Trade War หรือ สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่บานปลายมาหลายเดือนเป็นเรื่องหลักที่ทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะทาง Trump ใช้มาตรการทางภาษีกับการนำเข้าสินค้าจีนเพื่อรักษาฐานเสียงทางการเมือง ด้านจีนก็ใช้นโยบายตาต่อตาฟันต่อฟัน เมื่อสหรัฐขึ้นภาษีเท่าไร จีนก็ปรับภาษีเช่นกัน
แต่สถานการณ์ล่าสุด Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่จีนว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนอีกกว่า 2.67 แสนล้านเหรียญสหรัฐ แค่นี้ทั่วโลกก็หวั่นไหวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสถานการณ์โลกแล้วส่วนของตลาดหุ้นไทยล่ะจะเป็นอย่างไร
SCBS ชี้ Trump ขู่ขึ้นภาษีจีนกระทบตลาดหุ้นไทยน้อย
บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS) บอกว่า ปัจจัยหลักๆ ที่กดดันตลาดหุ้นทั่วโลก ได้แก่ 1. Trump ประกาศขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มเติม และ 2. ตลาดจับตามองการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพราะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนจากเศรษฐกิจในประเทศทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น
และจาก 2 ปัจจัยที่ว่า ส่งผลให้ช่วงเช้าวันที่ 10 ก.ย. ตลาดหุ้นเอเชียกดดันแต่ปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย ในส่วนของประเทศไทยถือว่าไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีน้ีเยอะนัก โดย SCBS มองว่าดัชนีแนวรับจะอยู่ที่ 1,670-1,680 จุด ส่วนแนวการฟื้นตัวอยู่ที่ 1,700-1,714 จุด
ลงทุนต้องระวัง แนะซื้อหุ้นกลุ่ม Laggard
SCBC แนะนำว่าการลงทุนเพื่อเก็งกำไรในช่วงนี้ยังต้องระมัดระวังมาก เพราะมีปัจจัยทั้งจากในและนอกประเทศ แต่กลุ่มที่น่าสนใจลงทุนได้แก่
- หุ้นกลุ่ม Laggard (หุ้นกลุ่มที่ราคายังไม่ปรับตัวขึ้น) ได้แก่ PTTGC-บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)
- เก็งกำไรหุ้นตามสัญญาณเทคนิค ได้แก่ CHG-บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) และ CPF-บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)
- ส่วนหุ้นประจำเดือน ก.ย. ได้แก่
AMATA-บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ,CPF, GFPT-บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน), PLANB-บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน), WHA-บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ( มหาชน)
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา