Brand Inside เดินทางไปประเทศจีนกับ Trip.com Group เพื่อเข้าร่วมงาน Envision 2025 Global Partner Conference ซึ่งจัดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ งานนี้มีผู้นำและพาร์ทเนอร์ในวงการท่องเที่ยวกว่า 3,000 คนเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อนำเสนอกลยุทธ์การปฏิวัติวงการท่องเที่ยวโลกผ่านนวัตกรรมและการเติบโตที่ยั่งยืน
ประเด็นสำคัญที่ได้จากงานนี้คือ Trip.com กำลังจะบอกว่า “การท่องเที่ยว” ไม่ใช่แค่การเดินทางอีกต่อไป แต่มันคือจุดตัดของ เทคโนโลยี ความยั่งยืน และวัฒนธรรมระดับโลก
- ซึ่งสิ่งที่สำคัญคือ Trip.com พูดชัดว่า แทนที่จะรอให้เทรนด์ของการท่องเที่ยวในอนาคตมาถึง Trip.com ขอเป็นผู้เล่นที่นิยามอนาคตของการท่องเที่ยวเองเลยแล้วกัน
นิยามใหม่ของการท่องเที่ยว Travel = Innovation
การท่องเที่ยวในยุคนี้และในอนาคตจะไม่ใช่แค่ การเดินทางเพื่อประสบการณ์หรือการพักผ่อนเท่านั้น เพราะการท่องเที่ยวก็เป็นนวัตกรรมได้ด้วย
เจมส์ เหลียง ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท Trip.com Group บอกว่า เราได้วางนวัตกรรมเป็นแกนหลักของกลยุทธ์บริษัท โดยเน้นย้ำว่า ‘เทคโนโลยีล้ำสมัย’ และ ‘ผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์’ จะเป็นตัวขับเคลื่อนประสิทธิภาพและยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้
ขณะเดียวกัน โซลูชั่นนวัตกรรมต่างๆ ก็ช่วยเสริมพลังให้กับชุมชนท้องถิ่นและส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืน
ในขณะที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศฟื้นตัวเต็มที่ และคาดว่าจะเติบโตต่อไป เทคโนโลยีและแนวโน้มใหม่ๆ เปิดโอกาสที่ทำจะทำให้การเดินทางดีขึ้น และช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น

เจมส์ เหลียง ยกตัวอย่างความพยายามต่างๆ ของแหล่งท่องเที่ยวทั่วโลกที่นำศิลปะ เทคโนโลยี และวัฒนธรรมมาผสมผสานกันเพื่อสร้างความน่าสนใจใหม่ๆ ให้กับแหล่งท่องเที่ยว
เขาเน้นว่าทางบริษัทมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรทั่วโลกเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและสร้างโอกาสใหม่ๆ เพื่อผลักดันวิสัยทัศน์นี้ให้เป็นจริง จึงได้ประกาศเปิดตัว กองทุนเพื่อนวัตกรรมการท่องเที่ยวมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยว องค์กร และบุคคลต่างๆ เพื่อทำให้ไอเดียที่สร้างสรรสามารถเกิดขึ้นได้จริง
- “การท่องเที่ยวและนวัตกรรมเป็นพลังสำคัญในเศรษฐกิจโลก และเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่มีความหมายและเติมเต็มที่สุดสำหรับมนุษย์“
- “นวัตกรรมกำลังผลักดันวงการท่องเที่ยวไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่การส่งเสริมความยั่งยืนไปจนถึงประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ ผ่านกองทุนนวัตกรรมการท่องเที่ยวใหม่ของเรา เรากำลังสนับสนุนผู้บุกเบิกให้การเดินทางไปได้ไกลกว่าเดิมร่วมกัน และเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับมนุษยชาติ“

การท่องเที่ยวโลกกลับมาแล้ว – Ecosystem เราต้องพร้อม
เจน ซัน ซีอีโอของ Trip.com Group บอกว่า เราจะเห็นได้ว่าเทรนด์การท่องเที่ยวโลกกลับมาแล้ว ตัวเลขที่เห็นได้ชัดเจน คือการท่องเที่ยวโลกที่ฟื้นฟูกลับมาในระดับที่มากกว่า 100% ซึ่งสำคัญมากกับเศรษฐกิจโลก เพราะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวคิดเป็น 10% ของ GDP โลก คิดเป็นมูลค่ากว่า 11 ล้านล้านเหรียญ พร้อมทั้งยังเกิดการจ้างงานมากกว่า 357 ล้านตำแหน่งทั่วโลก
สำหรับ Trip.com Group เราได้รับการสนับสนุนจากความร่วมมือระดับโลกที่แข็งแกร่งและการลงทุนในนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจระหว่างประเทศเติบโตแข็งแกร่งในไตรมาสแรก โดยการจองการท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นกว่า 120% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด ซึ่งสร้างมูลค่าสำคัญให้กับพันธมิตรทั่วโลก
แม้จะพัฒนาไปตามความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลง Trip.com Group ยังคงยึดมั่นในจุดแข็งหลักด้านการดูแลลูกค้าและการช่วยเหลือสังคม ฝ่ายบริการลูกค้าระดับโลกของบริษัทผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับความเชี่ยวชาญของมนุษย์ เพื่อให้ได้อัตราความพึงพอใจระดับโลกเกือบ 90% ขณะที่บริการ Trip.com Group Global Travel SOS ตอบสนองนักท่องเที่ยวในสถานการณ์ฉุกเฉินภายในสองนาที
- “หลังจากตัวเลขสถิติใหม่ การท่องเที่ยวยังคงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ สำหรับผู้บริโภคทั่วโลก และอุตสาหกรรมนี้จะยังคงเติบโตเร็วกว่าเศรษฐกิจโดยรวม“
- “ด้วยโอกาสที่เรามองเห็นนี้ เราจะคงการสร้างนวัตกรรมต่อไป โดยให้ความสำคัญกับคนเป็นอันดับแรกเสมอ และร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อมอบการเดินทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกคน และเพื่อโลกที่ดีกว่า“
Travalyst จับมือ Trip.com Group ผลักดันการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ
หนึ่งในไฮท์ไลท์ของงาน Envision 2025 คือ การปรากฏตัวครั้งแรกของเจ้าชายแฮร์รี่ ดยุคแห่งซัสเซกซ์ ที่ได้ขึ้นเวทีปราศรัยในนามของ Travalyst องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่พระองค์ก่อตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
ในคำปราศรัย เจ้าชายแฮร์รี่เรียกร้องให้ผู้คนในวงการท่องเที่ยวทั่วโลกเร่งลงมือทำ ผนึกกำลังกัน และให้วางเรื่องชุมชนและความยั่งยืนไว้ในใจกลางความสำคัญของธุรกิจท่องเที่ยว
- “ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่วงการท่องเที่ยวทั่วโลกจะตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นพลังแห่งความดี… สิ่งที่จะพิสูจน์ว่าเราจริงจังแค่ไหนคือการรับมือกับความยากลำบาก เราต้องไม่ท้อถอย” พระองค์กล่าว

เจ้าชายแฮร์รี่ยังชี้ให้เห็นว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการท่องเที่ยวยั่งยืนในอนาคต โดยสังเกตว่านักท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ไม่เพียงเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายสูงที่สุดในโลก แต่ยังให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืนเมื่อทำการจองอีกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลการวิจัยของ Trip.com Group
พระองค์ยังกล่าวชื่นชมผลงานและความมุ่งมั่นของ Trip.com Group ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โดยอ้างถึงความร่วมมือตลอดหกปีที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวหลายล้านคนเข้าถึงข้อมูลด้านความยั่งยืนที่เชื่อถือได้ในขณะทำการจอง Trip.com Group ยังคงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากความตระหนักรู้สู่การลงมือทำ ผ่านโครงการต่างๆ เช่น การเพิ่มข้อมูลการปล่อยมลพิษสำหรับเที่ยวบิน การเช่ารถ และรถไฟ การนำเสนอตัวเลือกชดเชยคาร์บอนสำหรับเที่ยวบิน และการส่งเสริมให้โรงแรมได้รับการรับรองด้านความยั่งยืนและใช้แนวปฏิบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ความพยายามเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบของอุตสาหกรรมในการช่วยให้นักท่องเที่ยวเลือกตัวเลือกที่ยั่งยืนได้ง่ายขึ้น
รางวัลนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าด้านการท่องเที่ยว
ต่อยอดจากแรงผลักดันนี้ Trip.com Group ได้เปิดตัวกองทุนนวัตกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นโครงการริเริ่ม (มูลค่าประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่ออกแบบมาเพื่อจุดประกายคลื่นลูกใหม่ของการค้นพบที่สำคัญในวงการท่องเที่ยว กองทุนนี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนนวัตกรรมเชิงพาณิชย์และไอเดียที่ล้ำสมัยซึ่งปรับเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนเดินทาง เชื่อมต่อ และสำรวจโลก โดยมุ่งเน้นที่หลักสำคัญเหล่านี้:
- นวัตกรรมประสบการณ์จุดหมายปลายทาง สนับสนุนโครงการขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบสูง เช่น เทศกาลรูปแบบดิจิทัล และงานอาหารแบบประสบการณ์อิมเมอร์ซีฟ เพื่อส่งเสริมจุดหมายปลายทางที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติและยกระดับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวใหม่ๆ
- รางวัลนวัตกรรมการท่องเที่ยว รางวัลระดับโลกอันทรงเกียรติ พร้อมเงินทุนประมาณ 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเชิดชูบุคคลและองค์กรสำหรับนวัตกรรมที่โดดเด่นในการท่องเที่ยวในด้านความยั่งยืน เทคโนโลยี มรดกทางวัฒนธรรม จุดหมายปลายทางที่สวยงาม และอื่นๆ อีกมากมาย
ด้วยการสนับสนุนโครงการสร้างสรรค์ในทุกระดับ กองทุนนี้จะทำให้ Trip.com Group กลายเป็นฐานที่มั่นสำหรับการเปิดตัวในยุคใหม่ของการท่องเที่ยวระดับโลก
การเชื่อมโยงโลกผ่านการท่องเที่ยว
เพื่อตอกย้ำภารกิจในการทำให้การท่องเที่ยวเข้าถึงง่ายและเชื่อมโยงกันมากขึ้น Trip.com Group ได้ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่กับหน่วยงานการท่องเที่ยวชั้นนำระดับชาติและกลุ่มธุรกิจโรงแรมชั้นนำ ความร่วมมือเหล่านี้รวมถึงองค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวเยอรมนี หน่วยงานวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอาบูดาบี และองค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวนิวซีแลนด์ เป็นต้น
โดยในงานครั้งนี้ คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เข้าร่วมพิธีเปิดตัวความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระดับโลกกับ Trip.com Group เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย การร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวชั้นนำของโลก และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคการท่องเที่ยวไทยในเวทีระหว่างประเทศ ผ่านการเข้าถึงเครือข่ายลูกค้าระดับโลกของ Trip.com Group ที่ครอบคลุมผู้ใช้งานทั่วโลก
ในส่วนของธุรกิจโรงแรม การจับมือกับพันธมิตรใหม่ทั้ง Archipelago International จากอินโดนีเซีย, Seafest Hotel Group (Seafest Sdn Bhd) จากมาเลเซีย และ Centara Hotels & Resorts จากประเทศไทย จะช่วยขยายเครือข่ายที่พักของ Trip.com Group ตลอดเส้นทางการท่องเที่ยวสำคัญในเอเชียและภูมิภาคอื่นๆ
งาน Envision 2025 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เป็นการประกาศเจตจำนงที่จะนำอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเข้าสู่ยุคใหม่ ด้วยผู้นำที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล การลงทุนที่กล้าหาญ และการมุ่งเน้นอย่างจริงจังในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน Trip.com Group ไม่เพียงแค่ปรับตัวเข้ากับอนาคตของการท่องเที่ยว แต่กำลังมุ่งมั่นสร้างสรรค์อนาคตนั้นอย่างแข็งแกร่ง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา