ยุคสตรีมคอนเทนต์มหาศาล “ทรูออนไลน์” จับกลุ่มพรีเมี่ยมด้วยเน็ตไฟเบอร์ 1 Gbps

เข้าสู่ยุคที่ผู้บริโภคต้องการความเร็ว และความแรงของอินเทอร์เน็ต ทรูออนไลน์เปิดแพ็คเกจอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ตัวใหม่ เน็ตไฟเบอร์ 1 Gbps ในราคา 2,999 บาท จับครอบครัวกลุ่มพรีเมี่ยม มีกำลังซื้อในกทม.

พฤติกรรมผู้บริโภคเสพคอนเทนต์มหาศาล

ในอดีตนั้นการใช้งานอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ หรืออินเทอร์เน็ตบ้านของผู้บริโภคยังไม่ได้ซับซ้อนมาก ส่วนใหญ่เป็นการค้นหาข้อมูล เล่นเกม โซเชียลมีเดีย แต่ยุคนี้มีปริมาณคอนเทนต์มหาศาลทั้งการสตรีมมิ่งหนัง เพลง e-Sport ทำให้ปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้น

ยิ่งในอนาคตจะมี IoT เข้ามามีบทบาทเพิ่มเติม นั่นหมายความว่าไม่ได้มีเพียงแค่คอมพิวเตอร์ และมือถือเท่านั้นที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แต่จะมีอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย ในยุคนี้ครอบครัวหนึ่งมีอุปกรณ์ไม่ต่ำกว่า 5 อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

ทำให้ได้เห็นภาพของตลาดอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่เปลี่ยนไป ผู้เล่นในตลาดมีการทำการบ้านหนักขึ้น ซึ่งทรูออนไลน์ถือว่าเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดได้เริ่มตีโจทย์ที่ว่าจำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเปลี่ยนไปจะขายแค่ที่ความเร็วอย่างเดียวไม่ได้ต้องดูเรื่องแบนด์วิธที่จะรองรับด้วย

ทรูออนไลน์ได้มีการออกแพ็คเกจใหม่อยุ่ตลอด มีการอัพสปีดตามพฤติกรรมลูกค้า แต่ปัจจุบันจะพูดในระดับ 50-100 Mbps ได้ไม่แล้ว เพราะปริมาณการเสพคอนเทนต์มากขึ้น ทำให้ทรูออนไลน์ออกแพ็คเกจใหม่ “เน็ตไฟเบอร์ 1 Gbps” ในระดับครัวเรือน ในราคาเข้าถึงได้ที่ 2,999 บาทพร้อมกับกลยุทธ์คอนเวอร์เจนซ์เช่นเคย

สหรัฐส์ คนองศิลป์ ผู้อำนวยการ และหัวหน้าสายงานการพาณิชย์ทรูออนไลน์ และคอนเวอร์เจนซ์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า

แต่ก่อนอินเทอร์เน็ตจะพูดเรื่องความเร็ว ตอนนี้พูดเรื่องความใหญ่ของแบนด์วิธ เพราะมีอุปกรณ์เยอะแยะไปหมดในบ้าน มีมากกว่าโทรศัพท์ และจะมี IoT ทำให้โจทย์อุปกรณ์ในบ้านเปลี่ยนไป รวมถึงพฤติกรรมการสตรีมมิ่งมากขึ้น ดูคลิป ดาวน์โหลด เล่นเกม อีคอมเมิร์ซ การใช้งานในบ้านมีชั่วโมงเร่งด่วนเหมือนขึ้นทางด่วนช่วงเช้า ปริมาณข้อมูลเยอะในท่อหนึ่งเส้น ต้องตีโจทย์ว่ามีอุปกรณ์เยอะ คนเยอะ จำนวนการใช้งานเยอะ ต้องดูว่ามีแบนด์วิธขนาดไหน

หนีสงครามราคา จับกลุ่มพรีเมี่ยมซะเลย

ถ้าย้อนกลับไปช่วง 5 ปีก่อน ต้องบอกว่าตลาดอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์การแข่งขันไม่สูงเท่านี้ มีผู้เล่นรายใหญ่อยู่ 3 ราย ก็คือ ทรูออนไลน์, 3BB และ TOT แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้มี AIS Fibre ลงมาในตลาดอีกราย ทำให้การแข่งขันในตลาดดุเดือดขึ้น มีการหั่นราคา พร้อมกับการขายพ่วงแพ็คเกจเช่นเดียวกัน

ทำให้ได้เห็นภาพการแข่งขันเป็นในเชิงเพิ่มสปีดความเร็วกันมาตลอด และไม่มีการปรับราคาขึ้นกันด้วย เพื่อเป็นการแย่งชิงลูกค้ากัน แถมในช่วง 1-2 ปีมานี้ได้มีโครงการเน็ตประชารัฐ ที่ทางรัฐบาลลงทุนติดตั้งเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในต่างจังหวัด

ทำให้ทรูออนไลน์ต้องมาทำการบ้านใหม่ จึงตัดสินใจโฟกัสในตลาดพรีเมี่ยมจัดแพ็คเกจใหญ่ๆเพื่อดึงลุกค้ากลุ่มมีกำลังซื้อและลดการลงทุนในต่างจังหวัดเพราะมีโครงการเน็ตประชารัฐ

เน็ตไฟเบอร์ 1 Gbps จึงเริ่มต้นในกรุงเทพฯ ก่อน ละจับกลุ่มบ้านมีกำลังซื้อ  หลังจากนั้นค่อยทยอยไปตามหัวเมืองใหญ่และคอนโดใหม่ๆ

ซึ่งปัจจุบันทรูออนไลน์มีลูกค้ารวมทั้งหมด 3.2 ล้านราย (ครัวเรือน) เป็นลูกค้าในกรุงเทพฯ 1.5 ล้านราย มียอดการใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 50 Mbps และมี APRU (Average Revenue Per User) เฉลี่ย 600-700 บาท มีโอกาสที่จะให้ลูกค้าในกรุงเทพฯ ขยายการใช้งานได้เพิ่มขึ้น

ทางทรูออนไลน์เองมีความแข็งแกร่งในกรุงเทพฯ มากกว่าด้วย ในต่างจังหวัดส่วนใหญ่เป็นตลาดของ 3BB อีกทั้งยังมีการเข้ามาของเน็ตประชารัฐ จึงทำให้ทรูออนไลน์ตัดสินใจโฟกัสที่กลุ่มพรีเมี่ยมมากกว่า

ในปี 2561 คาดการณ์ตลาดอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์จะมีมูลค่า 40,000 ล้านบาท มีจำนวนผู้ใช้ 6-7 ล้านครัวเรือนโดยที่ทรูออนไลน์มีส่วนแบ่งตลาด 42% 3BB กว่า 30% ที่เหลือเป็น TOT และ AIS Fibre มีการคาดการณ์ว่าในปี 2020 จะมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบ้าน 11 ล้านครัวเรือน

สำหรับในปีนี้ทรูออนไลน์ตั้งเป้าเติบโต 10% มีรายได้ 27,000 ล้านบาท และมีผู้ใช้ใช้รวม 4 ล้านราย และใช้แพ็คเกจเน็ตไฟเบอร์ 1 Gbps ในสัดส่วน 10% ของลูกค้าในกรุงเทพฯ

สรุป

การแข่งขันในตลาดนี้ดุเดือดมากขึ้น แต่ในช่วงหลังจะเป็นการสู้กันของสองค่ายอย่างทรูออนไลน์ และเอไอเอส ไฟเบอร์ เป็นคู่แข่งในตลาดเทเลคอมอยู่แล้วด้วย แถมมีการหั่นราคา คอนเวอร์เจนซ์ตามๆ กัน การปรับกลยุทธ์เพื่อจับตลาดที่ตนเองแข็งแรงอยู่ก็ถือว่าเป็นการเดินเกมที่ดีของทรูออนไลน์   

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา