กันยายนนี้อาจเปิดเทอมไม่ได้ มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ คาด อาจเปิดเทอมได้ปีหน้า ปี 2021

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สร้างผลกระทบอย่างกว้างขวาง ไม่เว้นแม้แต่สถาบันการศึกษาที่ต้องประกาศปิดโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยชั่วคราวโดยใช้การสอนผ่านระบบออนไลน์แทน

ภาพจาก pixabay.com

ซึ่งในตอนแรก มีการคาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะดีขึ้น และจะสามารถกลับมาเริ่มการเรียนการสอนแบบปกติได้ในช่วงภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึง (ช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม) แต่ล่าสุดดูเหมือนว่ามหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาหลายแห่งเห็นตรงกันว่าคงต้องใช้การเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ไปก่อนจนถึงปี 2021

หลายมหาวิทยาลัยคาดยังไม่เปิดเทอมเร็วๆ นี้

ก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยบอสตัน ได้ประกาศยกเลิกการทำกิจกรรมทั้งหมดของมหาวิทยาลัย ปรับการเรียนการสอนในภาคเรียนฤดูร้อนนี้สู่ระบบออนไลน์แทน และได้ประกาศเพิ่มเติมว่าสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ยังไม่ปลอดภัย ทำให้ไม่สามารถกลับมาจัดการเรียนการสอนปกติที่มหาวิทยาลัยได้ในภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึง และคาดว่าจะกลับมาจัดการเรียนการสอนแบบปกติได้ในช่วงเดือนมกราคม 2021

Robert A. Brown อธิการบดีของมหาวิทยาลัยบอสตัน เล่าว่าการจะกลับไปเปิดการเรียนการสอนแบบปกติในมหาวิทยาลัยได้ ในช่วงภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วง เป็นการคาดการณ์จากความน่าจะเป็นที่ดีที่สุด แต่อย่างไรก็ตามมหาวิทยาลัยต้องมองหาทางเลือกที่ดีที่สุด และปลอดภัยที่สุดด้วยเช่นกัน

Harvard University
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ภาพจาก Shutterstock

มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เป็นมหาวิทยาลัยแรกๆ ที่ประกาศส่งนักศึกษากลับบ้านเพื่อลดความหนาแน่นของคนในมหาวิทยาลัย ส่วนการจะกลับมาเปิดภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วงได้ตามปกตินั้นยังเป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ยาก เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังมีความไม่แน่นอนสูง

ส่วนมหาวิทยาลัยออริกอนสเตท คาดว่าจะกลับมาเริ่มการเรียนการสอนได้แบบปกติในช่วงภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วง แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดช่วงเวลาได้คือโรคโควิด-19 ซึ่งขณะนี้ต้องมีการวางแผนและเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด

ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดหลายคน คาดการณ์จากแบบจำลองการระบาดของโรค พบว่าเราจำเป็นต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนไปจนถึงปี 2022 หรือจนกว่าจะสามารถผลิตวัคซีนได้สำเร็จ แต่ระหว่างนี้คงต้องมีการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ต่อไปก่อน

ที่มา – CNN

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา