ทีวีโฮมช้อปปิ้ง แข่งเดือดทะลุจอ ผสานทุกแพลทฟอร์ม ดูดนักช้อปซื้อสินค้าออนไลน์

ยุคนี้การทำทีวีโฮมช้อปปิ้งอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะทีวีจะกลายเป็นช่องทางการนำเสนอสินค้าเท่านั้น ในขณะที่ผู้บริโภคจะสั่งซื้อสินค้าผ่านทางมือถือ จากทางแอปพลิเคชั่นหรือกระทั่งเว็บไซต์ ดังนั้นในปี 2564 จะเห็นถึงค่ายยักษ์ใหญ่ทั้งหน้าใหม่อย่างแกรมมี่ อมาโด้ ทีวี ไดเร็ค RS MALL หน้าเดิมผสานช่องทางจัดจำหน่ายในทุกแพลทฟอร์ม เพื่อดึงดูดให้นักช้อปในยุคดิจิทัลปิดจ๊อบที่การช้อปปิ้งบนมือถือ

tv shopping
Photo : Shutterstock

เริ่มต้นที่ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ที่ต่อยอดธุรกิจจาก Media Entertainment  เตรียมลงขันร่วมทุนกับบริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดธุรกิจใหม่ Media Commerce เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพภายใต้แบรนด์ใหม่ต่าง ๆ ที่พัฒนาร่วมกัน และจำหน่ายผ่านสื่อในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้แก่ ทีวีดิจิทัล วิทยุออนไลน์ ทีวีโฮมช้อปปิ้งช่อง O shopping และ E- Commerce ผ่าน www.oshoppingtv.com  ซึ่งจริงๆ แล้วแกรมมี่ มีธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้งอยู่แล้ว โดยมีโอ ช้อปปิ้งขับเคลื่อนผ่านทางช่อง GMM Z ช่อง 37 และช่อง OPSI ช่อง 38 และ 43 แต่เมื่อดูจากโอ ช้อปปิ้งแล้ว พอร์ตโฟลิโอสินค้ายังมีค่อนจำกัด โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพที่ยังมีในสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อย

แต่การจับมือร่วมกันระหว่างแกรมมี่กับโรจูคิส เพื่อจัดตั้งบริษัทใหม่ จะเข้ามาช่วยเติมเต็มธุรกิจ Media Commerce ให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเมื่อดูยุทธศาสตร์ของค่ายแกรมมี่แล้ว สูตรสำเร็จคงมุ่งที่การสร้างสรรค์กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพ ซึ่งโรจูคิสมีความแข็งแกร่งและสามารถพัฒนาสินค้าที่จำหน่ายในลักษณะเอ็กซ์คลูซีฟขายผ่านทางทีวีโฮมช้อป ปิ้ง  ยิ่งทำให้กลายเป็นอีกค่ายหนึ่งที่มีโปรดักส์สินค้าแตกต่างและโดดเด่น

และเมื่อความแข็งแกร่งของรุก Media Commerce  ของแกรมมี่ คือ การมีศิลปินในสังกัดมีชื่อเสียงชั้นนำของประเทศ หรือกระทั่งการ Collaboration ร่วมกับศิลปินก็สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลากหลาย ทั้งคนรุ่นใหม่หรือกระทั่งในระดับแมส  ด้วยศักยภาพของแกรมมี่ ที่มีสื่ออยู่ในมือมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คลื่นวิทยุ เอไทม์มีเดีย ทีวีดิจิทัลในช่องต่าง ๆ มากมาย เชื่อว่ากลยุทธ์ที่แกรมมี่มีความถนัดและมีความได้เปรียบ คือการมุ่งขยายลูกค้ากลุ่มคนเมืองและคนรุ่นใหม่มากกว่าจะมุ่งสู่ตลาดแมส

ทีวีไดเร็ค โอ้พระเจ้าจอร์จมันยอดมาก !! ดิ้นสู้

ทีวี ไดเร็ค เป็นค่ายแรกๆ ที่ปลุกปั้นธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้งแจ้งเกิดในประเทศไทย แต่ก็นับว่าเป็นค่ายที่กำลังเผชิญกับความท้าทาย เพราะการเป็นทีวี ไดเร็คซึ่งทำให้คนยังคุ้นเคยกับการเลือกซื้อสินค้าทางทีวีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ดังนั้นจะเห็นว่าในช่วงที่ผ่านมา ทีวี ไดเร็คขับเคลื่อนกลยุทธ์ Omni Chanel ต่าง ๆ นานา โดยเฉพาะเส้นทางที่ต้องเร่งอย่างเร่งด่วน คือการสร้างความแข็งแกร่งในช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าผ่านทางเว็บไซต์  http://www.tvdirect.co.th/th  โดยผสานความแข็งแกร่งกับ  Momo.com Inc. (MOMO) ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจโฮมช็อปปิ้งและอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ในประเทศไต้หวัน

TV Direct

ยุทธศาสตร์การบุกช่องทางการจัดจำหน่ายเว็บไซต์ของทีวี ไดเร็ค จะช่วยให้ค่ายดังกล่าวสามารถขยายฐานกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ๆ หรือเป็นกลุ่มคนเมืองมากยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาทีวี ไดเร็ค มีฐานลูกค้าทีวี ไดเร็ค ส่วนใหญ่ 80-90% เป็นผู้ใหญ่วัย 40 ปีขึ้นไป และ 70% อยู่ในต่างจังหวัด ขณะเดียวกันโจทย์ใหญ่ของ ทีวี ไดเร็ค จัดว่าเป็นค่ายทีวีโฮมช้อปปิ้งที่มีจำนวนช่องทางที่หลากหลาย  ดังนั้นการขายสินค้าในแต่ละช่องจึงไม่มีความแตกต่างกันมากนัก เท่ากับว่าไปแชร์ชิ้นเค้กเองผ่านทางช่องทางทีวีโฮมช้อปปิ้งกันเอง ซึ่งต้องจับตาดูการแก้เกมทางการตลาดกันให้ดี

อมาโด้ชูทีวีโฮมช้อปปิ้งจิ๊กซอว์ผสานความแข็งแกร่ง

มาถึง อมาโด้ กรุ๊ป ค่ายผู้ผลิตวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ถือว่าเป็นน้องใหม่ในวงการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากดำเนินธุรกิจเมื่อปี 2557 เมื่อมาถึงกลยุทธ์ของอมาโด้ นอกจากเป็นค่ายที่มีโปรดักส์แชมป์เปี้ยนคอลลาเจนที่จุดพลุให้กลายเป็นค่ายน้องใหม่ที่มาแรง กลยุทธ์สำคัญ คือ การผสานความแข็งแกร่งในทุกช่องทางจัดจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็น ช่องทางออนไลน์ของบริษัทเอง ออนไลน์ดีลเลอร์ คีออสในห้างสรรพสินค้า และทีวีโฮมช้อปปิ้ง จัดเป็นจิ๊กซอว์อีกหนึ่งตัวที่อมาโด้พยายามสร้างให้แจ้งเกิดการใช้งบกว้านซื้อเวลาในช่องต่างๆ

amado

ทำไมต้องเป็นทีวีโฮมช้อปปิ้ง เพราะเป็น Real-time platform ที่มีประสิทธิภาพตอบสนองผู้บริโภคได้แบบเรียลไทม์ เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่า การจำหน่ายอาหารเสริมหลักๆ มาจากช่องทางทีวีโฮมช้อป ปิ้ง ซึ่งส่วนใหญ่ฐานผู้ชมจะเป็นกลุ่มแมสหรือคนทั่วไป โดยดูจากการเลือกช่วงเวลาออกอากาศ (เรตติ้งรวมกว่า 3,000 ออนแอร์ ล้วนแล้วแต่เป็นการขยายฐานลูกค้าสู่ตลาดต่างจังหวัดทิ้งสิ้น และยังเพิ่มทีมเทเลเซลล์ 200 คู่สาย รวมทั้งยังมีบริการส่งสินค้ารวดเร็วภายใน 48 ชั่วโมง นั่นคือแม่เหล็กที่สำคัญของการฟาดฟันในสมรภูมินี้

เฮียฮ้อไปต่อไม่รอแล้ว Entertainmerce

ต้องบอกว่าเป็นค่ายที่ทำธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้ง ‘RS Mall’ ที่มาแรงที่สุดในเวลานี้ โดยผสานจากธุรกิจ Commerce และ Entertainment มารวมกันกลายเป็น Entertainmerce  ภายใต้กลยุทธ์เปลี่ยนผู้ชมให้เป็นผู้ซื้อ โดยจุดแข็งของ RS Mall คือ การมีช่องทีวีดิจิทัลของตัวเอง ช่อง 8 และยังมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอีก 3 ช่อง ได้แก่ ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ทำรายการโฮมช้อปปิ้ง “T จำหน่ายสินค้าของ ไลฟ์สตาร์ จับมือกับเวิร์คพอยท์เปิดช่องทางขายสินค้าใหม่ ภายใต้ชื่อ Wellness Shop จำหน่ายสินค้าของไลฟ์สตาร์และยังมีวิทยุ Cool ซึ่งทำให้อาร์เอสเข้าถึงผู้ชมกว่า 50 ล้านคนต่อวัน

rs group

แน่นอนว่ากลยุทธ์ของ RS Mall นอกจาก Collaboration กับศิลปินต่างๆ แล้ว  จุดที่ทำให้อาร์เอสสามารถเติบโตในธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้ง มาจากการความแข็งแกร่งในตลาดแมส ซึ่งผู้ชมช่อง 8 ส่วนใหญ่เป็นตลาดจังหวัด อย่างไรก็ดีจะเห็นว่าอาร์เอสเริ่มขับเคลื่อนธุรกิจบนเว็บไซต์ RS Mall ด้วยการ Live เข้ามาเพิ่มสีสันในการขายผ่านบนเว็บไซต์แล้ว ซึ่งเป็นเทรนด์ที่มาแรงมากทั้งเกาหลีใต้รวมทั้งในประเทศจีน ขณะเดียวกันอาร์เอส เริ่มใช้กลยุทธ์การขายแบบไทอินในละครเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งหากทำการขายได้เนียบก็จะเป็นอาวุธสำคัญการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้เพิ่มขึ้น และสิ่งที่น่าจะจับตามองในปีนี้ของ  ‘RS Mall’ หลังจากปีที่ผ่านมาได้ขยายไลน์สินค้าในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ยาสีฟัน ปีนี้เชื่อว่าจะมีการขยายไลน์สินค้าที่มีความเป็นพรีเมียมมากขึ้น 

สรุป เส้นทางทีวีโฮมช้อปปิ้งเดือดทะลุจอ

ธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้งมีมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท เมื่อปี 2563 การเติบโตโดยเฉลี่ย 20% ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ตลาดเติบโตมาจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้คนไทยใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านมากขึ้น และมีความคุ้นเคยกับการซื้อสินค้าทางผ่านโฮมช้อปปิ้งมากขึ้น

กลยุทธ์การจำหน่ายสินค้าผ่านทีวีโฮมช้อปปิ้ง มีการสร้างสรรค์คอนเท้นต์ที่น่าสนใจ ตื่นเต้น เร้าใจ ตลอดจนการมีโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม กระตุ้นการตัดสินใจซื้อผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ที่ผ่านมายังนำเซเลบริตี้หรือศิลปินที่มีชื่อเสียงในวงการต่างๆ ผ่านการนำเสนอสินค้า ช่วยสร้างภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์มีความน่าเชื่อถือ

พฤติกรรมของผู้บริโภคในช่องทางทีวีโฮมช้อปปิ้ง ส่วนใหญ่แล้วมีความภักดีต่อแบรนด์สูงมาก เพราะมีความเชื่อเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใช้แล้วดี เห็นผลลัทธ์ที่ชัดเจน จึงทำให้ตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้งหอมหวนยิ่งขึ้นทุกวัน

เทรนด์ที่น่าจับตามอง แบรนด์ชั้นนำในระดับ Premium and luxury Brand เริ่มให้ความสำคัญกับช่องทางทีวีโฮมช้อปปิ้งมากขึ้น ปัจจัยสำคัญเพราะเป็นแพลทฟอร์มที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา