หลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อ UnionPay ที่อยู่บนหน้าบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต แม้คนไทยจะยังไม่คุ้นเคยกันแต่ UnionPay ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการชำระเงินระดับต้นๆ ของโลก เพราะมีฐานลูกค้าหลักคือประเทศจีนที่มีประชากรมากที่สุดในโลก
สังคมไร้เงินสดในจีนกับการใช้ QR code ที่ช้อปปิ้งได้จนถึงรถเมล์-รถไฟฟ้า
ที่ผ่านมาประเทศจีนพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทั้งด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี รวมถึงระบบการชำระเงินในประเทศที่ตอนนี้ก้าวข้ามเงินสดเข้าสู่ยุค Cashless Society คนหันมารับ-จ่ายเงินผ่านมือถือซึ่งส่วนใหญ่ไม่ผ่านธนาคารแล้ว เช่น Alipay WechatPay
ดังนั้นตัวกลางที่อยู่มานานทั้งธนาคาร และระบบรับชำระเงินกลางอย่าง UnionPay ต้องเร่งปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ทั้งเพิ่มจุดรับชำระเงินแบบ QRcode ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
โอว จง เหว่ย ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ด้านนวัตกรรม ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (UnionPay) บอกว่า ตอนนี้ UnionPay สร้างโซลูชั่น Cross-Border QR code ให้ลูกค้าใช้จ่ายได้ทั้งในจีนและต่างประเทศ และใช้ระบบ Open-Loop Transit Payment ให้ลูกค้าสามารถใช้บัตร และแอพฯ ของ UnionPay ในระบบขนส่งสาธารณะในจีน ได้แก่ รถบัสใน 900 เมือง รถไฟใต้ดินใน 16 เมือง และเริ่มใช้ในต่างประเทศเช่น รถไฟฟ้าเมืองเกาสง (KRTC) ในไต้หวัน รถไฟฟ้าด่วนพิเศษ Aeroexpress ในมอสโกว์ ประเทศรัสเซีย และแอร์พอร์ตลิงค์ KLIA ในกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
“ปัจจุบัน UnionPay อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อเพิ่มโซลูชั่นใช้บัตรในรถไฟฟ้าใต้ดินที่ London ส่วนประเทศไทยเราเข้ามาพูดคุยกับภาครัฐเพื่อพัฒนาโซลูชั่น Open-Loop กับรถไฟฟ้าใต้ดินของไทย”
ชูกลยุทธ์ “ต่อยอด” ฐานลูกค้าจีนสู่ฐานลูกค้าโลก เร่งจับมือพันธมิตร Bank-NonBank
จุดแข็งของ UnionPay คือมีฐานลูกค้าบัตรเครดิต และเดบิตที่ใช้งานคิดเป็น 58% ของจำนวนบัตรทั่วโลก ขณะเดียวกันออกบัตรมาแล้ว 7,500 ล้านใบใน 52 ประเทศ ในส่วนอาเซียนออกบัตรแล้วกว่า 28 ล้านใบ
ทั้งนี้ UnionPay ต้องอาศัยพันธมิตรท้องถิ่น เช่น ธนาคารเพื่อขยายการออกบัตร และขยายจุดรับชำระเงินในประเทศ ทำให้ปัจจุบันมีจุดรับชำระเงินผ่าน QRCode 10.8 ล้านร้านค้า โดย 300,000 จุดอยู่นอกประเทศจีน เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไทย ฯลฯ โดยในประเทศไทย UnionPay ร่วมมือกับสถาบันการเงิน 8 แห่ง
ขณะเดียวกันยุคสังคมไร้เงินสด บางประเทศคนใช้ธนาคารน้อยลง UnionPay ขยายสู่พันธมิตร E-wallet รวม 23 เจ้าใน 11 ประเทศ เพื่อเข้าถึงลูกค้าในทุกลุ่ม เช่น NETSPay และ BOC SG e-wallet ในสิงคโปร์ แอพ UnionPay ในประเทศจีน และ BeWallet ในประเทศไทย
อย่างไรก็ตามรายได้ของ UnionPay จะเหมือนระบบตัวกลางอื่นๆ คือมีรายได้ค่าธรรมเนียมจากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร ซึ่งปัจจุบัน UnionPay มียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุดคิดเป็น 44% ของยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งหมดทั่วโลก
สรุป
เมื่อเทคโนโลยีพัฒนามาก ธุรกิจตัวกลางต้องปรับตัวเข้าให้ถึงชีวิตประจำวันของลูกค้า จุดเด่นของ UnionPay คือมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่อย่างจีนที่มีประชากรมาที่สุดในโลก ก็เป็นเหมือนห้องทดลองที่สร้างโซลูชั่นใหม่ๆ ทดลองตลาดผ่านกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายและขยายสู่ตลาดโลกให้ได้ อย่างไรก็ตาม UnionPay ยังต้องแก้ปัญหาในแต่ละท้องถิ่น เช่น ในไทยบางร้านค้ากล่าวว่าเครื่อง EDC ไม่สามารถรับบัตร UnionPay ได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา