เปิดแนวคิด Uwae.online เว็บไซต์ครอบครัว จาก Passion ในการเลี้ยงลูกของหมอ ฉัตรอดุลล์

ในปัจจุบันหากลองสำรวจดูตามแอปพลิเคชันช็อปปิ้งออนไลน์หลายๆ แห่ง จะพบว่าสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหมวดหนึ่งคือ สินค้าที่เกี่ยวกับแม่และเด็ก โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่าตลาดสินค้าแม่และเด็กมีมูลค่ามากถึง 40,300 ล้านบาท เมื่อปี 2562

แม้ว่าที่ผ่านมาอัตราการเกิดของไทยจะลดลงเฉลี่ย 3.4% ต่อปี และอัตราการมีลูกของผู้หญิงจะลดลงเหลือเพียง 1.5-1.6 คนต่อผู้หญิงหนึ่งคนก็ตาม (ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย) แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าการที่คนไทยนิยมมีลูกน้อยลง จะทำให้พ่อแม่สามารถทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดของครอบครัว เพื่อเลี้ยงลูกของตัวเองให้มีคุณภาพมากกว่าเดิม

แต่ปัญหาของพ่อแม่ และครอบครัวคนรุ่นใหม่คือ การขาดข้อมูลที่ถูกต้องที่จะสามารถใช้เพื่อเลี้ยงลูกให้เติบโตอย่างมีคุณภาพได้ เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกและครอบครัว จึงกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญ

คุณหมอ ฉัตรอดุลล์ สีณพงศ์ภิภิธ ภาพจาก Uwae.online

Uwae.online เป็นเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก สำหรับทุกๆ คนในครอบครัวเว็บไซต์ใหม่ ก่อตั้งโดย คุณหมอ ฉัตรอดุลล์ สีณพงศ์ภิภิธ ซึ่งเป็นคุณพ่ออีกคนหนึ่งที่ใช้การมีลูก (น้องเร) เป็นจุดเริ่มต้น และแรงบันดาลใจในการทำเว็บไซต์เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกขึ้นมา

ลูกคือแรงบันดาลใจ และจุดเริ่มต้น

คุณหมอเล่าว่า จุดเริ่มต้นในการทำเว็บไซต์ Uwae.online เกิดจากประสบการณ์ส่วนตัว ตั้งแต่ภรรยาตั้งท้อง เพราะการมีลูกเป็นเหมือนการเปลี่ยนพฤติกรรม มีเรื่องใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้ จนเกิดเป็นความวิตกกังวล ความสงสัย เมื่อเกิดความสงสัยจึงเริ่มหาข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง โดยเริ่มจากการหาข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษก่อน

คุณหมอ ฉัตรอดุลล์ และลูกชาย (น้องเร) ภาพจาก Uwae.online

แน่นอนว่าการหาข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษก็จะได้ข้อมูลจำนวนมาก คำถามเดียวอาจได้คำตอบกลับมาถึง 30 คำตอบ ซึ่งคุณหมอเล่าเสริมว่า “ไม่รู้ว่าข้อมูลอันไหนน่าเชื่อถือ และต้องใช้เวลานานในการหาข้อมูล” แต่ในทางกลับกัน เมื่อลองค้นหาข้อมูลที่สงสัยเป็นภาษาไทย กลับพบว่าข้อมูลที่ได้ส่วนใหญ่จะเป็นการแสดงความคิดเห็นของบรรดาพ่อแม่ในเว็บบอร์ดต่างๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้องจริงๆ หรือไม่

ปัญหาเรื่องการหาข้อมูลจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณหมอ เกิดแรงบันดาลใจในการทำเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลการเลี้ยงลูกสำหรับครอบครัวคนไทย โดยอยากให้มีเว็บไซต์ที่ตอบสนองความต้องการของคนในครอบครัวทั้งหมด ไม่ใช่แค่การให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีเรื่องของการใช้ชีวิต และกิจกรรมสำหรับครอบครัวอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันยังไม่ค่อยมีเว็บไซต์อื่นๆ ตอบโจทย์ความต้องการนี้

ภาพจาก Uwae.online

โดยในปัจจุบันเว็บไซต์ Uwae.online เพิ่งเปิดตัวไปได้เพียงสัปดาห์กว่าๆ และมีคอนเทนต์ต่างๆ อยู่แล้วประมาณ 400 คอนเทนต์ แต่ด้วยความที่พ่อแม่ หรือคนในครอบครัวแต่ละคน มีความสนใจที่แตกต่างกัน คุณหมอจึงนำเอาเทคโนโลยี AI, Big Data และ Machine Learning เข้ามาคัดเลือกคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับผู้อ่านแต่ละคน

แต่อย่าลืมว่าการทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องของการทำตาม Passion หรือสิ่งที่หลงไหลเพียงอย่างเดียว คุณหมอเล่าด้วยว่า ได้นำประสบการณ์ด้านการเงินที่คุณหมอเคยทำมาตลอดหลายปี มาใช้ในการทำธุรกิจเว็บไซต์ครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะเรื่องการเงิน สินเชื้อ การปล่อยกู้ ทำให้เข้าใจกระบวนการทำงาน ทำให้ Passion ที่มีเป็นเรื่องที่ควบคู่ไปกับการทำธุรกิจโดยไม่มีปัญหา

ตลาดแม่และเด็กยังเติบโต เป็นช่องทางสำคัญในการทำธุรกิจ

แต่แน่นอนว่าการทำเว็บไซต์ก็เป็นการทำธุรกิจในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจำเป็นที่เจ้าของธุรกิจจะต้องเห็นช่องทางอะไรบางอย่าง ที่คาดว่าหากลงมือทำแล้วธุรกิจของตัวเองจะประสบความสำเร็จได้ คุณหมอเล่าว่า “ตลาดแม่และเด็กในธุรกิจ e-Commerce เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มากๆ ในทุกๆ เว็บไซต์ สินค้าแม่และเด็กเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุด งานแสดงสินค้าแม่และเด็กมีเงินหมุนเวียนนับหมื่นล้านบาท พ่อแม่ยอมตัดค่าใช้จ่ายของตัวเองเพื่อนำเงินมาใช้กับลูก ลูกต้องได้สิ่งที่ดีที่สุด”

จากแนวโน้มของตลาดสินค้าแม่และเด็กที่กำลังเติบโต คุณหมอจึงใช้จุดนี้เป็นช่องทางสำคัญในการทำธุรกิจเว็บไซต์ Uwae.online ของตัวเองขึ้นมาแต่อย่างไรก็ตามยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่คุณหมอให้ความสำคัญไม่แพ้การเห็นช่องทางในการทำธุรกิจ นั่นคือการมองเรื่องประโยชน์ที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ และครอบครัวจะได้รับจากการเว็บไซต์ Uwae.online

หาทางออกให้กับ Pain Point ของพ่อแม่

การมีลูกสักคนหนึ่ง แม้ว่าพ่อแม่แต่ละคนต้องมีการเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด เพื่อเลี้ยงลูกให้เติบโตอย่างมีคุณภาพได้ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า การเป็นพ่อแม่มือใหม่ป้ายแดง ต้องพบเจอกับปัญหาใหญ่ๆ ในการเลี้ยงลูก หรือที่เรียกว่า Pain Point อย่างแน่นอน

พอถามคุณหมอเรื่อง Pain Point ของคุณหมอจากประสบการณ์ในการมีลูกคนแรก เป็นอย่างไรบ้าง? คุณหมอตอบกลับมาว่า Pain Point ของคนเป็นพ่อแม่เกิดจากความไม่รู้ เพราะการมีลูกคือการเปลี่ยนโลก เปลี่ยนการรับรู้ เปลี่ยนข้อมูลใหม่ๆ ทั้งหมด

นอกจากนี้คุณหมอยังเล่าเสริมด้วยว่า Pain Point ของพ่อแม่ที่มีลูกแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน แต่แบ่งออกเป็นประเภทง่ายๆ ได้แก่

  • Pain Point แบบมีข้อมูลมากเกินไป (Overload Information) ไม่รู้ว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง ข้อมูลอะไรที่ใช้ได้ และใช้ไม่ได้กับลูก
  • Pain Point แบบไม่มีข้อมูลเลย (Lack of Information) เกิดจากความไม่ใส่ใจ หรือคิดว่ารอลูกคลอดก่อนแล้วค่อยหาข้อมูลเพิ่มเติมก็ได้
  • Pain Point ด้านข้อมูลภาษาไทย เพราะข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกที่เป็นภาษาไทยมีจำกัด เป็นการแสดงความคิดเห็นของพ่อแม่ในเว็บบอร์ด ข้อมูลอาจไม่มีความน่าเชื่อถือ
ภาพจาก Uwae.online

Target สำคัญของ Uwae.online ที่ไม่เจาะลงไปที่กลุ่มใด

ถ้านึกถึงเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก เชื่อว่าหลายๆ คนคงต้องเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายหลักของเว็บไซต์แนวๆ นี้ ต้องเป็นกลุ่มคุณแม่แน่นอน เพราะขนาดคำที่ใช้เรียกธุรกิจเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก ยังใช้คำว่า “ตลาดแม่และเด็ก” แต่อย่าลืมว่าความจริงแล้วการมีลูกคนหนึ่ง ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับคนสองคน คือพ่อแม่เท่านั้น แต่คนอื่นๆ ในครอบครัวก็อาจต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน ทั้ง ปู่ ย่า ตา ยาย หรือแม้แต่ญาติคนอื่นๆ ก็ตาม

คุณหมอจึงเล่าว่า Uwae.online จะไม่ได้เน้นไปที่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นสำคัญ ใครๆ ก็สามารถเข้ามาในเว็บไซต์ได้ โดยจะมีการแนะนำคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับแต่ละคนให้ เพราะอย่าลืมว่า “ครอบครัวไทยเป็นของครัวขยาย (Extended Family) ไม่ใช่ครอบครัวเดี่ยวๆ (Single Family) มีปู่ ย่า ตา ยาย พี่ น้อง และอาเข้ามาช่วยเลี้ยงเสมอ” แต่แน่นอนว่าการจะช่วยเลี้ยงหลานก็ต้องมีความรู้เช่นกัน

แต่ถ้าถามว่ามองเป้าหมายของคนที่จะเข้ามาที่เว็บไซต์ Uwae.online เป็นคนกลุ่มใด คุณหมอตอบว่า เป็นกลุ่มคนที่เริ่มมีครอบครัว อยู่ในช่วงตั้งท้อง ไปจนถึง ครอบครัวที่มีลูกอายุไม่เกิน 10 ปี เพราะส่วนใหญ่แล้วคนที่เป็นพ่อแม่ มักให้ความสนใจกับลูกอย่างเต็มที่ในช่วงที่ลูกอายุไม่เกิน 10 ปี ดังนั้นกลุ่มนี้จึงมีความสำคัญมากที่สุด

คนไทยมีลูกน้อยลง แต่ไม่เป็นอุปสรรค

อย่างไรก็ตามแน่นอนว่าการทำธุรกิจทุกๆ ประเภทต้องมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ โดยเฉพาะสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน ที่คนไทยเริ่มมีลูกลดลงทุกปีๆ เนื่องจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อถามคุณหมอว่าอัตราการมีลูกที่น้อยลงของคนไทย จะกระทบกับการทำธุรกิจเว็บไซต์หรือไม่ คุณหมอตอบกลับด้วยความมั่นใจว่า ไม่น่ามีผลกระทบ

เพราะปัจจุบันคนไทยยังคงมีลูกประมาณ 8 แสน – 1 ล้านคนต่อปีโดยประมาณ คุณหมอเชื่อว่า “จำนวนตัวเลขคนมีลูกไม่ได้น้อยลงมาก แต่ยังมองเห็นโอกาสที่พ่อแม่จะเลี้ยงลูกอย่างมีคุณภาพมากกว่า มีเวลาที่จะอยู่กับลูก ทำกิจกรรมกับลูกมากขึ้น พ่อแม่ยุคใหม่จะเลี้ยงลูกด้วยความเข้าใจ และมีคุณภาพมากขึ้น”

ภาพจาก Uwae.online

ทำเว็บไซต์ไม่ใช่เรื่องยาก ความยากคือการสร้างความเข้าใจ

แม้การทำเว็บไซต์ให้มีความสวยงาม น่าใช้งานจะเป็นเรื่องยากของใครหลายๆ คน แต่คุณหมอ มองว่าการทำเว็บไซต์ไม่ได้ยากเท่าการหาข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ มีแหล่งที่มาชัดเจนมาใส่ รวมถึงต้องหาวิธีจัดวาง หาวิธีคิดว่าจะนำข้อมูลอะไรนำเสนอให้กับผู้อ่านบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีการใช้เทคโนโลยีมายุกต์ใช้ด้วย

เรื่องยากอีกหนึ่งอย่างคือ การทำความเข้าใจผู้ที่จะเข้ามาใช้งานเว็บไซต์ นั่นคือกลุ่มคนที่เป็นพ่อแม่ หรือแม้แต่คนอื่นๆ ในครอบครัวที่ต้องมีส่วนร่วมในการเลี้ยงหลานๆ ด้วย มันเป็นความยาก และความท้าทายที่ต้องใช้ประสบการณ์ในการทำความเข้าใจ ต้องคาดการณ์สิ่งที่คนเป็นพ่อแม่สนใจ เพื่อนำเสนอสิ่งที่พ่อแม่มีความต้องการให้ได้

ข้อมูลจาก – ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา