ย้ายฐานการผลิตไม่ง่าย เร็วไป 12 ปี ถ้าเวียดนามคิดจะเทียบจีน

เป็นเรื่องฮือฮาอย่างมากในช่วงหลังๆ ว่าเวียดนามกำลังจะกลายเป็นจุดหมายใหม่แห่งการลงทุน ธุรกิจต่างๆ กำลังจะย้ายฐานการผลิตออกจากจีนและมุ่งหน้าสู่เวียดนามแทน คำถามคือ… แล้วเวียดนามพร้อมที่จะเป็นจีนสองของเอเชียจริงหรือ?

Vietnam Port Container Shipping
ภาพจาก Shutterstock

จริงอยู่ที่ช่วงหลังๆ เศรษฐกิจของเวียดนามเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (เติบโต 7% ในปี 2019 และเติบโต 3.8% ใน Q1/2020) ทำให้เวียดนามกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าจับตามากที่สุดของอาเซียนในขณะนี้

ท่ามกลางสงครามการค้า โควิด และการแย่งชิงฐานการผลิตในกลุ่มประเทศแถบเอเชีย ม้ามืดอย่างเวียดนามเองก็กำลังคาดหวังอย่างหนักที่จะดึงดูดธุรกิจและการลงทุนจากต่างชาติโดยใช้แต้มต่อจากความเชื่อมั่นในผลงานการควบคุมสถานการณ์โรคโควิด-19 ให้เป็นประโยชน์

GDP viet 2020
GDP growth rate ของเวียดนาม ไทย มาเลเซีย ช่วงปี 2011-2018 ข้อมูลจาก World Bank

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเวียดนามจะเป็นหนึ่งในประเทศที่เนื้อหอมที่สุดในเวลานี้ แต่เวียดนามพร้อมแล้วจริงๆ หรือกับการแทนที่ยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจแบบจีน?

แน่นอนว่ายังไม่ใช่ตอนนี้ สถานการณ์ของเวียดนามในตอนนี้อาจจะดูคล้ายกับจีนเมื่อ 10 ปีก่อน แต่ถ้าเทียบกันแล้ว เวียดนามยังต้องใช้เวลามากถึง 12 ปีเพื่อที่จะมีรายได้ต่อหัว (GDP per capita) เทียบเท่ากับจีน ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า เวียดนามจะต้องรักษาระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไว้ที่ 7% แบบนี้ไปเรื่อยๆ

เทียบกันตั้งแต่เรื่องการประหยัดต่อขนาดหรือ economy of scale ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดของจีน ก็นับว่าเวียดนามยังห่างชั้น เพราะการผลิตส่วนใหญ่ในจีนทำมาเพื่อรองรับตลาดภายในประเทศ ซึ่งถ้าเทียบกันแล้วใหญ่กว่าเวียดนามเยอะ

ไม่ใช่แค่นั้น พอมาดูภาคการผลิตในเวียดนามเองก็จะเห็นว่าขนาดของภาคการผลิตเวียดนามนั้นเล็กเกินกว่าจะดึงดูดการลงทุนขนาดใหญ่จากต่างประเทศและอาจจะมีกำลังการผลิตที่ไม่เพียงพอ

Vietnam เวียดนาม
ภาพจาก Shutterstock

ถ้าดูตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment หรือ FDI) ของเวียดนามจริงๆ ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2020 จะเห็นว่าถึงแม้ตัวเลข FDI ของเวียดนามจะเพิ่มขึ้นถึง 27% อยู่ที่ 218,198 ล้านบาท แต่มากกว่าครึ่งของมูลค่าการลงทุนมาจากโปรเจคเดียวคือการลงทุนในก๊าซธรรมชาติของสิงคโปร์ที่สูงถึง 128,352 ล้านบาท

ฉะนั้นหากเฉลี่ยๆ FDI ของเวียดนามในแต่ละโครงการช่วง 4 เดือนแรกจะลดลงเกือบ 4 เท่า เหลือแค่ 87 ล้านบาทจาก 250 ล้านบาทในปีที่แล้ว

ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าความเนื้อหอมของเวียดนามจะเป็นแค่เสียงลือเสียงเล่าอ้างหรือจะได้กลายเป็นประเทศของจริงแห่งใหม่ในแถบเอเชีย

Note: เพิ่มเติมเรื่อง FDI ของเวียดนามในช่วง 4 เดือนแรก

ที่มา: (1), (2), (3),(4), (5)

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

A freelance writer at Brand Inside who is hitting hard by COVID-19, main interests are international economics, business & power dynamics, trade war, and public policy.