Uniqlo คาดการณ์กำไรลดลง 44% เพราะการระบาดของโรค COVID-19 ทำให้ต้องปิดหน้าร้านทั่วโลก

แม้ Fast Retailing บริษัทแม่ของ Uniqlo จะเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ด้วยการระบาดของโรค COVID-19 ก็ทำให้ Fast Retailing ตัดสินใจปรับตัวเลขกำไรคาดการณ์ลดลงถึง 44% จากปีก่อน

Uniqlo

ต้องปรับลดลงเพราะสาขาที่เปิดไม่ได้

การระบาดของโรค COVID-19 ทั่วโลก ทำให้ Fast Retailing จำเป็นต้องปิดหลายสาขาทั่วโลกตามคำขอของรัฐบาลประเทศต่างๆ และจากจุดนี้เองทำให้รายได้จากหน้าร้านแทบจะหายไปในทันที จึงไม่แปลกที่เบอร์หนึ่งแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นของเอเชียต้องตัดสินใจปรับเป้ากำไรจากการดำเนินการลดลง

สำหรับเป้าหมายกำไรจากการดำเนินงานในปีปฏิทินนี้ (ก.ย. 2562-ส.ค. 2563) จะอยู่ที่ 1.45 แสนล้านเยน (ราว 43,000 ล้านบาท) ลดลงจาก 2.45 แสนล้านเยนที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และน้อยกว่าที่ทำได้ในปีปฏิทินก่อนถึง 44% โดย 6 เดือนแรกของปีปฏิทินนี้ก็มีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 1.36 แสนล้านเยน ลดลง 21% จากปีก่อน

Tadashi Yani ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Fast Retailing ยอมรับว่า วิกฤตนี้หนักที่สุดของมนุษยชาตินับตั้งแต่สงครามโลก แต่ถึงอย่างไรบริษัทก็ยังยืนยันการเดินหน้าเปิดสาขาใหม่ๆ ตามแผน และต้องการเป็นเบอร์หนึ่งของวงการแฟชั่นโลก

“นอกจากเปิดสาขาใหม่ๆ ตามแผน ในช่วงเวลานี้เราก็คิดว่าการคงความเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยคุณภาพของเสื้อผ้าจะช่วยจูงใจให้ผู้บริโภคสนใจสินค้าของ Fast Retailing มากขึ้น เพราะพวกเขาน่าจะต้องการเสื้อผ้าที่สวมใส่ในชีวิตประจำวันได้จริง ไม่ได้ต้องการอะไรเหนือกว่านั้น”

ก่อนหน้านี้ Fast Retailing ต้องปิดสาขา Uniqlo ในประเทศจีนกว่า 750 แห่ง ทำให้ขาดรายได้ไปจำนวนมาก และตอนนี้ก็กำลังฟื้นฟูกิจการที่นั่นเพื่อกลับมาเปิดสาขาได้ใหม่ ในทางกลับกัน ในตลาดโลกอย่างสหรัฐอเมริกา, ยุโรป รวมถึงในญี่ปุ่นเอง Fast Retailing ก็ต้องปิดสาขาจำนวนมากเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว

สรุป

ช่วงนี้อาหารหนักทุกแบรนด์จริงๆ แม้แต่ Fast Retailing ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในระยะหลังก็ไม่รอด ดังนั้นต้องติดตามกันว่าแบรนด์ใดอีกบ้างที่จะประกาศลดเป้ากำไร และรายได้ รวมถึงแผนการต่างๆ เพื่อรับมือ และประครองธุรกิจให้ผ่านพ้นวิกฤตโรค COVID-19 ระบาดไปได้

อ้างอิง // Japan Today

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา