Toyota ลั่น 90% ของยอดขายในกลุ่มประเทศยุโรปต้องมาจากรถยนต์ไฟฟ้าแบบต่างๆ ภายในปี 2568

ความเข้มงวดเรื่องมลพิษในกลุ่มประเทศยุโรป ทำให้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ จริงจังกับการพัฒนา และขายรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ Toyota ที่ตั้งเป้ามียอดขาย 90% มาจากรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2568 ที่กลุ่มยุโรป

Toyota Prius
Toyota Prius

เปิดตัวรุ่นใหม่ และนำรุ่นเดิมมาใส่ไฟฟ้า

หลายประเทศในพื้นที่ยุโรปเริ่มส่งนโยบายควบคุมมลพิษ และหนึ่งในนั้นคือการห้ามจำหน่ายรถยนต์เครื่องดีเซล หรือห้ามใช้รถเครื่องยนต์สันดาปภายใน เมื่อเป็นอย่างนี้ Toyota ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ก็คงอยู่เฉยไม่ได้ และเร่งพัฒนา พร้อมจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มยุโรปไปอีกขั้นหนึ่ง

เบื้องต้น Toyota คาดว่าจะเพิ่มยอดขายในกลุ่มยุโรป 30% จากปี 2562 อยู่ที่ 1.09 ล้านคัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 5.2% มาจากรถยนต์ไฟฟ้าแบบต่างๆ 50% และรถยนต์เครื่องสันดาปภายใน 50% เป็น 1.4 ล้านคัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 6.5% ในปี 2568 มาจากรถยนต์ไฟฟ้าแบบต่างๆ 90% และที่เหลือเป็นรถยนต์เครื่องสันดาปภายใน

สำหรับสัดส่วน 90% นั้นแบ่งได้เป็น รถยนต์ไฟฟ้าแบบ Hybrid 70% รองลงมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Plug-in Hybrid 10% และรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (ฺBattery Electric Vehicle: BEV) กับรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Fuel Cell รวมกัน 10% ส่วนรถยนต์เครื่องสันดาปภายในจะมีให้เลือกในรถสปอร์ต, รถออฟโร้ด และรถเพื่อการพาณิชย์

ทั้งนี้หากเจาะไปที่การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ และนำรุ่นเดิมมาปรับปรุงให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าจะมีถึง 40 รุ่นด้วยกัน และในแต่ละปีจากนี้จะมีรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Plug-in Hybrid เปิดตัวอย่างน้อย 1 รุ่น/ปี ส่วนรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่เปิดตัวที่มีข่าวบ้างแล้วคือ Toyota RAV4, Toyota Mirai และ Lexus UX

สรุป

ไม่รู้ว่าช้าเกินไปหรือไม่ในการส่งแผนนี้ออกมาของ Toyota เพราะย้อนไป 1-2 ปี ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ในกลุ่มยุโรปก็เริ่มเดินหน้าแผนในลักษณะนี้แล้ว แต่เมื่อ Toyota ประกาศแผนภาพรวมที่ต้องจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบบต่างๆ ทั่วโลกได้ 5 แสนคันภายในปี 2568 การเดินหน้ากลยุทธ์นี้ในกลุ่มยุโรปก็จำเป็นยิ่งขึ้น

อ้างอิง // Inside EV

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา