รถยนต์ไฟฟ้าเดี๋ยวว่ากัน! Toyota ลงทุนใน Uber กว่า 16,000 ล้านบาท หวังร่วมพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ

เมื่อเดือนมิ.ย. Toyota ได้ลงทุนในบริการร่วมเดินทางอย่าง Grab กว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 32,000 ล้านบาท) ล่าสุดทางค่ายก็ประกาศลงทุนใน Uber อีก 500 ล้านดอลลาร์ (ราว 16,000 ล้านบาท) อีก

Toyota ที่กำลังให้บริการ Uber อยู่ // รุปจาก Flickr ของ Jason Lawrence

ลงทุนในบริการร่วมเดินทางต่อยอดรถยนต์ไร้คนขับ

เรียกว่าเป็นการลงทุนในบริการร่วมเดินทางอย่างต่อเนื่องของ Toyota หลังบริษัทเริ่มมองเห็นโอกาสในการผลักดันธุรกิจนี้ให้เติบโต แต่ใช่ว่าผู้ผลิตรถยนต์เบอร์หนึ่งของญี่ปุ่นรายนี้จะลงมาลุยเอง เพราะใช้วิธีลงทุนในยักษ์ใหญ่บริการร่วมเดินทางทั่วโลกแทน ก่อนหน้านี้คือ Grab และล่าสุดคือ Uber

นอกจากนี้การลงทุนในบริการร่วมเดินทางของ Toyota ยังบ่งบอกถึงการเดินหน้ารถยนต์ไร้คนขับอย่างเต็มรูปแบบด้วย เพราะทางค่ายมีการตั้งฝ่ายพัฒนาบริการ Autono-MaaS (Autonomous Mobility as a Service) หรือบริการร่วมเดินทางผ่านรถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งทำคนเดียวก็คงไม่ได้แน่นอน

โดยการลงทุนใน Uber นั้น Toyota มีการทำสัญญากับคู่ค้าทางธุรกิจเพื่อร่วมกันพัฒนาระบบรถยนต์ไร้คนขับในรถยนต์แบบ Minivan ของทางค่ายในรุ่น Sienna และคาดว่าจะเริ่มทดสอบได้จริงภายในปี 2564 ซึ่งทางค่ายก็มีการร่วมกันพัฒนาในลักษณะเดียวกันนี้กับ Grab ด้วย

ในทางกลับกันการลงทุนของ Toyota ก็ทำให้ Uber เพิ่มมูลค่ากิจการเป็น 72,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.34 ล้านล้านบาท) จากเมื่อจบไตรมาสแรกอยู่ที่ 62,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2 ล้านล้านบาท) ส่วนเรื่องเกี่ยวกับการเงินในไตรมาสล่าสุดของ Uber ปิดที่ขาดทุน 659 ดอลลาร์ (21,000 ล้านบาท) มากกว่าไตรมาสก่อนเสียอีก

สรุป

การลงทุนของ Toyota นั้นแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในเรื่องรถยนต์ไรัคนขับจริงๆ เพราะหากต้องการสร้างบริการ Autono-MaaS ขึ้นมาจริงๆ ก็น่าจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ของบริษัทได้เลย แต่ทั้งนี้ก็ไม่อยากให้ Toyota ลืมเรื่องการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นจริงด้วย เพราะกระแสโลกกำลังมาทางนี้อย่างเต็มตัว

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา