โควิด-19 เป็นสิ่งที่สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จากเดิมเคยใช้ชีวิตนอกบ้าน ไปเดินห้างซื้อของช็อปปิ้ง กลายเป็นว่าต้องปรับรูปแบบการใช้ชีวิต อยู่แต่ภายในบ้านเป็นเวลาติดต่อกันนานนับเดือน
นั่นทำให้พฤติกรรมการซื้อของกินของใช้เปลี่ยนเป็นการซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทั้งการซื้อของผ่านเว็บไซต์ e-Commerce และแอปพลิเคชันช็อปปิ้งออนไลน์ ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวกลางระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ
อีกหนึ่งช่องทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทยคือ การซื้อของออนไลน์บน Social Commerce โดยเฉพาะบน Facebook ตัวอย่างกลุ่มซื้อขายของที่น่าสนใจ เช่น กลุ่มศิษย์เก่า–ศิษย์ปัจจุบันของสถานศึกษา ที่ตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้ผ่านพ้นอุปสรรคช่วงนี้ หนึ่งในนั้นคือ กล่มจุฬาฯมาร์เก็ตเพลส ที่ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 260,000 คน มีผู้โพสขายของนับพันรายการต่อวัน
Pain Point ของการซื้อ–ขาย ของออนไลน์
ปัญหาอย่างหนึ่งของการซื้อของบน Social Commerce คือ ผู้ซื้อต้องจ่ายเงินด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ขายเท่านั้น ไม่สามารถจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ ซึ่งการไม่สามารถจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตนั้นสร้างปัญหา Pain Point ให้กับทั้งคนซื้อคนขาย
- สินค้าที่มีราคาสูง เมื่อรูดบัตรเครดิตไม่ได้ ความอยากซื้อของลูกค้าก็ลดลง
- ต้องจ่ายเต็มจำนวน เงินออกจากบัญชีทันที ผ่อนชำระไม่ได้
- กังวลว่าโอนเงินไปแล้วจะได้ของจริงๆ หรือไม่ ไม่มั่นใจความน่าเชื่อถือของผู้ขาย และหากไม่ได้ของจะต้องตามกับใคร ใครจะเป็นตัวกลางที่เข้ามาช่วยเหลือ
- จ่ายก่อนแต่ได้ของทีหลัง โดยเฉพาะสินค้าที่ต้อง Pre-order ใช้เวลานานในการผลิต ไม่รู้จะได้ของเมื่อไหร่
ในมุมของผู้ขาย มีช่องทางรับชำระเงินเพียงการโอนเงินเข้าบัญชี แม้จะดูเป็นข้อดีที่ได้รับเงินทันที แต่ก็มีโอกาสโดนโกงเช่นเดียวกัน เช่นการปลอมหลักฐานการโอน หากไม่ตรวจสอบก็อาจพลาดได้ง่ายๆ ยิ่งพ่อค้าแม่ค้าที่มีคำสั่งซื้อจำนวนมากต่อวัน ก็จะยิ่งตรวจสอบได้ยากขึ้น
ปลอดภัย ซื้อง่าย จ่ายสะดวก ด้วย Visa
Visa ได้รวบรวมผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ชั้นนำ เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงการรับชำระเงินด้วยบัตรได้ง่ายขึ้นทาง Social Commerce เพื่อแก้ปัญหานี้ โดยพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถเพิ่มช่องทางในการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตของ Visa ผ่านระบบออนไลน์ได้แล้ว ผู้ขายเพียงแค่ส่งลิ้งก์การชำระเงินให้ลูกค้า และลูกค้าเพียงกรอกรายละเอียดของบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตของ Visa ก็สามารถชำระเงินได้ทันที ซึ่งการชำระเงินผ่าน Visa จะเป็นประโยชน์ทั้งกับผู้ซื้อและผู้ขาย
เพิ่มความน่าเชื่อของร้าน ลูกค้ามั่นใจ
การรับชำระเงินผ่านระบบของ Visa ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือของผู้ขาย มีกระบวนการคัดเลือกผู้ขายที่จะใช้ช่องทางการชำระเงินของ Visa ได้ รวมถึงช่องทางในการชำระเงินยังมีความปลอดภัยมากกว่า เพราะเมื่อลูกค้าต้องการชำระเงินผ่านบัตร Visa เพียงแค่ลูกค้าเข้าไปกรอกข้อมูลบัตรเครดิต หรือเดบิตของตัวเองบนลิ้งก์ที่ร้านค้าส่งให้ โดยร้านค้าจะไม่สามารถทราบข้อมูลในบัตรของลูกค้าได้เลย รู้เพียงแต่ว่าลูกค้าชำระเงินค่าสินค้าแล้ว ตัดปัญหาการถูกขโมยข้อมูลทางการเงิน
ลูกค้าได้ใช้โปรโมชันบัตรเครดิต
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งจากการชำระผ่านระบบของ Visa โดยเฉพาะลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิต จะสามารถใช้สิทธิประโยชน์จากการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้อย่างเต็มที่ ซึ่งแตกต่างจากการจ่ายเงินค่าสินค้าด้วยการโอนเงิน เช่น การเลือกรับคะแนนสะสมจากบัตรเครดิต การเลือกผ่อนค่าสินค้าได้ รวมถึงบัตรเครดิต Visa ของบางธนาคารยังสามารถเลือกรับส่วนลดผ่าน Cash Back ได้อีกด้วย โดยเงื่อนไขโปรโมชันของบัตรเครดิต Visa จะแตกต่างกันไปแล้วแต่ธนาคาร
ส่วนในมุมของผู้ขายหรือร้านค้า ก็สามารถกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการใช้จ่าย ด้วยการแจ้งโปรโมชันที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้าด้วยก็ได้เช่นกัน
ใช้ได้กับบัตร Visa ทุกประเภท
บริการ Visa Social Commerce มีข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือ สามารถใช้ได้กับบัตรที่มีสัญลักษณ์ Visa ทุกๆ ประเภท ไม่ได้จำกัดเฉพาะบัตรเครดิตเท่านั้น เพราะบัตรเดบิต บัตรเติมเงินแบบ Pre-paid ที่มีสัญลักษณ์ Visa ก็สามารถใช้งานได้ หรือลูกค้าที่อยู่ในต่างประเทศแต่อยากจะซื้อของโดยจ่ายเงินผ่านระบบของ Visa ก็ทำได้เช่นกัน
พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สมัครง่าย ใครๆ ก็สมัครได้
สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์คนไหนที่สนใจสมัครบริการ Visa Social Commerce เพื่อรับชำระเงินค่าสินค้าผ่านระบบ Visa เข้าไปที่เว็บไซต์ www.visa.co.th/everyonespeaksvisa แล้วทำการเลือกผู้ให้บริการชำระเงิน (Payment Facilitator) ที่มีเงื่อนไขและโปรโมชันที่ตรงกับความต้องการของตัวเอง หลังจากนั้นให้กรอกข้อมูล และอัพโหลดเอกสารพื้นฐานทั่วๆ ไป เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และข้อมูลบัญชีธนาคารที่ต้องการใช้ ซึ่งกระบวนการสมัครนี้ใช้เวลา 2-3 วันในการดำเนินการ
ช่วง 3 เดือนแรกนี้ผู้ให้บริการชำระเงิน (Payment Facilitator) มีโปรโมชันที่ช่วยส่งเสริมการทำธุรกิจของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์แต่ละคน เช่น การยกเว้นหรือให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมจากการจ่ายเงินค่าสินค้า การให้เครดิตเงินคืน รวมถึงช่วยโปรโมทร้านค้าของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ โดยโปรโมชันนี้จะมีความแตกต่างกันไป
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา