ทรูวิชั่นส์ คว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่อเนื่อง 3 ฤดูกาล ตั้งแต่ 2022/23-2024/25

ทรูวิชั่นส์ ตอกย้ำความเป็น คิง ออฟ สปอร์ต ยืนยันการถือครองลิขสิทธิ์ พรีเมียร์ลีก ลีกฟุตบอลอันดับ 1 ของโลก ต่อเนื่องอีก 3 ฤดูกาล เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2022/23 – 2024/25 ลิขสิทธิ์ครบถ้วนแบบเบ็ดเสร็จเต็มรูปแบบ

พรีเมียร์ลีก

องอาจ ประภากมล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านมีเดีย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “สำหรับ พรีเมียร์ลีกฤดูกาลปัจจุบันที่กำลังแข่งขันกันอย่างเข้มข้น และแฟนบอลทั่วโลกกำลังลุ้นว่าทีมใดจะคว้าถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้มาครอบครองได้นั้น ทรูวิชั่นส์ไม่รอช้าเดินหน้าเอาใจแฟนบอลชาวไทยอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดคว้าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลใหม่ ถ่ายทอดต่ออีก 3 ฤดูกาลตั้งแต่ 2022/23 – 2024/25 โดย ทรูวิชั่นส์ จัดเต็มถ่ายทอดสดครบทั้ง 380 แมตช์ตต่อฤดูกาล รวม 1,140 แมทช์ ผ่านทุกแพลตฟอร์มให้สมาชิก ทรูวิชั่นส์ได้เชียร์แบบเกาะติดขอบสนาม ไม่พลาดแม้แต่แมตช์เดียว คมชัดแบบเอชดีทุกจอ ทั้งบนจอโทรทัศน์ ทางสมาร์ทโฟน และออนไลน์ ประเดิมนัดเปิดสนามที่ 6 ส.ค. 2565

ทรูวิชั่นส์เป็นเพียงรายเดียวของไทยที่ได้รับลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแบบเต็มรูปแบบ ทั้งการถ่ายทอดสด รีรัน และไฮไลท์ สำหรับ “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” ฤดูกาลใหม่นี้ ทรูวิชั่นส์ได้เตรียมความพิเศษมากมายเพื่อเพิ่มอรรถรสให้แฟนบอลได้เชียร์สะใจยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทีมงานนักพากย์มืออาชีพชั้นแนวหน้าของไทย หรือจะเลือกฟังเสียงบรรยายจากพรีเมียร์ลีกก็ได้

พร้อมรับชมรายการพิเศษจากเหล่ากูรูลูกหนังที่จะมาร่วมวิเคราะห์ วิจารณ์ เจาะลึกการแข่งขัน ทั้งผลิตตรงจากพรีเมียร์ลีก และผลิตจากทีมผู้เชี่ยวชาญระดับบชั้นนำของเมืองไทย ร่วมด้วยรายการแมกกาซีนจากต่างประเทศ คอบอลต้องไม่พลาด สำหรับสมาชิกที่ใช้บริการทรู เช่น ทรูวิชั่นส์ ทรูมูฟเอช ทรูออนไลน์ และทรูไอดี เตรียมพบกับความสนุก สด มัน กับสุดยอดแห่งลีกฟุตบอลอันดับหนึ่งของโลกฤดูกาลใหม่แบบเอ็กซ์คลูซีฟได้ที่นี่ที่เดียว

พอล โมนาร์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านมีเดีย พรีเมียร์ลีก กล่าวว่า “เรารู้สึกมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ ทรูวิชั่นส์ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรามั่นใจในศักยภาพและความพร้อมของทรูวิชั่นส์ที่จะเต็มที่กับการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษใน 3 ฤดูกาลข้างหน้านี้ เช่นทุกฤดูกาลที่ผ่านมา

อ้างอิง // ทรูวิชั่นส์

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา