VFS Global ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า และบริการระหว่างประเทศ เตรียมเป็นตัวกลางยื่นขอวีซ่าผู้พำนักระยะยาวในประเทศไทย (LTR) หลังได้รับการรับรองจาก BOI รับกระแส Digital Nomad เติบโต และดึงคนเก่งเข้ามาในประเทศไทย ต่อยอดโมเดลธุรกิจจากเป็นแค่ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าให้กับประเทศต่าง ๆ
VFS Global รับทำวีซ่าระยะยาวในไทย
เกาชิค กอช หัวหน้าฝ่ายออสตราเลเชีย VFS Global แจ้งว่า ในฐานะศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า หนังสือเดินทาง และบริการกงสุล ผ่านการร่วมมือกับรัฐบาลในหลากหลายประเทศ ทำให้เห็นกระแสการท่องเที่ยว รวมถึงรูปแบบในการเปลี่ยนสถานที่ทำงานของหลากหลายประเทศ
นั่นคือของการเป็นตัวแทนศูนย์ยื่นขอวีซ่าผู้พำนักระยะยาว (LTR) ในประเทศไทย ผ่าน https://ltr.vfsevisa.com โดยแพลตฟอร์มนี้ช่วยลดความซับซ้อนของขั้นตอนการสมัคร พร้อมทั้งให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทั้งกระบวนการ ถือเป็นการสร้างโอกาสใหม่ให้กับตัวธุรกิจ รวมถึงประเทศไทย
“ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้เดินทางทั่วโลก และการเปิดตัวบริการวีซ่าดิจิทัลนี้จะช่วยให้กระบวนการยื่นขอวีซ่าเป็นเรื่องง่าย และสะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาคสำหรับกลุ่มบุคคลที่มีศักยภาพสูง”
เปิดข้อดีการได้วีซ่าระยะยาวในประเทศไทย
VFS Global ได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนที่ได้รับการรับรอง (Certified Agent 2 – CA 2) จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI เพื่อให้บริการยื่นคำร้องขอวีซ่า LTR สำหรับประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2024 และบริษัทได้เปิดตัวช่องทางการสมัครวีซ่า LTR ออนไลน์เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2025
สำหรับข้อดีของวีซ่าระยะยาวในประเทศไทยจะประกอบด้วย อนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยได้ 10 ปี โดยครั้งแรกได้รับวีซ่า 5 ปี ซึ่งสามารถต่ออายุได้ อีก 5 ปี หากมีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด, ยกเว้นอัตราการจ้างงานจากคนไทย 4 คน ต่อคนต่างชาติ 1 คน, ได้ใบอนุญาตทำงานแบบดิจิทัล และยกเว้นภาษีสำหรับรายได้จากต่างประเทศ เป็นต้น
“โปรแกรมวีซ่า LTR ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี และปลอดภาษีเพื่อเพิ่มความน่าดึงดูดใจให้กับประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางระดับภูมิภาคสำหรับการอยู่อาศัยและทำธุรกิจ ทำให้เกิดการใช้จ่าย และการลงทุนหมุนเวียนในประเทศ” คนธรส เหลาประดิษฐ์ ผู้อำนวยการกองบริการชาวต่างชาติ (ผู้อำนวยการระดับสูง) BOI กล่าว
เจาะธุรกิจ VFS Global ที่สร้างรายได้จากการเป็นตัวแทน
Brand Inside พบว่า รูปแบบธุรกิจของ VFS Global ไม่ได้เป็นผู้พิจารณาวีซ่า แต่เป็นเพียงศูนย์บริการรับคำร้อง และส่งเรื่องต่อไปที่สถานทูตต่าง ๆ ทำให้บริษัทไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเรื่องตัวเลข รวมถึงจำนวนคำร้องต่าง ๆ ได้ แจ้งได้เพียงเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล เช่น พนักงานไม่สามารถพกโทรศัพท์ และมีระบบความปลอดภัยที่มั่นคง
ปัจจุบัน VFS Global ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลที่เป็นลูกค้า 68 แห่ง โดยมีเครือข่ายศูนย์รับคำร้องทั่วโลกรวมแล้วมากกว่า 3,500 แห่ง ใน 153 ประเทศ บริษัทดำเนินการรับคำร้องขอวีซ่ามามากกว่า 305 ล้านใบคำร้องขอวีซ่าแล้ว นับตั้งแต่เริ่มกิจการเมื่อปี 2001
สำหรับในประเทศไทย VFS Global ให้บริการมาตั้งแต่ปี 2005 มีพนักงานรวมกว่า 200 คน ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ, เชียงใหม่ และภูเก็ต รวม 37 แห่ง รองรับบริการเกี่ยวกับการขอวีซ่า 27 ประเทศ และมีบริการอื่น ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการขอวีซ่า เช่น การรับทำวีซ่านอกสถานที่ และมีห้องรับรองพิเศษสำหรับบุคคลสำคัญ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา