หลังตั้งเป้าจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเป็นครึ่งหนึ่งของยอดขายภายในปี 2573 หรือประมาณ 5.5 ล้านคันเมื่อปี 2560 Toyota ก็เร่งเต็มที่กับเรื่องนี้ โดยล่าสุดเตรียมลงทุน 60,000 ล้านบาท เพื่อผลิตรถยนต์ Hybrid ในอินโดนีเซีย
2.1 แสนล้านเยน กับเป้าหมายสำคัญ
แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมยานยนต์เล่าให้ฟังว่า ทาง Toyota มีแผนลงทุนกว่า 2.1 แสนล้านเยน (ราว 60,000 ล้านบาท) ตั้งแต่ตอนนี้ถึงปี 2566 เพื่อตั้งฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Hybrid ในประเทศอินโดนีเซีย ถือเป็นหนึ่งในแผนเตรียมความพร้อมของความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจะถาโถมเข้ามาในอนาคต
นอกจากนี้ Akio Toyoda ประธานของ Toyota ยังเข้าไปหารือกับทางการของอินโดนีเซียเมื่อช่วงกลางเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมาด้วย ในทางกลับกันเหตุที่เลือกอินโดนีเซียก็น่าจะมาจากเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมื่อปี 2561 ทาง Toyota ก็ผลิตรถยนต์ในอินโดนีเซียถึง 2 แสนคัน
สำหรับเป้าหมายเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota ก็มีทั้งการตั้งเป้าจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษออกมาน้อยราว 5.5 ล้านคันภายในปี 2568 และหากนับเป็นเป้าระยะยาวเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า ทั้ง Hybrid, Plug-in Hybrid, Battery และ Fuel-Cell ก็มีการตั้งเป้าที่ 5.5 ล้านคันภายในปี 2573
ส่วนในประเทศไทยนั้นปัจจุบันก็เป็นอีกฐานผลิตรถยนต์หลักของ Toyota และเมื่อปี 2561 ก็ผลิตได้รวมกว่า 10 ล้านคันแล้ว โดยปี 2561 ทางโรงงานในประเทศไทยก็ผลิตรถยนต์กว่า 5.7 แสนคัน และมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เพื่อให้การทำตลาดในประเทศ และส่งออกได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
สรุป
อาจเพราะอินโดนีเซียเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ การเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์เครื่องสันดาปภายใน เป็นเครื่องยนต์ไฟฟ้าถ้าเกิดขึ้นจริงก็น่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้มาก และเชื่อว่าตัวโรงงานนั้นจะสามารถรปรับแต่งเพื่อใช้งานผลิตเครื่องยนต์ไฟฟ้าเต็มระบบได้ด้วย ดังนั้นคงต้องจับตาให้ดีเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ Toyota ครั้งนี้
อ้างอิง // Japan Today, Toyota
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา