ใครใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์บ้างยกมือขึ้น ที่ผ่านมาใช้เฉพาะซื้อของใน e-Commerce ใช้จ่ายค่าสาธารณูปโภค หรืออาจจะโอนเงินให้เพื่อนได้เท่านั้น แล้วทำไมถึงใช้ซื้อของตามร้านสะดวกซื้อไม่ได้ หรือเรียกกันแบบเข้าใจง่ายว่า ทำไมเงินออนไลน์ ถึงใช้ซื้อของออฟไลน์ไม่ได้สักที
แต่มาวันนี้ True Money Wallet ได้พัฒนาจนสามารถจ่ายเงินซื้อของที่ เซเว่นอีเลฟเว่น ได้แล้วทั้งกว่า 9,000 สาขาทั่วประเทศ อภินันท์ ดาบเพ็ชร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ True Money Wallet และ Prepaid MasterCard บอกว่า หลังจากเริ่มต้นทดลองให้บริการตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. เพื่อเก็บ Feed Back และสร้างความเข้าใจกับพนักงาน เวลานี้ถือว่าระบบสมบูรณ์แล้ว
เพราะต้องเข้าใจว่า การใส่ระบบรับชำระเงินแบบใหม่เข้าไปใน เซเว่นอีเลฟเว่น ทั้ง 9,000 สาขา ต้องใช้เวลาในการฝึกอบรมให้พนักงานประมาณ 1 แสนคนให้เข้าใจก่อน ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อทำได้แล้ว การจะขยายไปยังร้านค้าอื่นๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ซื้อง่าย จ่ายง่าย ด้วย Mobile Payment
ก่อนหน้านี้ ใครที่เป็นคอกาแฟ อาจจะเห็นว่าร้านกาแฟเชนสโตร์ มีระบบสะสมแต้มและชำระเงินด้วยระบบ Wallet แล้ว แต่ข้อจำกัดคือ ต้องมีแอปพลิเคชั่นเป็นของตัวเอง และต้องมีจำนวนสาขาที่ใหญ่มากพอ สำหรับ True Money Wallet ก็ทำได้เช่นเดียวกันที่ True Coffee ทุกสาขา นี่คือการสร้างพฤติกรรมใหม่ ใช้ True Money Wallet ตัวเดียว จะซื้อกาแฟ หรือซื้อของในเซเว่นอีเลฟเว่น ก็ใช้กระเป๋าเงินเดียวกัน
ยิ่ง เซเว่นอีเลฟเว่น เป็นร้านสะดวกซื้อที่มีคนเข้าใช้บริการต่อวันสูงที่สุด และคนไทยกว่า 60% มีการใช้งานสมาร์ทโฟนอยู่แล้ว การที่จะชำระค่าสินค้าได้ด้วยสมาร์ทโฟน ไม่ต้องใช้เงินสด ไม่ต้องใช้บัตร เป็น Mobile Payment at Retail Location และยังเติมเงินจากบัญชีธนาคารโดยตรง เข้าไปที่ True Money Wallet ได้ จะเป็นการสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้มากขึ้น
เพิ่มความสะดวกสบาย ขยายฐานผู้ใช้ Wallet
ฐานผู้ใช้ True Money Wallet มีประมาณ 6 ล้านราย แต่มีการใช้งานเป็นประจำทุกเดือนกว่า 8 แสนราย ซึ่งการใช้งานส่วนใหญ่คือ การโอนเงินระหว่างกัน (P2P) ซึ่งได้รับความนิยมมากในกลุ่มวัยรุ่น ส่วนการจ่ายเงินค่าสาธารณูปโภคต่างๆ และการรับชำระสินค้าออนไลน์ เป็นการใช้งานที่ไม่ได้เกิดเป็นประจำวัน ดังนั้นการพัฒนาให้สามารถจ่ายในเซเว่นอีเลฟเว่นได้ จะทำให้เงินใน True Money Wallet สามารถใช้ได้ทุกวัน
จากข้อมูลการใช้งานผ่าน Wallet พบว่า ผู้ใช้มีการจ่ายบิลค่าสาธารณูปโภคเฉลี่ย 1-2 ครั้งต่อเดือน, มีการซื้อของออนไลน์ 2-3 ครั้งต่อเดือน และมีการใช้จ่ายกับแอปพลิเคชั่น เช่น เกม ประมาณ 5 ครั้งต่อเดือน แต่การใช้จ่ายที่เซเว่นอีเลฟเว่น เฉลี่ยอยู่ที่ 4.5 ครั้งต่อสัปดาห์ ดังนั้นเชื่อว่าบริการ True Money Wallet จะได้รับความนิยมมากขึ้น โดยตั้งเป้าอีก 4 เดือนถึงสิ้นปี จะเพิ่มผู้ใช้อีกอย่างน้อย 4 แสนราย
จัดแคมเปญ สร้าง Journey การจ่ายเงิน
อภินันท์ บอกว่า True Money Wallet ต้องการสร้าง Consumer’s Journey ให้เกิดขึ้นกับการใช้งาน ต้องดึงดูดให้ลูกค้าทดลองใช้ครั้งแรก ถ้าง่าย สะดวก ประทับใจ ครั้งต่อๆ ไปจะค่อยๆ ตามมา จึงจัดเป็นแคมเปญ “จ่ายง่าย ได้มากกว่า ลุ้นช้อปฟรีที่ เซเว่น อีเลฟเว่น ด้วย True Money Wallet” มูลค่ารางวัลรวมกว่า 5 ล้านบาท เมื่อเปิดใช้งานการจ่ายเงินซื้อสินค้าครั้งแรก จะได้รับสิทธิ์เล่นเกม 3 ครั้งเพื่อรับโบนัสต่างๆ และถ้ามีการใช้จ่ายเกิดขึ้น 1 บิล หรือชวนเพื่อนมาใช้งาน จะได้สิทธิ์เล่นเกมเพิ่มขึ้น
เป้าหมายของแคมเปญคือ ต้องการให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับความง่าย คือ เข้าจะซื้อของไม่ต้องพกเงิน ไม่ต้องรับเงินทอน 50 สตางค์ และยังได้รับสิทธิประโยชน์จากการใช้จ่ายด้วย ทั้งหมดคือแนวคิดแบบ Instant Win นั่นคือ เมื่อเกิดการใช้งานขึ้น ผู้ใช้ต้องได้รับสิทธิประโยชน์นั้นทันที ไม่ต้องรอลุ้นอีก รวมถึงมี Referral Incentive คือทุกครั้งที่ชวนเพื่อนมาใช้งานได้สำเร็จ จะได้รับโบนัส 30 บาทด้วย โดยกำหนดถึง 25 ก.ย. นี้
เตรียมขยายให้บริการสู่ร้านค้าทั่วไป ด้วยรหัส QR Code
สำหรับการกระจายไปยังร้านค้าทั่วไป หากร้านค้าติดต่อรับชำระด้วย True Money แล้ว ไม่ต้องลงทุนระบบ หรืออุปกรณ์ เพียงแค่ติดสติกเกอร์ QR Code ไว้ที่ร้าน เมื่อลูกค้าที่มี True Money Wallet เข้ามาซื้อสินค้าหรือใช้บริการ จะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านข้าวราดแกง ก็สามารถจ่ายเงินได้ด้วยการ สแกน QR Code แล้วกดจำนวนเงิน ทางร้านก็จะได้รับแจ้งว่ามีการชำระเงิน ถือว่าการชำระเงินเสร็จสิ้น
ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บริการรับชำระเงินผ่านมือถือแบบ Mobile Payment เกิดขึ้นจริง คือ ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ซึ่ง True Money Wallet ได้แสดงให้เห็นมาตลอดหลายปี ว่าได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้ และเป้าหมายในการพัฒนาบริการไปสู่การเป็น Basic Financial Service ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
TrueMoney Wallet ซื้อของง่าย จ่ายสะดวก ที่ 7-ELEVEN
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา