กรุงเทพฯ ครองแชมป์ จุดหมายยอดฮิตช่วงสงกรานต์ ปีนี้ ‘ชุมพร’ มาแรง ยอดค้นหาใน Traveloka พุ่ง 95%

ข้อมูลจาก ทราเวลโลก้า (Traveloka) เปิดเผยจุดหมายปลายทางยอดฮิตในช่วงสงกรานต์ปี 2568 โดยกรุงเทพมหานครยังครองแชมป์อันดับ 1 จุดหมายปลายทางที่มีการเสิร์ชและจองมากที่สุด ด้วยการเป็นศูนย์กลางการเฉลิมฉลองที่จัดหนักจัดเต็ม มีแหล่งเล่นน้ำสงกรานต์ยอดฮิตอย่างสีลม สยามสแควร์ ถนนข้าวสาร อีกทั้งยังมีเทศกาลดนตรีและที่เที่ยวที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ

จังหวัดหัวเมืองใหญ่ของแต่ละภูมิภาคก็เป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมเช่นกัน

  • เชียงใหม่ ที่ปีนี้มีเทศกาลดนตรี Water War Chiang Mai ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 13 เมษายน ณ ลานม่วนใจ๋ เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต หรือใครที่ไม่ใช่สายปาร์ตี้สาดน้ำ ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับเสน่ห์ของวัฒนธรรมล้านนาได้
  • ชลบุรี นอกจากสงกรานต์ ที่ จ.ชลบุรี ยังมีงานประเพณีวันไหล ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6–20 เมษายน สนุกไปกับช่วงเทศกาลกันได้แบบยาวๆ
  • ภูเก็ต สายปาร์ตี้ต้องชอบ เพราะภูเก็ตจัดเต็มเล่นน้ำช่วงกลางวันที่หาดป่าตอง หาดกะตะ และหาดกะรน พร้อมทั้งปาร์ตี้ตลอดคืนที่ถนนบางลา หรือหากต้องการทำบุญ วัดมงคลนิมิตในเมืองเก่าภูเก็ต ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ
  • หาดใหญ่ เล่นน้ำให้สุดเหวี่ยงที่เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่และลีการ์เด้นส์ พลาซ่า พร้อมชมขบวนพาเหรด และการแสดงดนตรีที่จะจัดขึ้นในช่วงสงกรานต์

ที่น่าสนใจกว่านั้น นอกจากกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่แล้ว ยังพบว่านักท่องเที่ยวในปีนี้หันมาสนใจจุดหมายปลายทางใหม่ๆ กันมากขึ้น โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่ยังไม่แออัดนัก มีกลิ่นอายของสงกรานต์แบบโลคอล เปิดประสบการณ์ที่แปลกใหม่ของท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ตลอดจนการพักผ่อนที่เงียบสงบ

โดยในช่วงสงกรานต์ 2568 นี้ จังหวัดที่กำลังมาแรงคือ จ.ชุมพร มียอดเสิร์ชเพิ่มขึ้นถึง 95% รองลงมาได้แก่ จ.นครพนม เพิ่มขึ้น 68% จ.สกลนคร เพิ่มขึ้น 53% จ.เลย เพิ่มขึ้น 46% และ จ.น่าน เพิ่มขึ้น 40%

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่า เทศกาลสงกรานต์ปี 2568 จะสร้างรายได้สะพัดกว่า 26,564 ล้านบาท โดยมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 476,000 คน และการท่องเที่ยวภายในประเทศจำนวนกว่า 4,418,500 คน-ครั้ง โดยรายได้แบ่งเป็น 7,324 ล้านบาทจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ 19,240 ล้านบาทจากนักท่องเที่ยวไทย ซึ่งเพิ่มขึ้น 7% และ 9% ตามลำดับเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา