อาจได้เห็นข่าวดีของทั้ง 2 ประเทศต้อนรับปีใหม่ เมื่อผู้นำ 2 ประเทศได้ต่อสายพูดคุยในเรื่องข้อขัดแย้งทางการค้าแล้ว หลังจากคาราคาซังมาเป็นเวลาหลายเดือน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ต่อสายคุยกับ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากเกิดขึ้นหลังจากครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีน โดยประเด็นในการพูดคุยประกอบไปด้วย กรณีขัดแย้งในสงครามการค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขโมยเทคโนโลยี ฯลฯ ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญอีกครั้งในการเจรจาของ 2 มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
ในช่วงที่ผ่านมา ทั้ง 2 ประเทศได้ประกาศร่วมกันที่จะชะลอการขึ้นเพดานภาษีเป็นระยะเวลา 90 วัน ขณะเดียวกันก็มีการเริ่มเจรจาของเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ฝ่ายทั้งระดับล่างและระดับสูงอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ เตรียมที่จะเดินทางไปยังประเทศจีนในวันที่ 7 มกราคม เพื่อที่จะเจรจาในข้อพิพาทการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
Just had a long and very good call with President Xi of China. Deal is moving along very well. If made, it will be very comprehensive, covering all subjects, areas and points of dispute. Big progress being made!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) December 29, 2018
สงครามการค้าส่งผลทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนถึงความยืดเยื้อของสหรัฐฯ กับจีนที่ยังหาทางออกไม่ได้ และอาจส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจโลกอาจกลับเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอีกครั้ง
สำนักข่าวซินหัวได้รายงานเพิ่มเติมว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้กล่าวกับ ประธานาธิบดีทรัมป์ ถึงการเจรจาในเรื่องนี้ว่า “ขอพบกันครึ่งทาง” เพราะจะได้ประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย และยังเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโลกอีกด้วย ส่วนทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของจีน ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า แม้สหรัฐฯ และจีน จะมีข้อขัดแย้งกัน แต่การเจรจาของทั้ง 2 ฝ่ายจะมีประโยชน์แก่ทั้งจีนและสหรัฐฯ รวมไปถึงสร้างเสถียรภาพและสันติขึ้นในโลกด้วย
อย่างไรก็ดีบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ Global Times ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลจีนได้ตั้งข้อสงสัยถึงการเจรจาของทั้ง 2 ประเทศว่า เป็นเรื่องที่ดีแน่นอน (ของการเจรจาการค้า) แต่ก็ยังไม่มีความแน่ชัดว่า สหรัฐฯ มองจีนเป็นคู่ค้าที่มีความยุติธรรม หรือเป็นคู่แข่งคนสำคัญ โดยสหรัฐควรจะเจรจากับจีนโดยมองตามความเป็นจริง และจีนจะไม่ยอมรับเงื่อนไขที่สหรัฐฯ ทำให้นโยบายจีนเปลี่ยนไป
นอกจากนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้อวยพรในวันขึ้นปีใหม่แก่ทางประธานาธิบดีของจีนอีกด้วย
ที่มา – The Guardian, Reuters, Bloomberg
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา