ทรู เตรียมรับมือพายุ “คัลแมกี” พร้อมทีมเครือข่ายเฝ้าระวังพื้นที่ 66 จังหวัดเสี่ยงรับมือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง

ทรู คอร์ปอเรชั่น ประสานความร่วมมือกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตรียมรับมือพายุ “คัลแมกี (KALMAEGI)” ที่คาดการณ์อาจส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ระหว่างวันที่ 7–9 พฤศจิกายน 2568 โดยทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมสนับสนุนการแจ้งเตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast Service (CBS) และ SMS ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงได้รับข้อมูลอย่างทันท่วงที โดย ปภ. เป็นหน่วยงานภาครัฐดูแลการออกประกาศเตือนภัยและกำหนดรูปแบบข้อความอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งเตรียมประสานงาน กสทช. อย่างใกล้ชิดกรณีเกิดอุทกภัย เผยทีมเน็ตเวิร์กทรูนำรถโมบายล์สถานีฐานเคลื่อนที่เร็ว หรือ COW เตรียมพร้อมจุดสำคัญต่างๆ และตรวจสอบสถานีฐานเพื่อรองรับหากเกิดเหตุตามแผนฉุกเฉิน

พร้อมกันนี้ ทีมเน็ตเวิร์กทรูได้เตรียมความพร้อมสูงสุดใน 66 จังหวัดเสี่ยงภัยทั่วประเทศ จากข้อมูลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เมื่อ 6 พ.ย. 2568 โดยจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานีฐาน และเตรียมติดตั้งอุปกรณ์สำรองเพื่อให้บริการสื่อสารไม่สะดุดหากเกิดเหตุฉุกเฉินจากพายุ “คัลแมกี”

  • ภาคเหนือ 17 จังหวัด อาทิ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร เป็นต้น
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด อาทิ  เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี เป็นต้น
  • ภาคกลางและตะวันออก 23 จังหวัด อาทิ กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ปทุมธานี เป็นต้น
  • ภาคใต้ 5 จังหวัด อาทิ พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
  • กรุงเทพมหานคร

มาตรการเร่งด่วนของทรู คอร์ปอเรชั่น เพื่อรองรับสถานการณ์พายุ “คัลแมกี”

  1. จัดเตรียมเครื่องปั่นไฟ น้ำมันสำรอง และแบตเตอรี่สำรองสำหรับสถานีฐานกรณีไฟฟ้าถูกตัดจากน้ำท่วม
  2. จัดเตรียมรถโมบายล์สถานีฐานเคลื่อนที่เร็ว (Cell on Wheels: COW) เพื่อเสริมสัญญาณในจุดวิกฤต
  3. เตรียมยานพาหนะ 4WD และเรือท้องแบนสำหรับเข้าพื้นที่ประสบภัย
  4. จัดทีมซ่อมบำรุงฉุกเฉินและอุปกรณ์สำรองเพื่อให้ระบบสื่อสารทำงานต่อเนื่อง
  5. ประสานงานกับหน่วยงานรัฐและเอกชน เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย
  6. BNIC – ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ พร้อมระบบ AI Network Monitoring ดูแลและบริหารเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง

ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมในการดูแลระบบสื่อสารทั้งมือถือและอินเทอร์เน็ตบ้านให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อสื่อสารและรับข่าวสารสำคัญได้แม้ในยามวิกฤต ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าทำงานร่วมกับ กสทช. และ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกสถานการณ์

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา