TrueID อัดหลายพันล้าน ย้ำให้ดูฟรี หวังปรับทัศนคติคนไทยเลิกสนับสนุนเนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์

แม้ให้บริการเพียง 5 เดือน แต่ TrueID แพลตฟอร์มรวมเนื้อหาความบันเทิงของทรู ที่มีศักดิ์เทียบเท่าบริการ True Vision และ True Online ก็เติบโตอย่างรวดเร็วจนมีผู้ใช้ 13-14 ล้าน ผ่านกลุยทธ์ให้รับชมฟรี

ชมฟรีคือหัวใจหลักถ้าอยากทำตลาดไทย

ด้วยความคุ้นชินของผู้บริโภคชาวไทยที่ส่วนใหญ่มองทุกอย่างบนโลกออนไลน์เป็นของฟรี ทำการสร้างบริการ Streaming ทั้งภาพยนตร์ และเพลงที่มีค่าใช้จ่ายจะเจาะผู้ใช้ได้แค่บางกลุ่ม และยิ่งบริการในลักษณะดังกล่าวเกิดมากขึ้น ทำให้ถ้าสมัครทั้งหมด ในแต่ละเดือนอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเข้ามามากกว่า 500 บาทแน่ๆ

จุดนี้เองกลุ่มทรูตัดสินใจสร้าง TrueID ขึ้นเมื่อ 5 เดือนก่อน เพื่อสร้างความแตกต่างด้วยการทำตลาดแนวกว้าง หรือรวมบริการ Streaming รูปแบบต่างๆ ทั้งโทรทัศน์, ภาพยนตร์, เพลง และอื่นๆ ไว้ที่เดียว แถมให้ชมฟรีตั้งแต่แรก และไม่จำกัดเรื่องเครือข่ายด้วย ซึ่งต่างกับ Streaming ตัวอื่นที่ทำตลาดแนวลึก หรือมีเฉพาะภาพยนตร์ หรือเพลง

สรรเสริญ สมัยสุต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูดิจิตอล แอนด์ มีเดีย แพลตฟอร์ม จำกัด ผู้ให้บริการ TrueID เล่าให้ฟังว่า ก่อนสร้างแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมา ทางกลุ่มทรูได้ลงทุนหลักพันล้านบาท เพื่อจ้างพนักงาน 500 ตำแหน่ง, ลงทุนระบบหลังบ้าน และซื้อเนื้อหาต่างๆ เข้ามา ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้เงินลงทุนมากที่สุด แม้ต้องแลกกับการให้ชมฟรีก็ตาม

เติบโตก้าวกระโดด สิ้นปีหน้าแตะ 30 ล้านราย

“ก่อนหน้านี้กลุ่มทรูอาจค่อนข้างปิด และกระจายบริการออนไลน์ออกไปหลายตัว แต่ตอนนี้จะไม่ใช่อีกต่อไป เพราะเราเปิดกว้างให้ AIS และ dtac เข้ามาใช้ได้ นอกจากนี้ยังรวมบริการต่างๆ เช่น HMusic และ H ตัวอื่นๆ เข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกันเพื่อให้เกิดการใช้งานที่ง่ายขึ้น”

สำหรับแพลตฟอร์ม TrueID ปัจจุบันประกอบด้วย เว็บไซต์ trueid.net, กล่อง TrueTV และแอปพลิเคชั่น TrueID มีผู้สมัครใช้งานรวมทั้งหมด 13-14 ล้านราย โดยตัวแอปพลิเคชั่นปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดใช้งาน 1 ล้านครั้ง และมีผู้ใช้งานทุกวัน (Active) 8 แสนราย/เดือน มีรายการกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอลเป็นรายการที่รับชมสูงสุด

ขณะเดียวกันเพื่อสร้างการเติบโตต่อเนื่อง จึงส่งแคมเปญ TrueID Extra Giving… Extra Surprise โดยแจกรางวัลให้กับผู้ใช้งาน 1 ล้านรางวัล รวมมูลค่า 25 ล้านบาท และถ้าเป็นผู้ใช้เครือข่าย TrueMove H จะได้สิทธิ์รับเงินคืนเข้ากระเป๋า True Money สูงสุด 2,000 บาท ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นหนึ่งในแผนเพิ่มยอดใชงานแตะ 30 ล้านราย

ยอมรับช่วงแรกทำได้ไม่ดี แต่หลังจากนี้จะพัฒนา

ในทางกลับกันด้วยการเติบโตที่รวดเร็ว ทำให้ยอดผู้ใช้บริการเข้ามาเกินความจุที่ระบบรับได้ จนเกิดปัญหาการรับชมบ่อยครั้ง ซึ่งทางบริษัทรับรู้ปัญหาเรื่องนี้ และเตรียมลงทุนอีกหลักพันล้าน ใกล้เคียงกับปีก่อน เพื่อพัฒนาระบบให้รองรับการรับชมได้ดีกว่าเดิม เพราะปัจจุบันมียอดการรับชม New High ทุกสัปดาห์ พร้อมกับซื้อรายการใหม่ๆ ด้วย

“ในฝั่งภาพยนตร์เรามีบุฟเฟต์กว่า 3,000 เรื่อง และภาพยนตร์ใหม่แค่ออกโรงเดือนครึ่งก็มาให้เช่าในแพลตฟอร์มเราได้ และยิ่งรวมรายการกีฬาที่เราซื้อร่วมกับ True Vision ก็ทำให้มันมีการรับชมเยอะมาก รวมถึงคนใช้ AIS และ dtac ก็ใช้บริการเราถึง 30% และอนาคตมันอาจขึ้นไปเป็นครึ่งหนึ่ง ดังนั้นเราต้องลงทุนอยู่ตลอดเวลา”

ทั้งนี้เรื่องรายได้ทาง TrueID ยังไม่มองเรื่องนี้ เพราะต้องการยกระดับการรับชมรายการต่างๆ อย่างถูกลิขสิทธิ์ในประเทศไทยเสียก่อน ส่วนรูปแบบการสร้างรายได้ในอนาคตมองเรื่องโฆษณา มากกว่าการขายแพ็คเกจ เพราะถึงโฆษณาจะอาจรบกวนอรรถรสในการรับชมเล็กน้อย แต่มันน่าจะตรงใจผู้บริโภคชาวไทยที่ชอบดูฟรีมากกว่า

สรุป

หากมองตื่นๆ การลงทุนหลายพันล้านบาทเพื่อเอารายการดีๆ มาให้รับชมฟรีอาจดูไม่ค่อยคุ้ม และเป็นการละลายเงินเปล่าๆ แต่ถ้ามองลึกลงไปจริงๆ การลงทุนครั้งนี้ช่วยเหลือให้ Churn Rate หรือลูกค้าไหลออกของกลุ่มทรูลดลง เพราะได้สิทธิประโยชน์ที่ดีกว่า นอกจากนี้ฝั่งเครือข่ายอื่นๆ ก็อาจหันมาสมัคร หรือซื้อซิมทรูเข้ามาเพิ่มอีกก็ได้

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา