กระทรวงแรงงานของสหรัฐ ได้เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์นี้มากถึง 3.3 ล้านคน มากที่สุดนับตั้งแต่เก็บสิถิติมาตั้งแต่ปี 1967
กระทรวงแรงงานสหรัฐ ได้เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์นี้มากถึง 3.3 ล้านคน ขณะที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ยื่นขอสวัสดิการไปเพียงแค่ 282,000 ราย ซึ่งจะกลายเป็นว่าผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเก็บข้อมูลดังกล่าวนับตั้งแต่ปี 1967 เป็นต้นมา และทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังจะเข้าสู่สภาวะถดถอยแบบเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้นี้
- สู้ภัย COVID-19 วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างงบกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 2 ล้านล้านเหรียญแล้ว
- สหรัฐเตรียมแจกเงินประชาชนตั้งแต่ 600-1,200 ดอลลาร์ หลัง COVID-19 ทำพิษเศรษฐกิจ
- ชุดใหญ่ไฟกระพริบ Fed พร้อมทำ QE ไม่จำกัดวงเงิน รับมือเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย
การเลิกจ้างพนักงานในช่วงที่ผ่านมาถือว่าสูงเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะจากภาคบริการที่มีการเลิกจ้างงาน เช่น ร้านอาหาร โรงแรม โรงภาพยนตร์ ไปจนถึงสายการบิน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงบรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่กำลังปิดโรงงาน ส่งผลทำให้กิจการต่างๆ ที่มีค่าใช้จ่ายจ่ายไม่ว่าจะเป็นการจ่ายดอกเบี้ยให้สถาบันการเงิน ค่าเช่า ฯลฯ แต่กิจการกลับไม่มีรายได้เข้ามา ทำให้เกิดการเลิกจ้างพนักงานเพื่อที่จะไม่ให้ธุรกิจถึงจุดจบ
สำหรับตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในช่วงปี 1982 ในช่วงเดือนตุลาคมที่ 695,000 ราย และในช่วงเดือนมีนาคมปี 2009 ที่ 665,000 ซึ่งตัวเลขล่าสุดในสัปดาห์นี้ได้แซงหน้าทำสถิติใหม่มากกว่าสถิติเดิมที่ทำไว้ถึง 5 เท่า โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานนี้มาจากแรงงานที่สามารถทำประกันเพื่อรับผลประโยชน์ในช่วงว่างงานเท่านั้น และไม่ได้นับรวมกับตัวเลขอื่นๆ เช่น การลดเวลาจ้างงาน เป็นต้น
ขณะเดียวกันนักเศรษฐศาสตร์มองว่าอัตราการว่างงานสหรัฐปีนี้อาจพุ่งสูงถึง 13% และกลายเป็นปีที่จะมีอัตราว่างงานสูงสุดทันที มากกว่าในช่วงของวิกฤติการการเงินในช่วงปี 2008-2009 ซึ่งมีอัตราการว่างงานอยู่ที่ 10% และก่อนหน้านี้อัตราการว่างงานของสหรัฐนั้นคาดว่าจะลดต่ำลงเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19
องค์การสหประชาชาติได้คาดว่าวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 จะส่งผลทำให้มีแรงงานถูกเลิกจ้างทั่วโลกมากถึง 25 ล้านคน มากกว่าในช่วงวิกฤติการเงินที่มีแรงงานโดนเลิกจ้างไป 22 ล้านคน
ที่มา – ABC News, CNBC, ข้อมูลจาก Credit Suisse
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา