำให้สำเร็จใน 5 ปี แต่มาถึงวันนี้ 6 ปีแล้ว ทำไปได้ประมาณ 50% เท่านั้น

สิ่งที่ได้เริ่มต้นทำไปและอยู่ในทิศทางที่ดี เช่น การเริ่มต้นบริการ Fixed Boardband หรือ AIS Fibre ซึ่งปัจจุบันมีการเติบโตต่อเนื่อง แม้จะยังเป็นอันดับ 3-4 ในตลาด กับบริการ Enterprise Business ที่ได้รับการตอบรับที่ดีมาก

แต่ส่วนที่ทำไม่สำเร็จ คือ การสร้าง Digital Platform และยังไม่เห็นคนไทยคนไหนทำสำเร็จ เพราะคู่แข่งขันคือต่างประเทศล้วนๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ AIS อยากทำให้ได้ เพราะ โทรคมนาคม ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ AIS หากนำไปผสานกับอุตสาหกรรมอื่น จากการศึกษาพบว่ามีส่วนช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมอื่นๆ รวมแล้วเป็นมูลค่ากว่า 13 เท่าของมูลค่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมปัจจุบัน

สิ่งที่ AIS ต้องการทำคือ เข้าไปร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมต่งๆ นำ Digital Platform ไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มมูลค่า และขอส่วนแบ่งรายได้ 10% ซึ่งหากทำได้ AIS จะสร้างแหล่งรายได้ใหม่ให้เกิดขึ้น ช่วยให้ AIS เติบโตขึ้นได้กว่าเท่าตัวจากปัจจุบัน

ais

3 ปัจจัยสร้างธุรกิจใหม่อีก 50% ที่เหลือ

ดังที่กล่าวว่า AIS ทำสำเร็จไปเพียง 50% แต่อีก 50% คือโจทย์ที่ไม่ง่าย ซึ่ง 3 ปัจจัยที่ต้องทำคือ

  1. Business Model ต้องเป็นแบบใหม่ จากเดิมที่ ลงทุน สร้างโครงข่าย ให้บริการ สร้างรายได้-กำไร นี่คือแบบเดิม ซึ่งไม่ตอบโจทย์ในการทำธุรกิจใหม่แล้ว
  2. Skill Set ต้องบอกว่า AIS มีคนเก่งอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ในการบุกเบิกธุรกิจใหม่ จำเป็นต้องหาคนที่มีทักษะและความสามารถแบบใหม่ ต้องหาคนใหม่ๆ เข้ามาร่วมงาน
  3. Ecosystem คือต้องร่วมกับพันธมิตร เพราะ AIS เก่งในดิจิทัลและโทรคมนาคม แต่ไม่ได้เก่งในอุตสาหกรรมอื่นๆ การได้พันธมิตรที่ดี คือปัจจัยสำคัญ

การใช้โมเดลธุรกิจเดิม พิสูจน์แล้วว่า สร้างการเติบโตได้มากกว่า GDP 1-2% แต่ธุรกิจใหม่มีโอกาสสร้างการเติบโตได้กว่าเท่าตัว แต่การจะสร้าง Digital Platform ต้องเจอกับคู่แข่งระดับโลก สิ่งที่ AIS เน้นคือ ต้องสนับสนุนคนในพื้นที่ เช่น YouTube เป็น Platform ที่คนไทยนิยมใช้มาก แต่ 80-90% คนไทยใช้เพื่อดูคอนเทนต์ของไทยเอง ซึ่งผู้ผลิตคอนเทนต์อาจจะได้ส่วนแบ่งรายได้ไม่มาก

ถ้า AIS สร้าง Platform ให้คนไทยใช้กันเอง โดยผู้ผลิตคอนเทนต์ได้ประโยชน์ 90% และ AIS ขอส่วนแบ่ง 10% แบบนี้จะดีกว่าหรือไม่

สรุป

ตลอดเวลา AIS คือบริษัทที่มีหุ้นมั่นคง ไม่หวือหวา แต่แน่นอนมากเรื่องจ่ายปันผล มีธุรกิจหลักคือโทรคมนาคมที่แข็งแกร่งเสมอมา มีการเติบโตทุกปี แม้จะมีการแข่งขันที่รุนแรงก็ผ่านมาได้ตลอด แต่การสร้าง Business Model ใหม่คือเรื่องสำคัญ ในระยะกลาง AIS Fibre, Enterprise เช่น Cyber Security, Cloud, ICT & IoT เป็นสิ่งที่เริ่มต้นแล้ว และกำลังจะเติบโตในตลาด

แต่ในระยะยาว คือ Digital Platform ยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก และยังไม่สำเร็จ ปีนี้เป็นต้นไป จะมุ่งเน้นมากขึ้นอีก จะเป็น New Source of Revenue ในอนาคต และยืนยันชัดเจนว่า AIS พร้อมร่วมมือเป็นพันธมิตรในทุกอุตสาหกรรมเพื่อโตไปด้วยกัน ถ้าทำสำเร็จ จะเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างอุตสาหกรรม นอกจาก AIS จะเติบโตขึ้น 1 เท่าตัว ยังช่วยให้อุตสาหกรรมอื่นๆ เติบโตขึ้นด้วย

แนวคิดไม่ใช่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่เป็นปลาใหญ่ช่วยปลาเล็กให้เติบโตแบบยั่งยืน เพราะถ้าปลาใหญ่โตคนเดียว สุดท้ายปลาเล็กก็ไม่รอด และรับรองว่าจะตายตามกันไปหมด

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา