“ไม่เด่นไม่ดัง จะไม่หันหลังกลับไป” นี่ไม่ใช่แค่เนื้อเพลงของพุ่มพวง ดวงจันทร์ แต่คือหลักสูตรการเป็น Influencer จากมหาวิทยาลัยในไอร์แลนด์ต่างหาก
‘Irene McCormick’ ผู้อำนวยการหลักสูตรประจำ ‘South East Technological University’ มหาวิทยาลัยในเมืองคาร์โลว์ ประเทศไอร์แลนด์ เพิ่งเปิดรับนักศึกษาเข้าสาขาวิชา ‘การสร้างสรรค์คอนเทนต์และโซเชียลมีเดีย’
โดย McCormick ได้แรงบันดาลใจสร้างหลักสูตร หลังจากเธอนำ TikToker หลายๆ คนมาบรรยายคลาสพิเศษช่วงปิดเทอมฤดูร้อนเกี่ยวกับโลกดิจิทัล แล้วพบว่ามีเด็กสนใจสมัครมากถึง 350 คน ทั้งๆ ที่เธอเปิดรับนักศึกษาแค่ 30 ตำแหน่งเท่านั้น
“คนสนใจคอร์สนั้นเยอะมาก และเราสัมผัสได้ว่าเด็กๆ มีความกระหายที่จะเรียนรู้ต่อ เราเลยพัฒนามันขึ้นมาเป็นหลักสูตรจริงๆ จังๆ” McCormick กล่าว
พอปิ๊งไอเดีย McCormick ก็ใช้เวลากว่า 2 ปี เพื่อพัฒนาโครงสร้างการสอน ก่อนจะออกมาเป็นหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี ที่เพิ่งต้อนรับนักศึกษาหน้าใหม่ไป 15 คนเมื่อกันยายน 2024
McCormick มองว่า แม้เรื่องพวกนี้จะสามารถฝึกด้วยตนเอง แต่ถ้านักศึกษาได้เรียนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติเกี่ยวกับศาสตร์การเข้าถึงกลุ่มผู้ชม มันก็คงดีต่ออาชีพของพวกเขา
เปลี่ยนความชอบเป็นรายได้
จากนิยามในพจนานุกรม Influencer หมายถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงบนโซเชียลมีเดีย และใช้ความโด่งดังของตนเองเพื่อโปรโมตสินค้าแลกกับค่าจ้าง
นอกจากนั้น งานวิจัยต่างๆ เผยว่า Gen Z ส่วนใหญ่อยากหรือเคยอยากประกอบอาชีพเป็น Vlogger, YouTuber หรือ Streamer
ด้วยเหตุนี้ หลักสูตรของ McCormick จึงมุ่งเน้นไปที่การสอนให้เด็กๆ รู้จักการสร้างแบรนด์เป็นของตนเอง พร้อมกับวิธีหารายได้ผ่านอิทธิพลในโซเชียล
ทางฝั่งนักศึกษาหวังว่า หลักสูตรนี้จะช่วยให้พวกเขานำความสนใจส่วนตัว เช่น แฟชัน กีฬา หรือปัญหาสังคม มาต่อยอดได้
นักศึกษาคนหนึ่งผู้มีแพชชันด้านการขี่ม้าเผยว่า เดี๋ยวนี้ฟาร์มม้าเริ่มตามหาพนักงานที่เก่งโซเชียลมีเดียแล้ว และเธอก็เคยเห็นคนงานในฟาร์ม ถูกแบรนด์ต่างๆ จ้างโปรโมตสินค้าด้วย
McCormick อธิบายว่า “ปัจจุบัน ราวๆ 70% ของนักการตลาดมองว่า Influencer คือการตลาดแห่งโลกอนาคต ทางรัฐบาลก็เริ่มใช้พวกเขาในการสื่อสารกับประชาชนแล้ว ดังนั้น นี่จะเป็นวิธีการบุกตลาดของเรา”
การเป็นอินฟลูฯ ไม่ใช่แค่อัดคลิปลง TikTok
นอกจากการสร้างแบรนด์แล้ว หลักสูตรนี้ยังสอนวิชาอื่นๆ อีกมากมาย เช่น
- การทำ Creative Video
- จิตวิทยาการเล่าเรื่อง
- การประกอบการธุรกิจ
- การศึกษาคนดัง
- การวิเคราะห์ข้อมูล
- การทำพ็อดแคสต์
ทางหลักสูตรยังจัดเตรียมอุปกรณ์การเรียนการสอนให้ โดยเฉพาะกล้องและไมโครโฟนที่เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับ Influencer เพราะมันช่วยให้นักศึกษาฝึกความมั่นใจเวลาต้องถ่ายทำได้
นักศึกษาในหลักสูตรกล่าวว่า “คนชอบคิดว่าการเป็น Influencer มันง่าย แค่โพสต์คลิป 60 วิลง TikTok ก็พอแล้ว แต่จริงๆ มันมากกว่านั้น เพราะการจะสร้างคอนเทนต์ได้ ต้องอาศัยการตัดต่อ การวางแผน และอีกหลายขั้นตอน”
McCormick เสริมว่า ต่อให้คอนเทนต์ที่เผยแพร่ออกมาจะดูตลกโปกฮาแค่ไหน แต่ความจริงคือ การทำงานในวงการนี้ไม่ใช่เรื่องไร้สาระเลย และปัจจุบันโอกาสทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ไทยไม่พลาด มีหลักสูตรสอนเป็น Influencer นานแล้ว
ไทย ในฐานะประเทศที่เต็มไปด้วยประชาชนสุดครีเอทีฟไม่แพ้ชาติใดบนโลก ก็มีหลักสูตรปริญญาตรีสอนเป็น Influencer เหมือนกัน แถมยังมีก่อนไอร์แลนด์อีก
โดยหลักๆ แล้ว เรามีอยู่ 2 สาขาวิชา คือ
- หลักสูตรนิเทศศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาการสื่อสารและสื่อใหม่ (มุ่งเน้นการสร้างแบรนด์อินฟลูเอนเอนเซอร์) มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
หลักสูตรนี้เจาะลึกด้านการสร้างตัวตนบนโลกธุรกิจออนไลน์ พร้อมเรียนรู้กลยุทธ์การสื่อสาร การตลาด และ Branding ผ่านผู้สอนที่เป็น Influencer ผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์พิเศษ หรือวิทยากรที่มีประสบการณ์จริงในวงการ
- หลักสูตรศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาอุตสาหกรรมบันเทิง เอกการจัดการและพัฒนาไอดอลและอินฟลูเอนเซอร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
หลักสูตรนี้จะเน้นพัฒนาศักยภาพให้นักศึกษาสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมบันเทิงได้ โดยเรียนรู้กระบวนการการจัดการและพัฒนาตนเองให้เป็นศิลปินไอดอลหรือ Influencer
แม้ปัจจุบัน หลักสูตรปริญญาตรีสำหรับการเป็น Influencer อาจจะยังไม่มากนัก แต่มหาวิทยาลัยหลายแห่งในไทย ก็เริ่มเปิดสอนวิชาเดี่ยวๆ เกี่ยวกับศาสตร์นี้แล้ว
ดังนั้น ไม่แน่ว่า ในอนาคต เราอาจเห็นหลักสูตรนี้จากหลากหลายมหาวิทยาลัยขึ้น เพื่อตอบโจทย์เทรนด์โลกก็ได้
ที่มา: Channel News Asia / Bangkok University / Silpakorn University
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา