แม้จะเปิดให้บริการมาเป็น 10 ปี แต่หลายคนคงสงสัยว่าทำไมช่วงหลัง TrueMoney มีคนใช้เยอะขึ้น เพราะจ่ายใน 7-Eleven ได้หรือเปล่า? วันนี้ทีมผู้บริหารของเบอร์หนึ่ง E-Wallet ในไทยได้มาตอบคำถามเรื่องนี้ให้แล้ว
7-Eleven เป็นเพียงแค่หนึ่งในปัจจัย
เวลาที่เข้าไปใช้บริการร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven หลายครั้งมักจะเห็นคนจ่ายเงินด้วยการหยิบ Smartphone ออกไปให้แคชเชียร์ตัดเงินจากแอปพลิเคชั่น TrueMoney หรือ 7-Eleven จนหลายคนคิดว่ายอดการใช้จ่ายหลักๆ ของ TrueMoney ต้องมาจากการซื้อสินค้า และบริการใน 7-Eleven แน่ๆ เลย
แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น เพราะยอดการใช้งานตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนก.ค. 2562 ใน TrueMoney อันดับหนึ่งคือการซื้อบริการเสริม และเติมเงินโทรศัพท์มือถือ รองลงมาเป็นการซื้อบริการดิจิทัล เช่นไอเท็มในเกม ซึ่งเติบโตกว่า 70% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน และการใช้จ่ายใน 7-Eleven เป็นอันดับที่ 3
“ยืนยันว่าที่ TrueMoney เติบโต 7-Eleven เป็นเพียงแค่ปัจจัยหนึ่ง เพราะ TrueMoney อยู่ในตลาด E-Wallet มาเป็น 10 ปี และช่วง 2-3 ปีหลังเราลงทุนการตลาด และมีพาร์ทเนอร์เยอะขึ้นจนเติบโตได้ดีขึ้นมากกว่า” นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ผู้อำนวยการฝ่ายทางพาณิชย์ TrueMoney กล่าว
เห็นเงียบๆ แต่ขยายจุดชำระเป็น 2 แสนจุด
ปัจจุบัน TrueMoney มีผู้ดาวน์โหลดไปใช้งานในประเทศไทย 19.8 ล้านครั้ง มี Annual Active User (ผู้ใช้งานอย่างน้อย 1 ครั้ง/ปี) ที่ 8.4 ล้านบัญชี แบ่งเป็นเพศชาย และหญิงในอัตราส่วนใกล้เคียงกัน เช่นเดียวกับการใช้งานในกรุงเทพ และปริมณฑล กับต่างจังหวัด โดยอายุเฉลี่ยของผู้ใช้งานอยู่ที่ 27 ปี
ส่วนการใช้งานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 8.8 ครั้ง/เดือน ผ่านการใช้จ่ายครั้งละ 250-300 บาท ซึ่ง TrueMoney นั้นมีจุดรับชำระเงินในโลก Offline หรือร้านสะดวกซื้อ, ร้านอาหาร และโชห่วยราว 2 แสนจุด ไม่รวมกับการเชื่อมระบบกับโลก Online เช่น Lazada, Thai Ticket Major และ Play Store กับ App Store เพื่อจ่ายด้วย TrueMoney ได้
“เป้าหมายปีนี้คือการเพิ่มจุดชำระเงินในโลก Offline ให้ได้ 3 แสนจุด ซึ่งจะทำได้ TrueMoney ก็ต้องเจรจากับร้านค้ารายใหญ่ และรายย่อยมากกว่าเดิม ส่วน Annual Active เป้าอยู่ที่ 14 ล้านบัญชี และการทำให้ TrueMoney จ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ก็คือ Killing Feature ของเราเพราะแค่ขั้นต่ำ 20 บาทก็จ่ายได้” นิรันดร์ เสริม
ไม่มอง E-Wallet ในประเทศไทยเป็นคู่แข่ง
นอกจาก TrueMoney จะให้บริการในไทย บริษัทยังให้บริการอีก 5 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย โดยเฉพาะในประเทศเมียนมาที่สถานบันการเงินยังไม่แข็งแกร่ง และการโอนเงินมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้ TrueMoney เข้าไปตอบโจทย์เรื่องนี้ด้วย TrueMoney Agent ที่เน้นให้บริการโอนเงิน และมีรายได้จากค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า
ด้านการแข่งขันของตลาด E-Wallet “นิรันดร์” มองว่า มีหน้าใหม่เข้ามาตลอด เพราะในประเทศไทยยังเป็นช่วงเริ่มต้นของตลาดนี้อยู่ ผ่านจำนวนการใช้จ่ายทั้งประเทศ 90% เป็นเงินสด ส่วนผู้เล่นรายเดิมก็มีบางรายที่เริ่มถอยเรื่องการตลาดไปบ้าง ดังนั้นการจะเติบโตในตลาดนี้อย่างยั่งยืนต้องมีพาร์ทเนอร์ที่ดีเพื่อเติบโตไปด้วยกัน
“TrueMoney ไม่มอง E-Wallet รายอื่นเป็นคู่แข่ง เพราะเราต้องการตอบโจทย์เรื่องสังคมไร้เงินสดด้วยบริการต่างๆ มากกว่า ยิ่งเราได้ความรู้จาก Ant Financial ยักษ์ใหญ่บริการทางการเงินของจีน และความแข็งแกร่งของกลุ่ม CP ก็ทำให้เราสามารถปั้น TrueMoney เป็น Super App ที่มีการใช้งานทุกวันได้” นิรันดร์ กล่าวทิ้งท้าย
สรุป
ในมุมการตลาด TrueMoney อาจดูแผ่วๆ ไปบ้างเมื่อเทียบกับรายอื่น แต่ด้วยการขายจุดชำระเงินที่ได้ทั้งทีม True ช่วยเปิดตลาดโชห่วย และร้านรายย่อย ประกอบกับการจ่ายใน 7-Eleven ได้ รวมถึงแคมเปญต่างๆ ที่ส่งออกมาภายในแอปพลิเคชั่น ก็ทำให้ TrueMoney ยังยากที่จะหลุดจากตำแหน่งเบอร์หนึ่งของ E-Wallet
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา