Startup ต้องฟัง เพราะ Visa เปิดเครื่องมือกว่า 200 ตัว หวังสร้างนวัตกรรมใหม่ให้โตไปด้วยกัน

โลกของวงการการเงินในตอนนี้ต่างหันมาเฝ้าดูกลุ่ม Startup โดยเฉพาะกับ Fintech ที่สร้างนวัตกรรมใหม่มาแข่งกับธุรกิจการเงินแบบดั้งเดิม ซึ่งก่อนหน้านี้ยักษ์ใหญ่วงการบัตรเครดิตอย่าง Visa ก็ยังมองอยู่ห่างๆ แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว

ภาพ pexels.com

Open 200 เครื่องมือให้ Startup – ธนาคารใช้

เครื่องมือ หรือ API กับ SDK ต่างเป็นอาวุธสำคัญในการทำธุรกิจของ Visa เช่นเครื่องมือการสร้าง Token หรือกลุ่มตัวเลขชั่วคราวในการใช้งานบัตรเครดิตออนไลน์ เพราะต้องใช้เงิน และทีมงานมหาศาลในพัฒนาขึ้นมา ดังนั้นการเก็บไว้ใช้ในองค์กรเพื่อสร้างความได้เปรียบคู่แข่งก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เมื่อตอนนี้ไอเดีย และนวัตกรรมใหม่เริ่มเข้ามาแทนที่ การเปิดเครื่องมือเหล่านี้จึงเกิดขึ้น

สุรพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า ทุกอย่างบนโลกกำลังขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และไอเดีย ดังนั้นการที่บริษัทยังอยู่เฉย และพัฒนาบริการใหม่ด้วยตนเอง โอกาสที่จะตามเทรนด์ไม่ทันก็มี ดังนั้นการหาพาร์ทเนอร์กลุ่ม Fintech รวมถึงกลุ่มธนาคารใหม่ๆ และการเปิดให้ใช้เครื่องมือ 200 ตัวแก่ผู้สนใจ จึงเป็นเรื่องจำเป็น โดยทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้ Visa Developer Platform

สุรพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย

โตไปด้วยกัน พร้อมยกระดับร้านค้า – ผู้บริโภค

“การเติบโตไปด้วยกัน ผ่านการจับมือ Fintech และกลุ่มธนาคารที่สนใจที่จะใช้เครื่องมือของ Visa เป็นเรื่องที่ควรจะทำตอนนี้ และด้วยเรากำลังเดินหน้า Open Policy ก็ยิ่งต้องทำเข้าไปใหญ่ โดยในประเทศไทยก็เริ่มมีธนาคาร และ Fintech หันมาคุยกับเรามากขึ้น เพราะการมาใช้เครื่องมือของเราโดยตรง ช่วยให้พวกเขาสามารถสร้างความแตกต่างในการแข่งขันได้ และตอบโจทย์ผู้บริโภค รวมถึงธุรกิจได้มากขึ้น”

สำหรับตัวอย่างที่เป็นไปได้ คือการใช้งานระบบ Geolocation ของ Visa ที่เชื่อมต่อกับร้านค้าทั่วโลก ทำให้รู้ว่าบัตรนั้นเกิดการรูดที่ไหน เมื่อไหร่ ดังนั้นการพัฒนาบริการปิด-เปิดบัตรเครดิตตามพื้นที่ ก็น่าจะช่วยให้การใช้งานนั้นสะดวกมากขึ้น เพราะการใช้งานต่างประเทศนั้น ผู้บริโภคมักถูกธนาคารระงับการใช้บัตร เพราะกลัวเกิดอันตราย แต่การสร้างบริการควบคุมการใช้บัตรตามรัศมีของที่ที่กำหนด ก็น่าจะช่วยเรื่องนี้ได้

ภาพ pixabay.com

คงแคมเปญการตลาดรักษาเบอร์หนึ่งไทย

อย่างไรก็ตามการทำตลาดกับผู้บริโภคในประเทศไทย Visa ก็ยังให้ความสำคัญ ผ่านการใช้ Big Data เพื่อประมวลผลข้อมูลการใช้งาน และสามารถลงโปรโมชั่นแคมเปญ เช่นการลดราคา 10% เมื่อใช้จ่ายด้วย Visa ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั้งในไทย และต่างประเทศ จนทำให้ผู้ใช้บัตร Visa ในประเทศไทยมีทั้งหมด 50 ล้านใบ เป็นอันดับ 1 และปีหน้าก็จะคงการทำตลาดแบบนี้ไว้เช่นเดิม

สรุป

แม้ Visa จะเป็นยักษ์ในการดูแลเรื่องบัตรเครดิต และคงอยู่ด้วยตัวเองไปได้อีกยาว แต่ด้วยกระแสเรื่องการใช้ไอเดีย และนวัตกรรมใหม่มาช่วยธุรกิจ การเปิดเครื่องมือต่างๆ ให้กับผู้ที่สนใจใช้งาน และพัฒนาธุรกิจไปด้วยกัน ก็น่าจะสร้างให้ Visa เติบโตได้อย่างยั่งยืน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา