ข้อมูลจาก New York Times อ้างอิงตามรายงานรัฐบาลความยาว 46 หน้า ระบุว่า รัฐบาลโจ ไบเดน มีแผนเปิดรับต่างชาติเข้าเมืองมากขึ้นโดยการเปลี่ยนแปลงระบบตรวจคนเข้าเมืองใหม่ เพราะนโยบายตรวจคนเข้าเมืองเดิมของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ต่างชาติเข้าเมืองได้ยากขึ้น
เอกสารดังกล่าวระบุว่า นโยบายตรวจคนเข้าเมืองแบบใหม่จะทำให้ ผู้คนจากหลากหลายภูมิหลังสามารถย้ายมายังสหรัฐอเมริกาได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ลี้ภัย ผู้ขอลี้ภัย เหยื่อการค้ามนุษย์ แรงงานมีฝีมือ ครอบครัวของชาวอเมริกัน ไปจนถึงชาวอเมริกันที่เกิดในแคนาดา
การเปลี่ยนแปลงระบบตรวจคนเข้าเมืองครั้งนี้จะเน้นไปยังการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายสำหรับวีซ่า 2 ประเภท คือ
สู่ระบบตรวจคนเข้าเมืองที่ง่าย ถูก และรวดเร็วกว่า
ความเปลี่ยนแปลงของระบบตรวจคนเข้าเมืองแบบใหม่ จะเอื้อให้ชาวต่างชาติขอเข้าสหรัฐได้ง่ายขึ้น ตามรายงานของทางรัฐบาล คาดว่าจะมีมาตรการต่างๆ ที่นำมาปรับใช้ ดังนี้
- เอกสารขอเข้าเมืองเรียบง่ายขึ้นและสามารถกรอกออนไลน์ได้
- ขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัยลดความซับซ้อนลง
- ลดจำนวนเอกสารที่ร้องขอจากผู้ขอเข้าเมืองลง
- ค่าธรรมเนียมลดลง และอาจงดเว้นค่าธรรมเนียมในบางกรณี
นี่คืออีกก้าวสำคัญของการเปิดรับชาวต่างชาติมากขึ้น ก่อนหน้านี้ ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ โจ ไบเดน ก็เพิ่งจะยกเลิกคำสั่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศ ระงับการออกวีซ่า สำหรับแรงงานต่างชาติในสหรัฐและครอบครัวของผู้ที่เข้ามาทำงาน รวมไปถึงวีซ่ากรีนการ์ดซึ่งเป็นวีซ่าที่ให้สิทธิพำนักอาศัยในสหรัฐฯ อย่างถูกกฎหมาย
ที่มา – Business Insider, New York Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา