‘รู้อะไรไม่เท่ารู้งี้’ คุณเคยรู้สึกอยากกลับไปแก้ไขอดีตบ้างไหม? มันเหมือนกับว่าถ้าเรารู้ผลลัพธ์ล่วงหน้า เราอาจตัดสินใจเลือกทางอื่นในชีวิต
เชื่อหรือไม่ ราวๆ ครึ่งหนึ่งของ Gen Z เจนเนอเรชันแห่งโลกออนไลน์ เผยว่า “ถ้าเลือกได้ ก็ไม่อยากให้ TikTok ถูกคิดค้นขึ้นมา”
จากการสำรวจ Gen Z วัย 18-27 ปี จำนวน 1,006 คน ในสหรัฐอเมริกา สัดส่วนของกลุ่มตัวอย่างที่เห็นด้วยว่าแต่ละแพลตฟอร์มไม่ควรถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่แรก มีดังนี้
- X (Twitter): 50%
- TikTok: 47%
- Snapchat: 43%
- Facebook: 37%
- Instagram: 34%
- สมาร์ทโฟน: 21%
- แอปฯ ข้อความ: 19%
- อินเทอร์เน็ต: 17%
- Netflix: 17%
- YouTube: 15%
ด้วยผลลัพธ์ดังกล่าว จะเห็นได้ว่า Gen Z ยังคงมีความพึงพอใจอยู่บ้างหากโทรศัพท์มือถือจะมีแค่แอปพลิเคชันเพื่อการสื่อสารเบื้องต้น อย่าง ฟังก์ชันข้อความ YouTube หรืออินเทอร์เน็ต เท่านั้น
ในทางกลับกัน เมื่อเพิ่มโซเชียลมีเดียอื่นๆ เข้ามา เช่น Twitter, TikTok หรือ Snapchat Gen Z เริ่มเห็นผลเสียที่แอปพลิเคชันเหล่านี้มี จนเกิดเป็นความเสียดายและเสียใจที่ใช้มัน
Gen Z มองโซเชียลมีเดียเป็นภัยต่อสังคม
จากงานวิจัย เมื่อลองถามกลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับผลกระทบที่โซเชียลมีเดียมีต่อชีวิตตนเองและสังคม พบว่า
- 52% มองว่าโซเชียลมีเดียส่งผลดีต่อชีวิตตนเอง
- ใน 48% ที่มองว่าโซเชียลมีเดียส่งผลเสียต่อชีวิตตนเอง มีผู้ตอบเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย 13%
- ใน 48% ที่มองว่าโซเชียลมีเดียส่งผลเสียต่อชีวิตตนเอง มีผู้ตอบเป็น LGBTQ มากกว่าสเตรท 12%
- 60% มองว่าโซเชียลมีเดียส่งผลเสียต่อสังคมโดยรวม
ด้วยผลลัพธ์นี้ สามารถตีความได้ว่าโซเชียลมีเดียมีแนวโน้มที่จะส่งผลเสียต่อกลุ่มคนที่มักโดนสังคมกดขี่ เช่น เพศหญิง และ LGBTQ มากกว่า
นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้งานอายุน้อยอีกนับล้านคนที่ต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล ความเกลียดชังในรูปลักษณ์ โรคการกินผิดปกติ หรืออาการอดนอน โดยมีโซเชียลมีเดียเป็นต้นเหตุ
ที่สำคัญ แพลตฟอร์มโซเชียลยังเป็นแหล่งหาเหยื่อชั้นยอดสำหรับโรคจิตหรืออาชญากรทางเพศ ที่สามารถเข้ามาคุกคามและล่อลวงผู้ใช้งานคนอื่นได้อย่างง่ายดาย
Gen Z ไม่อยากให้ลูกตนเองเล่นโซเชียล
ในขณะที่ 39% และ 23% ของกลุ่มตัวอย่างชาว Gen Z เผยว่าตนเองใช้โซเชียลมีเดียเฉลี่ยวันละ 4-6 ชั่วโมง และมากกว่า 7 ชั่วโมงตามลำดับ พวกเขากลับไม่อยากให้ลูกๆ ของตนเองได้ใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้เลยด้วยซ้ำ โดยสถิติคือ
- 45% จะไม่อนุญาตให้ลูกมีโทรศัพท์มือถือก่อนวัยมัธยมปลายหรือประมาณ 14 ปี
- 57% สนับสนุนให้ผู้ปกครองจำกัดการใช้งานมือถือลูกๆ ก่อนวัยอันควร
- 36% สนับสนุนให้โซเชียลมีเดียแบนผู้ใช้งานที่อายุน้อยกว่า 16 ปี
- 69% สนับสนุนการร่างกฎหมายบังคับให้ทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีตัวเลือกการใช้งานที่เป็นมิตรต่อเยาวชนวัยต่ำกว่า 18 ปี
การที่ Gen Z จำนวนมากเห็นตรงกันว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้เป็นอันตรายต่อเด็กๆ จะสามารถเป็นแรงผลักดันให้ทางสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกายอมอนุมัติร่าง ‘Kids Online Safety Act’ หรือกฎหมายคุ้มครองเด็กจากภัยออนไลน์เสียที
นอกจากนี้ ด้วยแรงกดดันที่แพลตฟอร์มต่างๆ ได้รับ ‘Meta’ จึงประกาศออกฟีเจอร์และการตั้งค่าใหม่สำหรับวัยรุ่น เพื่อหวังจะแก้ปัญหาความปลอดภัยและสภาวะการอดหลับอดนอนที่เกิดขึ้นในกลุ่มผู้ใช้งานเหล่านี้
ท้ายสุด แม้ว่าคนรุ่นใหม่จะเริ่มตระหนักถึงอันตรายของโซเชียลมีเดีย สัดส่วนการใช้งานของพวกเขาก็ยังมากอยู่ดี
ดังนั้น ทางรัฐบาลและบริษัทโซเชียลมีเดียต่างๆ ควรเร่งหาวิธีที่ทำให้ทุกแพลตฟอร์มเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน และลดความเสพติดที่อาจเกิดขึ้นได้ในหมู่เยาวชน ก่อนที่ปัญหาจะสายเกินแก้
ที่มา: The New York Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา