รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตกหนักเมื่อเช้านี้ว่าขอให้ใจเย็นๆ อย่าได้แตกตื่นเรื่องหุ้นตก และเชื่อว่าจีนสามารถควบคุมเรื่องไวรัสโคโรนานี้ได้
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีตลาดหุ้นไทยที่วันนี้นั้นได้ลดลงไป 45.77 จุด คิดเป็น 2.92% ในวันนี้นั้นเนื่องจากกรณีของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่ระบาดเพิ่มขึ้นในหลายๆ ประเทศ ซึ่งประเทศไทยก็มีคนไข้ที่ติดเชื้อไวรัสนี้ด้วย ว่า “เป็นภาวะทั่วที่เกิดขึ้นทั่วโลกในทุกประเทศที่มีการพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ขอให้นักลงทุนใจเย็น หุ้นไทยมีตกก็มีขึ้น เพราะพื้นฐานของเศรษฐกิจดีอยู่แล้ว”
- [BI Podcast] เศรษฐกิจไทย 2020 จะไปไหวหรือไม่
- UBS มองหุ้นท่องเที่ยวไทยกลับมาอ่อนแอ แต่หุ้นเอเชียได้รับผลกระทบระยะสั้น กรณีไวรัสโคโรนา
- โบรกเกอร์ไทย-ต่างชาติ กังวล “งบประมาณปี 63” ล่าช้า ส่งผลกระทบต่อ GDP และหุ้นไทย
ก่อนหน้านี้นั้น UBS มีมองว่าเศรษฐกิจไทยนั้นเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเกือบๆ 10% ของ GDP ไทย และที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัวในช่วงที่ผ่านมาจากนักท่องเที่ยวจีน แต่สถานการณ์ไวรัสโคโรนาที่เกิดขึ้นส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวกลับไปอ่อนแออีกครั้ง อย่างไรก็ดีหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวของไทยเมื่อคิดเป็นสัดส่วนในดัชนีตลาดหลักรัพย์แห่งประเทศไทยถือว่ายังน้อยมาก
รองนายกรัฐมนตรี ยังได้ออกมากล่าวเสริมด้วยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่เกิดขึ้นนั้นกระทบกับภาคการท่องเที่ยวของไทยในระยะสั้น อย่างไรก็ดีรองนายกรัฐมนตรียังเชื่อว่ารัฐบาลจีนจะสามารถควบคุมการแพร่เชื้อไวรัสนี้ได้อย่างแน่นอน พร้อมได้ชักชวนให้คนไทยหันมาเที่ยวในไทยมากขึ้น พร้อมกับดึงนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ มาทดแทนจีนในช่วงนี้
ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประเมินว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ถ้าหากอยู่ในกรอบระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน จากการที่ทางการจีนออกมาตรการขั้นสูงเพื่อควบคุมสถานการณ์อย่างรวดเร็ว และไม่มีการแพร่ระบาดในไทยและประเทศอื่นๆ น่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยและการเดินทางท่องเที่ยวของชาวต่างชาติที่เป็นตลาดเป้าหมายของไทย ทำให้คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในปี 2563 น่าจะมีประมาณ 11.10-11.30 ล้านคน แต่ถ้ากรณีแย่สุดอาจลดลงเหลือประมาณ 10.94-10.77 ล้านคน หรือหดตัวประมาณ 0.5%-2.0%
ที่มา – โพสต์ทูเดย์, RYT9
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา