ทำไม Trade war ทำให้เงินบาทกลายเป็น Safe Haven เหมือนเงินเยน

Safe haven หรือทรัพย์สินปลอดภัย ความผันผวนต่ำ มีหลายอย่างตั้งแต่ ทองคำ ไปจนถึงสกุลเงิน เช่น ค่าเงินเยน แต่ตอนนี้นักลงทุนต่างชาติมองว่าค่าเงินบาทเป็น Safe haven เพราะอะไร และจะเป็นอีกนานไหม?

ภาพจาก Shutterstock

Trade war กดดันค่าเงิน USD อ่อนค่าดึงเงินเยน-บาทแข็งค่าขึ้น

แม้ว่าประเทศไทยจะมีความเสี่ยงหลายอย่างทั้งการเมือง เศรษฐกิจที่อาจจะเติบโตชะลอตัวลง แต่เมื่อทุนสำรองระหว่างประเทศยังสูงเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มเดียวกัน และปัจจัยพื้นฐานของไทยยังเติบโตได้ในระยะยาว

ขณะเดียวกันข้อมูลจากธนาคารกรุงไทยบอกว่า ค่าเงินบาทยังขยับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยวันที่ 7 พ.ค. 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดระดับ 31.93 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากวันศุกร์ (3 พ.ค.) ที่ระดับ 32.03 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุเพราะคืนที่ผ่านมาตลาดเงินทั่วโลกอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) จากความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

หลังจากที่โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ระบุว่าจะมีการขึ้นภาษีกับจีนในวันที่ 10 พ.ค.นี้ส่งผลให้หุ้นสหรัฐปรับตัวลง ขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงมาที่ระดับ 2.46% และนักลงทุนเลือกเยนญี่ปุ่นเป็นสกุลเงินปลอดภัย ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง

อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทยังแข็งค่าพร้อมๆ กับค่าเงินเยน แสดงว่านักลงทุนอาจเลือกใช้เงินบาทเพื่อหลบความเสี่ยงจากสงครามการค้า ในระยะสั้นจึงจะเห็นค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น (แต่มีความเสี่ยงค่าเงินบาทผันผวนเพราะหากสถานการณ์ต่างประเทศดีขึ้นนักลงทุนอาจเทขายทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็วกระทบต่อส่วนอื่น)

ห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทยมองว่าค่าเงินบาทระหว่างวันจะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบค่าเงินบาทวันนี้ 31.87- 31.97 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวระหว่าง 31.80-32.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ต้องจับตามองปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาทได้แก่ 1. การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพุธ (8 พ.ค.) เราคาดว่ากนง.จะมีมติ “คง” อัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.75% เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศเริ่มชะลอตัวลง และยังคงมีความเสี่ยงด้านการเมือง ขณะที่เศรษฐกิจต่างประเทศก็มีความไม่แน่นอนจากสงครามการค้า ปัจจัยทั้งหมดรวมถึงทิศทางนโยบายการเงิน ถือว่าไม่ได้ส่งผลบวกกับเงินบาทในระยะสั้น

2. การเจรจาการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศ (จีน-สหรัฐฯ) อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสหรัฐและจีนจะหาข้อตกลงการค้ากันได้ในสัปดาห์นี้ แต่นักลงทุนในตลาดการเงินอาจไม่รีบกลับเข้าถือสินทรัพย์เสี่ยงเพราะยังเห็นความผันผวนยังเพิ่มขึ้นโดยรวมคาดว่านักลงทุนจะเลือกถือสินทรัพย์ปลอดภัย และพยายามหลีกเลี่ยงการลงทุนในสหรัฐหรือจีนในช่วงนี้

สรุป

ค่าเงินหลักของโลกอย่างดอลลาร์สหรัฐมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้นเมื่อดอลลาร์สหรัฐอ่อน หรือแข็งค่าย่อมส่งผลกระทบต่อคู่ค้าของไทย และส่งผลกระทบทางอ้อมมาที่ประเทศไทยเสมอ แต่นักธุรกิจที่ต้องทำธุรกิจกับต่างชาติจึงควรทำประกันความเสี่ยง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนและรักษาให้ธุรกิจมีกำไรและสภาพคล่องอย่างต่อเนื่อง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา