2 มหาอำนาจทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนต่างเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าซึ่งกันและกัน แม้ว่า 2 ประเทศจะมีการเจรจาการค้ที่สหรัฐภายในเดือนนี้ก็ตาม
สหรัฐอเมริกาและจีนต่างเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าชุดใหม่ แม้ว่าต่างฝ่ายจะมีแผนการส่งตัวแทนเจรจาการค้าที่สหรัฐก็ตาม โดยทางสหรัฐได้เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่ากว่า 125,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่จีนได้เก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐ 5% ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จีนเก็บภาษีนำเข้าเชื้อเพลิงจากสหรัฐด้วย
- รัฐบาลจีนจะไม่ตอบโต้สหรัฐขึ้นภาษีนำเข้า เตรียมส่งตัวแทนไปเจรจาที่สหรัฐอีกรอบ
- ทรัมป์กล่าว “จีนต้องการกลับมาเปิดโต๊ะเจรจาอีกรอบ และเราจะกลับเข้าสู่การเจรจา”
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้กล่าวว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการเจรจาการค้าต่อไป แม้ว่าจะมีการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของทั้ง 2 ฝ่ายก็ตาม โดยสินค้าที่สหรัฐได้ขึ้นภาษีนำเข้าไม่ว่าจะเป็น Smart Watch ทีวีจอแบน และรองเท้า ซึ่งผู้ผลิตรองเท้าทั้ง Adidas และ Nike รวมไปถึงผู้ผลิตรายอื่นๆ กว่า 200 ราย รวมตัวกันเขียนจดหมายถึงประธานาธิบดีสหรัฐเพื่อให้ยกเลิกแผนการนี้
นอกจากนี้ประธานาธิบดีสหรัฐยังได้กล่าวว่าไม่มีประธานาธิบดีคนไหนที่ไม่สามารถเจรจาการค้าได้เท่าตัวเขาเองอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาการค้าทดแทนเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ซึ่งทรัมป์เองมองว่าสหรัฐเสียเปรียบแคนาดาหรือเม็กซิโก และได้ทำสัญญาทางการค้ากับ 2 ประเทศใหม่ รวมไปถึงการเจรจาการค้ากับประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น ฯลฯ
ขณะที่จีนนั้นได้ประกาศว่าจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตรา 5% ถึง 10% จำนวน 5,078 รายการ มูลค่า 75,0000 ล้านเหรียญสหรัฐ บางส่วนมีผลใช้วันนี้ และที่เหลือจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 ธันวาคมที่จะถึงนี้
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน เกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน ได้กล่าวว่า จีนจะกำลังหาลู่ทางที่จะเจรจายกเลิกการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าระหว่าง 2 มหาอำนาจนี้ผ่านโต๊ะการเจรจา เพื่อป้องกันความรุนแรงจากการตอบโต้ซึ่งกันและกัน เขายังได้กล่าวเสริมว่า การเพิ่มความรุนแรงในเรื่องสงครามการค้าไม่เป็นผลดีกับจีน สหรัฐ หรือประเทศไหนทั้งนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสร้างเงื่อนไขที่ทำให้เกิดการเจรจาขึ้นมา
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา