ปัญหาอย่างหนึ่งของมนุษย์เงินเดือน และคนทำงานในช่วงเวลาใกล้สิ้นปีคือ การอยากลาหยุดไปท่องเที่ยว หรือพักผ่อนกับคนในครอบครัวติดต่อกันหลายๆ วัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้หากใช้สิทธิ์วันลาพักร้อนหมดไปแล้วก่อนหน้านี้
แต่ปัญหาในปีนี้มีความแตกต่างกันออกไป ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้โอกาสที่คนทำงานจะได้ออกไปท่องเที่ยว พักผ่อน ทั้งในประเทศและต่างประเทศมีน้อยลง โดยเฉพาะในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก กิจกรรมการท่องเที่ยวจึงกลายเป็นเรื่องที่ถูกควบคุมจากรัฐบาล ไม่สามารถเดินทางได้อย่างเสรีเหมือนที่เคย
ยิ่งมีการล็อคดาวน์เมือง บริษัทหลายแห่งประกาศให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) นานหลายเดือน พนักงานหลายๆ คน จึงยิ่งรู้สึกว่าในเมื่อทำงานอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว การลางานเพื่อพักผ่อนจึงไม่ใช่เรื่องจำเป็นอีกต่อไปในสถานการณ์แบบนี้ ทำให้เกิดปัญหาใหม่ ไม่ใช่วันลาพักร้อนไม่พอ แต่เป็นวันลาพักร้อนเหลือใช้ไม่ทันสิ้นปี แถมจะทบไปใช้ปีหน้าก็ไม่สามารถทำได้
พนักงานไม่ใช้สิทธิ์ลาพักร้อน ไม่ใช่ข้อดีของบริษัทเสมอไป
แต่อย่างไรก็ตามการไม่ใช้สิทธิ์ลาพักร้อนเลย ก็ไม่ได้มีแต่ประโยชน์ต่อบริษัทเสมอไป เพราะผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตหลายคนในประเทศสิงคโปร์ระบุว่า การไม่ใช้สิทธิ์ลาพักร้อนเป็นเวลานาน จะส่งผลต่อพลังในการทำงาน สุภาพจิต และสุขภาพร่างกายโดยรวม จนในที่สุดก็จะทำให้เกิดภาวะหมดไฟในการทำงาน
นอกจากนี้การทำงานอย่างต่อเนื่องยาวนาน จะกลายเป็นสาเหตุของความเครียด ความคิดสร้างสรรค์ลดลง และส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน
แม้ว่าหลายบริษัทจะอนุญาตให้พนักงานสามารถนำสิทธิ์วันลาที่เหลือในปีนี้ ทบยอดไปใช้ในปีหน้าได้ ก็อาจไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป เพราะในปีหน้าหากสถานการณ์การท่องเที่ยวกลับมาเป็นปกติ จะทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนคนทำงานอย่างรุนแรง จากความต้องการท่องเที่ยวของพนักงานพร้อมๆ กัน
วันลาที่เหลือนำไปใช้ประโยชน์ได้มากกว่าที่คิด
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยาง (Nanyang Technological University) มหาวิทยาลัยในประเทศสิงคโปร์ ก็เป็นอีกองค์กรหนึ่งที่ประสบกับปัญหาวันลาพักร้อนเหลือ ทางมหาวิทยาลัยจึงได้เริ่มโครงการเปลี่ยนวันลาพักร้อนที่เหลือให้กลายเป็นเงินบริจาคแก่นักเรียน
โดยนับตั้งแต่ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยาง สามารถรวบรวมวันลาจากพนักงาน 1,821 คน ได้แล้วกว่า 20,000 วัน คิดเป็นเงินบริจาคให้แก่นักเรียนกว่า 10.25 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 231 ล้านบาท ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วพนักงานแต่ละคนบริจาควันลาเฉลี่ย 11 วัน และมีผู้บริจาควันลาสูงสุดคือ 15 วัน
นอกจากการบริจาควันลาที่เหลือในปีนี้ ให้กลายเป็นเงินบริจาคแก่เด็กนักเรียนแล้ว หลายๆ บริษัทยังอนุญาตให้พนักงานทบวันลาที่เหลืออยู่ในปีนี้ สะสมไปใช้ในปีหน้าได้ อย่างธนาคาร OCBC ประเทศสิงคโปร์ ก็อนุญาตให้พนักงานสะสมวันลาพักร้อนที่เหลืออยู่ในปีนี้ ไปใช้ในปีหน้าได้ 12 วัน หรือจะเลือกเปลี่ยนวันลาที่เหลือเป็นเงินสด ได้สูงสุด 5 วัน
แต่อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญหลายๆ ราย ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้ เนื่องจากในปีนี้โควิด-19 ทำเป็นเหตุการณ์พิเศษที่เกิดขึ้น หากอนุญาตให้พนักงานสะสมวันลาไปใช้ในปีหน้า อาจทำให้พนักงานเกิดความเคยชินกับสิทธิพิเศษที่ได้รับ
อย่างไรก็ตามยังคงมีอีกหลายวิธีที่จะสามารถนำวันลาที่เหลืออยู่ไปใช้โดยไม่ได้ทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ เช่น บางบริษัทให้พนักงานสามารถเปลี่ยนวันลาเป็นเครดิต ที่พนักงานสามารถนำไปใช้ได้ ทั้งเครดิตคอร์สโยคะ ออกกำลังกาย คอร์สเรียนพัฒนาตัวเอง รวมถึงคอร์สตรวจสุขภาพก็ได้เช่นกัน
ที่มา – channelnewsasia
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา