ทีเอ็มบีธนชาต ไตรมาส 1 ปี 67 กำไรสุทธิ 5,334 ล้านบาท โต 24% 

ทีเอ็มบีธนชาต เปิดกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2567 ที่ 5,334 ล้านบาท โต 24% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทั้งยังสามารถลดหนี้เสียได้อย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ 2.56% ย้ำปีนี้ยังให้สินเชื่ออย่างระมัดระวัง พร้อมช่วยลูกค้า แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนในระยะยาว

ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีนี้ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปรับโครงสร้างพอร์ตสินเชื่อ ไปยังสินเชื่อกลุ่มลูกค้ารายย่อยและการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงิน ช่วยชดเชยผลกระทบจากรายได้ค่าธรรมเนียมซึ่งยังคงมีความท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายได้ค่าธรรมเนียมกองทุนรวม

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานด้านสินเชื่อยังคงเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธนาคาร ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2567 มีสินเชื่ออยู่ที่ 1.31 ล้านล้านบาท ชะลอลง 1.0% จากไตรมาสที่แล้ว ขณะเดียวกันมีการบริหารจัดการหนี้เสียในเชิงรุก ทำให้สามารถลดอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพลงมาได้อย่างต่อเนื่องจาก 2.62% ณ สิ้นปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 2.56% ณ สิ้นไตรมาส 1 

อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ธนาคารจะยังคงดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ และบริหารจัดการในทุกด้านเพื่อการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน 

ttb ธนาคารทหารไทยธนชาต

ผลประกอบการของธนาคารฯ ไตรมาส 1 ปี 2567 (ณ 31 มี.ค. 67) มีจุดสำคัญดังนี้

  • กำไรสุทธิอยู่ที่ 5,334 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 14,396 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
    (ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ: NIM อยู่ที่ 3.28% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 3.08%)
  • รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยรวมอยู่ที่ 3,273 ล้านบาท ลดลง 2.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นๆ อยู่ที่ 7,570 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) อยู่ที่ 39,759 ล้านบาท ลดลง 3% จากสิ้นปีก่อนหน้า โดยอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) อยู่ที่ 2.56% ลดลงจาก ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2566 ที่อยู่ระดับ 2.62%

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 1 ปี 2567 ธนาคารได้ตั้งสำรองฯ เพิ่มเติมจากระดับปกติ รวมตั้งสำรองฯ ทั้งสิ้นเป็นจำนวน 5,117 ล้านบาท เพื่อเสริมกันชนรองรับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน

ปัจจุบันธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าผ่านการปรับโครงสร้างหนี้คิดเป็นมูลค่าสินเชื่อประมาณ 11% ของพอร์ตสินเชื่อรวม ขณะที่จำนวนลูกค้าภายใต้โครงการรวบหนี้ เพิ่มขึ้นจากประมาณ 17,000 ราย ณ สิ้นปีที่แล้ว สู่ระดับ 21,000 ราย โดยธนาคารสามารถช่วยให้ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวประหยัดดอกเบี้ยไปได้กว่า 1,400 ล้านบาท

ด้านเงินฝาก ณ 31 มี.ค. 2567 พบว่ามีจำนวนอยู่ที่ 1.37 ล้านล้านบาท ลดลง 1.0% จากไตรมาสที่แล้ว เป็นผลจากเงินฝากกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ขณะที่เงินฝากรายย่อยกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะเงินฝากประจำยังคงขยายตัวได้ตามแผน ทั้งนี้ ด้วยสภาพคล่องที่ยังคงอยู่ในระดับสูงก็จะช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้กับการบริหารต้นทุนทางการเงินในระยะถัดไป

ทั้งนี้ ในด้านฐานะเงินกองทุนของธนาคาร พบว่า อัตราส่วน CAR และ Tier 1 ณ สิ้นไตรมาส 1 อยู่ที่ 20.8% และ 17.0% โดยระดับดังกล่าวถือว่าสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม และสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารกลุ่ม D-SIBs ที่ธปท.กำหนดไว้ที่ 12.0% และ 9.5% ตามลำดับ

 

ที่มา ทีเอ็มบีธนชาต, SET

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา