ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย แจ้งอย่างเป็นทางการ 2 เดือนหลังโอนย้ายธุรกิจธนาคารรายย่อยจากซิตี้แบงก์มาที่ธนาคาร ปัจจุบันมีลูกค้ารวมทั้งหมด 2.5 ล้านราย มาจากซิตี้แบงก์ 1.2 ล้านราย จำนวนนี้ติดตั้งแอปพลิเคชัน TMRW 8 แสนราย และมีการเปิดบัญชี TMRW เพิ่มใหม่อีก 2 แสนบัญชี
ยูโอบี เตรียมสื่อสารข้อมูลลูกค้าเพิ่มขึ้น
วีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล กรรมการผู้จัดการ Retail & Brand ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย แจ้งว่า หลังจากโอนย้ายลูกค้าซิตี้แบงก์เข้ามาอยู่ที่ธนาคารเป็นเวลา 2 เดือน ทางธนาคารเตรียมเพิ่มการสื่อสารข้อมูลเรื่องอื่น ๆ นอกเหนือข้อมูลเกี่ยวกับการโอนย้ายระบบไปยังลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าจากซิตี้แบงก์เปลี่ยนผ่านการใช้งานอย่างราบรื่น
“ก่อนหน้านี้เราเน้นสื่อสารเรื่อง Migration อย่างเดียว ดังนั้นมันอาจจะเจอเรื่องอะไรที่หายไปบ้าง เราก็ต้องมาสื่อสารเรื่องพวกนี้เพิ่มขึ้นเหมือนกัน และเรายืนยันว่าทุกอย่างมัน Smooth Journey ดังนั้นหลังจากนี้การใช้บริการย่อมดีขึ้นกว่าเดิม” วีระอนงค์ ย้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเปลี่ยนผ่านของลูกค้าซิตี้แบงก์ไปยังธนาคารยูโอบี เกิดการติติงการใช้บริการจากลูกค้าจำนวนมาก ทั้งการเปลี่ยนรูปแบบการชำระเงิน และการแจ้งยอดที่อาจคลาดเคลื่อน รวมถึงจำนวนลูกค้าหน้าสาขาที่หลั่งไหลเข้ามาจำนวนมากเมื่อสอบถามถึงปัญหาดังกล่าวจนเจ้าหน้าที่รับมือได้ลำบาก
ยิ่งย้ายเข้ามา ลูกค้ายิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็น 2.5 ล้านราย
ภายในงานแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ธนาคารยูโอบีได้แจ้งว่า การโอนย้ายลูกค้าจากซิตี้แบงก์มาที่ธนาคารยูโอบี ทำให้มีลูกค้าปัจจุบันที่ 2.5 ล้านราย โดยมาจากซิตี้แบงก์ 1.2 ล้านราย ลูกค้าจากซิตี้แบงก์นี้มีการติดตั้งแอปพลิเคชัน TMRW ทั้งสิ้น 8 แสนราย หรือ 90% ของลูกค้าที่เคยใช้แอปพลิเคชันซิตี้แบงก์อยู่เดิม
ลูกค้าจากซิตี้แบงก์มีการเปิดบัญชีใหม่ผ่านแอปพลิเคชัน TMRW อีก 2 แสนบัญชี โดย วีระอนงค์ ย้ำว่า จำนวนลูกค้า 1.2 ล้านราย ไม่ได้ใช้บริการ Direct Debit (หักบัญชีธนาคารอื่นเพื่อชำระบัตรเครดิต) กับธนาคารมากนัก เพราะมีหลายช่องทางในการชำระ และมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้มีการเปิดบัญชี TMRW เพื่อใช้บริการดังกล่าว
“การสมัครบัตรใหม่ตรงช่วงเดือน พ.ค. 2024 เราก็ระดมทีมคอลเซ็นเตอร์ของเราให้รับสายได้ดีที่สุด Register บริการ TMRW ได้มากที่สุด แต่บางครั้งอาจจะล่าช้า ซึ่งอยากย้ำว่าตอนนี้เราโอเค และ Synchronize แล้ว และมีการติดตาม Comment และ Complain ด้วยเหมือนกัน ซึ่งเรารู้สึกแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้จริง ๆ”
วางแผนระยะยาว และเน้นทำตลาดลูกค้ากลางบน
ธนาคารยูโอบี ยังทำแบบระยะสั้น กลาง และยาว เพื่อยกระดับการให้บริการหลังโอนย้ายธุรกิจธนาคารรายย่อยจากซิตี้แบงก์มาที่ธนาคาร โดยระยะสั้นจะเน้นปรับปรุงเรื่องบริการที่ต้องดีขึ้น และตรวจสอบได้ตลอดเวลา หลังจากนั้นจะพยายามปรับปรุงขั้นตอนต่าง ๆ ให้ดีขึ้น รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่ใช้งานง่ายกว่าเดิม
ยุทธชัย เตยะราชกุล กรรมการผู้จัดการ บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เสริมว่า การทำตลาดธุรกิจรายย่อย โดยเฉพาะบัตรเครดิตจะเน้นไปที่ลูกค้ากลุ่มกลางบน หรือ Upper Mass ที่มีรายได้มากกว่า 30,000 บาท เช่นเดิม โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ยังมีการใช้จ่ายเติบโตเท่าตัวเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม
ทั้งมีการจับจ่ายเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักทุกเดือน ส่วนปัญหาหนี้เสีย ด้วยรายละเอียดลูกค้าเป็นกลุ่มกลางบนทำให้การเพิ่มการจ่ายขั้นต่ำจาก 5% เป็น 8% กระทบเพียงเล็กน้อย หรือไม่ถึง 5% เพราะกลุ่มลูกค้าของธนาคารมีกำลังจ่ายอยู่แล้ว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา