CASE หรือ Connected, Autonomous, Shared และ Electric Vehicle คือสิ่งที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต้องไป แต่การจะไปถึงได้นั้นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ซึ่ง Toyota ก็กำลังปรับโครงสร้างเงินเดือนเพื่อรักษาคนกลุ่มนี้ไว้
ปรับโครงสร้างค่าตอบแทนใหม่ทั้งหมดเพื่อจูงใจ
ปัจจุบัน Toyota ค่อนข้างประสบปัญหาเรื่องผู้เชี่ยวชาญด้าน IT เพราะบุคลากรกลุ่มนี้ที่อายุระหว่าง 20-40 ปีทยอยย้ายออกไปทำงานอื่น อาจเพราะเรื่องโครงสร้างค่าตอบแทนที่จูงใจกว่า ประกอบกับการอยู่ใน Toyota ที่ใช้วัฒนธรรมองค์กรแบบญี่ปุ่นทำให้พวกเขาได้รับการปรับเงินเดือนในอัตราเดียวกับพนักงานคนอื่นในบริษัท
Masayoshi Shirayanagi ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของ Toyota ยอมรับว่า การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ของอุตสาหกรรมรถยนต์ ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไร้คนขับต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT จำนวนมาก แต่พอบุคลากรลดลง การไปยังเป้าหมายที่ตั้งไว้ก็ลำบาก
“ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญ IT เป็นที่ต้องการทั้งค่ายผู้ผลิตรถยนต์ด้วยกันเอง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ด้วย ยิ่ง Toyota มีการลงทุนมากกว่า 1 แสนล้านเยน/ปี (ราว 28,300 ล้านบาท) กับเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ และ Connected Car หากไม่มีบุคลากรกลุ่มนี้เพียงพอ มันก็ยากที่จะเดินหน้าในเรื่องนี้”
นั่นทำให้ Toyota กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มค่าตอบแทนให้กับเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ในบริษัท เพื่อรักษาพวกเขาไว้ให้ได้นานที่สุด รวมถึงทำให้เป้าหมายการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคตสำเร็จได้ หรือเรียกว่าถึง Toyota จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่คนในญี่ปุ่นอยากทำงานมากที่สุด แต่หากผลตอบแทนไม่ดี พวกเขาก็พร้อมจะย้าย
ทั้งนี้ Toyota มีการลงทุนวิจัย และพัฒนา (R&D) รวมกว่า 1.08 ล้านล้านเยน (ราว 3.05 แสนล้านบาท) ในปีงบประมาณล่าสุด มากกว่า 20% เมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อน และเพิ่มพนักงานที่ทำงานเกี่ยวกับ CASE อีก 10% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้ Toyota มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้านยานยนต์ใกล้เคียงกับบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ
สรุป
การแย่งชิงตัวผู้เชี่ยวชาญด้าน IT นั้นแข่งขันกันสูงมาก ประกอบกับคนที่เก่งเรื่องนี้จริงๆ ก็คาด จึงไม่แปลกที่ทุกองค์กรต้องพยายามรั้งตัวบุคลากรกลุ่มนี้ไว้ให้ได้มากที่สุด ยิ่งตอนนี้ค่ายรถยนต์ไม่ได้สามารถผลิตรถยนต์ออกมาเพื่อขายทำกำไรได้อีกต่อไป เพราะต้องสร้างนวัตกรรมใหม่ออกมาหายรายได้เพิ่ม มันก็ยิ่งท้าทายพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง
อ้างอิง // Asian Nikkei Review
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา