เจอหัวหอมในฟิลิปปินส์ต้องน้ำตาไหล ไม่ใช่เพราะหั่นหอมแต่เพราะราคาพุ่งสูงขึ้นจนกลายเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย แซงหน้าราคาหมูและไก่เป็นที่เรียบร้อย
ราคาหัวหอมในประเทศฟิลิปปินส์พุ่งขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจนมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 800 เปโซหรือราว 480 บาทซึ่งแพงกว่าราคาไก่และหมูเสียอีก เปรียบเทียบกับไทยที่ขณะนี้ราคาหัวหอมอยู่ที่ 40-50 บาทต่อกิโลกรัม
รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้พยายามควบคุมราคาหัวหอมให้ลงมาอยู่ที่ต่ำกว่า 200 เปโซต่อกิโลกรัมด้วยการนำเข้าหัวหอม 21,000 ตันจากต่างประเทศขณะที่เผชิญกับการเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบผู้ที่กักตุนหัวหอม อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาราคาหัวหอมที่พุ่งสูงขึ้นได้จนร้านค้าหลายแห่งในฟิลิปปินส์เริ่มเลิกใช้หัวหอมเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร บางครอบครัวก็เลิกรับประทานหัวหอมแล้วซึ่งทำให้เกิดความลำบากอย่างมากเพราะหัวหอมถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้เกิดรสหวานในอาหารส่วนใหญ่ของฟิลิปปินส์
Luis Angeles เกษตรกรในฟิลลิปปินส์กล่าวว่า การที่หัวหอมมีราคาพุ่งสูงในระดับนี้ถือเป็นประวัติการณ์ เมื่อเดือนที่แล้วหัวหอมยังมีราคาอยู่ที่ 250 เปโซต่อกิโลกรัมหรือราว 150 บาท แต่เมื่อหัวหอมถูกส่งไปขายยังซุปเปอร์มาเก็ตในกรุงมะนิลากลับมีราคาเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
หัวหอมมีราคาแพงจนถึงขนาดที่ว่ากลายเป็นสินค้าที่แสดงถึงความร่ำรวย จน Candy Roasa หญิงที่อาศัยอยู่ในฟิลลิปปินส์กล่าวว่า เธอบอกให้ครอบครัวเปลี่ยนมาดมกลิ่นหัวหอมแทนการรับประทาน
เรื่องราวของหัวหอมยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะเกิดมีมที่เผยแพร่ไปทั่วโซเชียลมีเดีย เมื่อมีชายหญิงคู่หนึ่งฟิลิปปินส์แต่งงาน และฝ่ายหญิงถือหัวหอมแทนช่อดอกไม้ในการแต่งงาน โดย April Lyka Biorrey ซึ่งเป็นเจ้าสาวอธิบายว่า เธอได้ถามฝ่ายชายว่าเปลี่ยนจากช่อดอกไม้เป็นหัวหอมได้ไหม เพราะหลังจากจบงานแต่งแล้วก็ยังได้ใช้ประโยชน์
แม้จะกลายเป็นเรื่องขำขันกันบนอินเทอร์เน็ต แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องสินค้าขึ้นราคาเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากสำหรับฟิลิปปินส์ ประธานาธิบดี Ferdinand Marco Jr. กล่าวถึงปัญหาราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยปกติแล้วคนฟิลิปปินส์จะบริโภคหัวหอม 2.34 กิโลกรัมต่อปีและการผลิตภายในประเทศก็รองรับความต้องการได้เพียงพอ แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ฟิลิปปินส์อยู่ในสภาวะขาดแคลนอาหารเพราะสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงจากพายุไต้ฝุ่นส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตรขณะที่ความต้องการซื้อก็พุ่งสูงขึ้น
หัวหอมมีราคาพุ่งสูงขึ้นจนถึงขนาดว่ามีผู้พยายามลักลอบนำเข้าประเทศ โดยเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ลูกเรือ 10 คนจากสายการบิน Philippine Airlines ถูกสอบสวนเพราะพยายามลักลอบนำหัวหอมและผลไม้ชนิดอื่น ๆ เกือบ 40 กิโลกรัมเข้าประเทศ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ศุลกากรไม่ได้ตั้งข้อหาแต่เตือนว่าห้ามนำผลไม้เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต
ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่ประสบปัญหาขาดแคลนอาหารอย่างต่อเนื่องจนทำให้ในอดีตสินค้าที่บริโภคกันในชีวิตประจำวันมีราคาสูงขึ้นทั้งน้ำตาล เกลือ และข้าว นอกจากพายุไต้ฝุ่นและสภาพอากาศที่รุนแรงแล้ว สาเหตุหลักมาจากต้นทุนผลผลิตสูง ปัญหาเรื่องการชลประทานและเครื่องจักรทางการเกษตรไม่เพียงพอ การคมนาคมจากฟาร์มจนถึงตลาดที่ไม่สะดวก ไปจนถึงราคาน้ำมันและปุ๋บที่พุ่งสูงขึ้นจากสงครามยูเครน-รัสเซีย
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา