ส่องตลาดโทรทัศน์ในสหรัฐอเมริกา: ราคาอาจถูกลง แต่กลายเป็นแพลตฟอร์มในการยิงโฆษณาของแบรนด์

แม้ผู้คนจะเริ่มรับชมความบันเทิงจากอุปกรณ์อย่างสมาร์ตโฟน และแท็บเล็ตกันมากขึ้น แต่โทรทัศน์ยังเป็นอีกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายคนเลือกซื้อไว้ในบ้านอย่างแรก ๆ เพราะด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ ทำให้การรับชมความบันเทิงทำได้เต็มอรรถรสมากขึ้น และด้วยต้นทุนทางเทคโนโลยีที่ถูกลง การครอบครองโทรทัศน์ที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ทำได้ง่ายขึ้นด้วย

จึงไม่แปลกที่การซื้อโทรทัศน์ในแต่ละครั้ง ผู้ขายเริ่มถูกถามถึงเทคโนโลยีของหน้าจอว่าเป็น OLED หรือหน้าจอแบบอื่นหรือไม่ รวมถึงการเคลื่อนไหวของภาพ และความชัดเจนของสีทำได้ดีขนาดไหน แต่ถึงอย่างไรฝั่งผู้ผลิตกลับมองโทรทัศน์เป็นเครื่องมืออื่น และนั่นคือการเป็นแพลตฟอร์มการยิงโฆษณาที่มีประสิทธิภาพนั่นเอง

หนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจคือตลาดโทรทัศน์ในสหรัฐอเมริกาปี 2025 ที่กำลังเดินหน้าไปสู่ทิศทางดังกล่าวเต็มรูปแบบ ซึ่งสำนักข่าว Ars Technica ได้วิเคราะห์เหตุการณ์นี้ รวมถึงยกการกระทำของแบรนด์ต่าง ๆ มาได้อย่างน่าสนใจ และ Brand Inside สรุปออกมาได้ดังนี้

โทรทัศน์

Walmart กับการบุกตลาดด้วย Vizio

ตัวอย่างแรกที่ Ars Technica วิเคราะห์ออกมาคือ Vizio แบรนด์โทรทัศน์ที่คนไทยอาจไม่คุ้นหูนัก และปัจจุบันมี Walmart ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าของ หลังจากเข้าซื้อกิจการในเดือน ธ.ค. 2024 ด้วยมูลค่ากว่า 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

วัตถุประสงค์ของ Walmart คือการเข้ามามีสิทธิ์ในระบบปฏิบัติการ SmartCast ของ Vizio ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างรายได้จากโฆษณาเป็นหลัก เพราะเมื่อมีข้อมูลการใช้งานโทรทัศน์ของ Vizio บริษัทสามารถนำมาต่อยอดในการทำเครือข่ายบริการโฆษณาสินค้าทั้งผ่านโทรทัศน์ และเครื่องชำระเงินในร้านค้า

ในทางกลับกันการมี Vizio อยู่ใน Walmart ยังสร้างแรงกดดันให้กับผู้ผลิตโทรทัศน์แบรนด์อื่น โดยเฉพาะกลุ่มแบรนด์จีนราคาประหยัด ที่อาจต้องถูกบังคับให้ผลิตโทรทัศน์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ SmartCast ของ Vizio เท่านั้นหากต้องการจำหน่ายโทรทัศน์กับ Walmart

Roku ที่อาจถูกซื้อกิจการโดยบริษัทโฆษณา

อีกหนึ่งบริษัทที่น่าสนใจคือ Roku ผู้ผลิตอุปกรณ์เชื่อมต่อที่สามารถเปลี่ยนโทรทัศน์ให้กลายเป็นสมาร์ตทีวีได้ กำลังเจอการแข่งขันอย่างหนัก ผ่านราคาของสมาร์ตทีวีที่ปรับลดลงเรื่อย ๆ จนตัวอุปกรณ์นี้อาจไม่มีความจำเป็น และนักวิเคราะห์ยังมองว่า Roku อาจถูกซื้อกิจการจาก The Trade Desk บริษัทโฆษณาดิจิทัลในปี 2025 ด้วย

นอกจากนี้ยังมี Target ธุรกิจค้าปลีก และคู่แข่งสำคัญของ Walmart ที่อาจพิจารณาซื้อกิจการ Roku เช่นเดียวกัน เพราะทั้งสองบริษัทต่างอยู่ระหว่างพิจารณาพัฒนาระบบปฏิบัติการบนโทรทัศน์ เพื่อยกระดับการให้บริการโฆษณาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันยังมีผู้ผลิตโทรทัศน์ราคาถูกหลายแบรนด์ที่เดินหน้ารุกตลาดโฆษณาบนโทรทัศน์เต็มรูปแบบ ถึงขั้นยอมขายโทรทัศน์ในราคาต่ำ หรือขาดทุน เพื่อได้มาซึ่งพฤติกรรม และข้อมูลการใช้งานของลูกค้า จนสามารถแสดงโฆษณาได้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด

ผู้บริโภคที่สหรัฐฯ ยินดีกับการรับชมโฆษณา

รายงานจาก TiVo Video Trends ชี้ว่า 64.3% ของผู้ใช้งานบริการสตรีมมิ่งแบบสมัครสมาชิกในอเมริกาเหนือเลือกใช้แพ็คเกจที่มีโฆษณาในปี 2024 และผู้บริโภคกว่า 77.8% ยอมรับได้กับการมีโฆษณาในเนื้อหาที่พวกเขาชม การยอมรับโฆษณาในระดับนี้ทำให้ผู้ผลิตทีวีสามารถทดลองรูปแบบโฆษณาใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มรายได้

เมื่อยินดีที่จะรับชมโฆษณา ก็อาจเกิด OS Wars หรือสงครามของระบบปฏิบัติการของโทรทัศน์รุ่นต่าง ๆ ได้ในปี 2025 เช่นกัน เพราะนอกจากบริษัทผลิตโทรทัศน์ที่พยายามออกแบบระบบปฏิบัติการให้ตอบโจทย์การโฆษณามากที่สุด ยังมีธุรกิจอื่น เช่น บริษัทสื่อ และบริษัทโฆษณาเข้ามามีส่วนร่วมในศึกนี้ด้วย

และเมื่อมีสงครามย่อมมีผู้แพ้ ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า สุดท้ายแล้วจากระบบปฏิบัติการจำนวนมากที่อยู่ในโทรทัศน์แต่ละแบรนด์จะเหลือเพียงไม่กี่ระบบผ่านการที่ระบบที่ไม่สามารถต่อสู้ในสงครามได้จะถูกควบรวมกับระบบที่ใหญ่กว่า คล้ายกับสงครามระบบปฏิบัติการในอุตสาหกรรมอื่น

ให้ความสำคัญกับโฆษณาจนละเลยคุณภาพฮาร์ดแวร์

ในทางกลับกันเมื่อผู้ผลิตโทรทัศน์ต่างให้ความสำคัญกับคุณภาพของระบบปฏิบัติการ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค ผ่านการแนะนำเนื้อหาได้ตรงกับความสนใจ และเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน แบรนด์เหล่านั้นอาจเริ่มละเลยคุณภาพของฮาร์ดแวร์ จนทำให้บางชิ้นส่วนของโทรทัศน์อาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าในอดีต

ขณะเดียวกันการขับเคลื่อนด้วยโฆษณาของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างโทรทัศน์อาจดูบิดเบือนการพัฒนาคุณภาพโทรทัศน์ให้มีภาพ เสียง หรือระบบการรับชมอื่น ๆ ที่มีคุณภาพสูง กลายเป็นการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ดีที่สุด เพื่อได้รับข้อมูลของผู้บริโภค และนำมาสร้างรายได้จากโฆษณาแทน

กลายเป็นว่า ผู้ที่ซื้อโทรทัศน์เพื่อมาใช้งานรับชมรายการต่าง ๆ โดยไม่มีโฆษณา กลับต้องพบเจอโฆษณาอย่างไม่ได้ตั้งใจในจุดต่าง ๆ และยังไม่สามารถปฏิเสธการมีอยู่ของโฆษณาเหล่านั้นได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้อาจเกิดนอกเหนือจากสหรัฐอเมริกาในปี 2025 เช่นกัน

Samsung TV Plus

โทรทัศน์ในประเทศไทยก็เริ่มมีโฆษณาแล้ว

Brand Inside พบว่า ปัจจุบันโทรทัศน์บางแบรนด์เริ่มใส่ระบบโฆษณาเข้ามาแล้ว เช่น Samsung ที่มีการอัพเดตให้โทรทัศน์มี Samsung TV Plus บริการรับชมอินเทอร์เน็ตทีวีรายการความบันเทิงต่าง ๆ แบบฟรี แต่ก็มาพร้อมกับบริเวณแถบเมื่อกดปุ่ม Home จะมีพื้นที่โฆษณาเพิ่มขึ้นมา ซึ่งตอนนี้เป็นโฆษณา Samsung TV Plus

เรียกว่ากลายเป็นความคุ้นชินใหม่ก็ได้หลังจากนี้ที่การเปิดโทรทัศน์ขึ้นมาเพื่อรับชมความบันเทิงจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ฟรีทีวี ก็จะต้องพบเจอโฆษณาบนระบบปฏิบัติการของโทรทัศน์แต่ละแบรนด์ก่อนเป็นอย่างแรก ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่ไม่ประทับใจนักสำหรับผู้บริโภคที่ไม่ได้ชื่นชอบที่โฆษณามารบกวนความบันเทิงส่วนบุคคล

ดังนั้นต้องมาลองติดตามกันว่า จะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ใดอีกบ้างที่จะเดินหน้าใส่ระบบโฆษณาเข้ามาในระบบปฏิบัติการของโทรทัศน์เพื่อสร้างรายได้จากโฆษณาในอนาคต หรือจะมีแบรนด์ใดบ้างที่สามารถสร้างรายได้จากโฆษณาจนสามารถนำเม็ดเงินดังกล่าวมาทำให้ราคาจำหน่ายของโทรทัศน์ถูกลงหลังจากนี้

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา