ก่อนหน้านี้ภาพจำของแบรนด์ Under Armour นั้นเป็นแบรนด์ที่สุดเท่ในสายตาของเด็กชายวัยรุ่นที่สหรัฐอเมริกา แต่ปัจจุบันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว และจุดนี้เองก็ทำให้แบรนด์ดังกล่าวกำลังมีปัญหากับตัวธุรกิจ
เมื่อมันไม่เท่ ก็ไม่รู้จะซื้อใส่ทำไม
ปกติแล้วการจะเลือกซื้อสินค้าประเภทเครื่องแต่งกายสักชิ้น ก็ต้องดูก่อนว่าใส่แล้วเข้ากับตัวเอง หรือเสริมสร้างบุคลิกภาพแค่ไหน ดังนั้นถ้าเครื่องแต่งกายของแบรนด์ที่มันดูไม่ดึงดูด หรือไม่เท่ ก็ไม่รู้จะซื้อมาใส่ทำไม ซึ่งเรื่องนี้กำลังเกิดขึ้นกับแบรนด์ Under Armour โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นวัยรุ่นเพศชายในสหรัฐอเมริกา
หากอ้างอิงผลสำรวจของ Piper Jaffray ฉบับล่าสุดที่เกี่ยวกับเรื่อง Taking Stock of Teens ชี้ให้เห็นว่า กลุ่มวัยรุ่นนั้นไม่ค่อยสนใจแบรนด์ Under Armour อีกต่อไปแล้ว หลังจากที่แบรนด์นี้เคยเป็นอันดับหนึ่งในใจของเด็กชายวัยรุ่นที่มีรายได้ค่อนข้างสูง แต่ปัจจุบันกลับไม่ถูกสวมใส่ในกลุ่มนี้มากว่าปีเศษ
สำหรับการจัดอันดับของแบรนด์เครื่องแต่งกายที่เป็นที่ต้องการของเด็กวัยรุ่นชายรายได้สูงนั้น แบรนด์ Under Armour กลับตกไปอยู่ที่อันดับ 11 จากที่เคยอยู่อันดับ 8 เมื่อปีก่อน และตกลงมาจากอันดับที่ 6 สู่อันดับที่ 9 ในกลุ่มเด็กชายที่มีรายได้ปานกลางอีกด้วย
คู่แข่งยังเด่นกว่า แม้แบรนด์จะตีคู่ช่วงหนึ่ง
นอกจากนี้ผลสำรวจผู้บริโภคที่เป็นวัยรุ่นชายโดย Wells Fargo ที่จัดทำขึ้นปีนี้ พบว่า แบรนด์ Under Armour นั้นอยู่ในอันดับท้ายๆ ที่วัยรุ่นชายจะเลือกมาสวมใส่ โดยข้อมูลลึกๆ แล้วคือมีเพียง 27% ของผู้สำรวจบอกว่าอยากสวมใส่แบรนด์นี้อยู่ ยิ่งแบรนด์ลูกย่าง Curry นั้นก็น้อยลงไปอีก โดยอยู่ที่ 19% เท่านั้น
ในทางกลับกัน กลุ่มวัยรุ่นชายนั้นเลือกที่จะสวมใส่แบรนด์ Adidas ถึง 70% และมากกว่านั้นคือ Nike ที่ 81% โดยการสำรวจครั้งนี้ ผู้ถูกสำรวจสามารถเลือกแบรนด์ที่ต้องการได้หลายแบรนด์ในหนึ่งคำตอบ และยิ่งกว่านั้น 33% ของกลุ่มสำรวจยังมองว่า Under Armour มีความน่าสนใจในการดึงดูดให้เข้าไปซื้อลดลงจากช่วงก่อน
นักบาสย้ำชัด ไม่มีใครอยากใส่แล้ว
จากปัจจัยทั้งหมดคงไม่แปลกที่ยอดขายรองเท้าของแบรนด์ Under Armour จะตกต่ำในปีนี้ และยังถูกตอกย้ำจากน้ำคำของ Kevin Durant อีกนักบาสเก็ตบอลดาวเด่นของยุคนี้ ที่บอกว่า “เด็กทุกคนรู้ และเด็กทุกคนก็ไม่มีใครอยากเล่นบาส พร้อมกับใส่รองเท้าของ Under Armour”
สรุป
“รองเท้า” คือรายได้หลักของบริษัทอุปกรณ์กีฬา เช่น Nike ก็ขายรองเท้าจนคิดเป็น 65% ของรายได้ทั้งหมด แต่ทาง Under Armour กลับมียอดขายรองเท้าเพียง 20% จากยอดขายทั้งหมด ดังนั้นคงไม่แปลกที่แบรนด์นี้กำลังมีปัญหา และต้องฟื้นฟูแผนการตลาด และการสร้างแบรนด์แบบยกเครื่องทั้งหมด
อ้างอิง // Business Insider
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา