หลัง Honda ประกาศจับมือ GM เพื่อเดินหน้ารถยนต์ไร้คนขับ พี่ใหญ่ในวงการยานยนต์ญี่ปุ่นอย่าง Toyota ก็คงยอมไม่ได้ เพราะล่าสุดได้ประกาศ Joint Venture กับ Softbank เพื่อเดินหน้าบริการรถยนต์ไร้คนขับเช่นกัน
เปิดเกมรถยนต์ไร้คนขับที่มาแน่ๆ
ทิศทางตลาดรถยนต์ในอนาคตของของ Toyota นั้นประกอบด้วย Connected Car (รถยนต์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้), Autonomous Vehicle (รถยนต์ไร้คนขับ), Car-Sharing (บริการร่วมเดินทาง) และ Electric Vehicle (รถยนต์ไฟฟ้า) ทำให้บริษัทต้องทยอยปรับตัวเพื่อล้อไปกับมุมมองดังกล่าว
แต่ใช่ว่า Toyota จะทำเองได้ทั้งหมด เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนอาศัยความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และจะดีกว่าหรือไม่ถ้าได้เพื่อนร่วมชาติที่เชี่ยวชาญมาจับมือเดินหน้าไปด้วยกัน จึงเป็นที่มาของ Monet Technologies กิจการร่วมค้าระหว่าง Toyota กับ Softbank ภายใต้เงินทุนเริ่มต้นกว่า 2,000 ล้านเยน (ราว 575 ล้านบาท)
โดยกิจการร่วมทุนตัวทาง Softbank จะถือหุ้นหลัก หรือ 50.25% ส่วนที่เหลือจะเป็นของ Toyota และเป้าหมายของกิจการร่วมทุนนี้ก็คือการยกระดับบริการรถยนต์ไร้คนขับขึ้นไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นการเสิร์ฟอาหารภายในรถยนต์ หรือการปรับรถยนต์ไร้คนขับให้เป็นสำนักงานเคลื่อนที่
ผ่านการส่งข้อมูลจากรถยนต์ Connected Car ของ Toyota ไปประมวลผลที่ระบบหลังบ้านของ Softbank เพื่อวิเคราะห์ และสั่งการต่างๆ โดยเทคโนโลยีนี้จะนำไปประยุกต์ใช้ใน e-Palette รถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับของ Toyota ที่พัฒนามาเพื่อใช้รับส่งนักท่องเที่ยว และผู้สนใจระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวปี 2563 ด้วย
อย่างไรก็ตาม Monet Technologies จะเน้นทำตลาดในประเทศญี่ปุ่นก่อน โดยแผนธุรกิจระยะแรกจะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนมี.ค. 2562 ส่วนแผนระยะที่สองจะเริ่มต้นในช่วงปี 2568 ซึ่งอาจมีการขยายไปทำตลาดในต่างประเทศก็เป็นได้ นอกจากนี้ตัวกิจการร่วมค้าอาจเพิ่มเงินลงทุนอีก 10,000 ล้านเยน (ราว 2,800 ล้านบาท) ด้วย
สรุป
เทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับนั้นเป็นที่สนใจของค่ายรถยนต์ต่างๆ ทั้งสิ้น เพราะมันคืออนาคต และการไม่ลงทุนเทคโนโลยีนี้ ก็อาจตกขบวนในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนไปได้ จึงเชื่อว่าอนาคตจะมีค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นที่เน้นลงทุนในเทคโนโลยีใหม่มากขึ้น และไม่ล้าหลังอีกต่อไป
อ้างอิง // Japan Today, CNET, ภาพ Toyota
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา