ในยุคที่ บ้าน ไม่ได้เป็นแค่ที่อยู่อาศัย เพราะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ วิถีชีวิต และคุณภาพความเป็นอยู่ของเจ้าของ เหตุนี้เอง TOSTEM หนึ่งในแบรนด์วัสดุก่อสร้างชั้นนำจากญี่ปุ่น ที่โดดเด่นเรื่องประตู, หน้าต่าง, ประตูหน้าบ้าน และผลิตภัณฑ์นอกตัวบ้าน จึงพลิกแนวคิดธุรกิจเพื่อรับกับเทรนด์ดังกล่าว
นั่นคือที่มาของแคมเปญใหม่ Connecting Spaces of Living ที่สื่อสารเรื่องการใช้ชีวิตผ่านการออกแบบที่ไร้รอยต่อ โดยประตู และหน้าต่างสามารถเชื่องโยงพื้นที่ภายในบ้านแบบไม่มีรอยต่อ และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างลื่นไหลในจุดต่าง ๆ ของบ้านได้จริง
การจะไปถึงจุดนั้นได้ TOSTEM ต้องเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ควบคู่กับการทำ Touchpoint สำคัญนั่นคือการร่วมงาน สถาปนิก’68 เพื่อให้ผู้สนใจสามารถจับต้อง และรับรู้ถึงความไร้รอยต่อได้จริง ส่วนรายละเอียดเชิงลึกของทั้งหมดจะเป็นอย่างไร Brand Inside ได้หาคำตอบมาให้แล้วดังนี้
สร้างการรับรู้ใหม่ผ่านแคมเปญ Connecting Spaces of Living
เริ่มต้นกันที่แคมเปญ Connecting Spaces of Living กันก่อน ชื่อแคมเปญสะท้อนวิสัยทัศน์ของแบรนด์ TOSTEM ในการสร้างโลกที่อยู่อาศัยที่มีความกลมกลืนในทุกมิติ ทั้งการใช้งาน ความรู้สึก และความยั่งยืน ผ่านการสร้างพื้นที่ที่เชื่อมต่อกันได้ทั้งในมิติของการใช้งาน ดีไซน์ และอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งไม่ใช่แค่หน้าต่าง หรือประตู แต่เป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย มันน่าจะดีกว่าถ้าสิ่งเหล่านั้นสามารถปรับเปลี่ยน และไม่เป็นประตู กับหน้าต่างแบบดั้งเดิม และตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ที่ผู้บริโภคชื่นชอบความยืดหยุด และทำบ้านไม่ได้เป็นแค่ที่พักอาศัย
วิชา วรสายัณห์ ลีดเดอร์ กลุ่มธุรกิจเฮาส์ซิ่งเทคโนโลยี บริษัท แอล เอช ที เอเซีย เซลส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมแบรนด์ ทอสเท็ม (TOSTEM) ภายใต้บริษัท ลิกซิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (LIXIL) เล่าให้ฟังว่า บริษัทต้องการสร้างพื้นที่ที่เชื่อมต่อกันได้ทั้งในมิติของการใช้งาน ดีไซน์ และอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งไม่ใช่แค่หน้าต่าง หรือประตู แต่เป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย และการเป็นบ้านที่มากกว่าบ้านอย่างแท้จริง
และเพื่อทำให้พื้นที่ในบ้านมีความไร้รอยต่ออย่างแท้จริง TOSTEM มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้กลุ่ม TOSTEM’s New Interior Series ที่ประกอบด้วย 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์คือ
- New Hanging Door: ประตูแขวนบานเลื่อนที่ดีไซน์ทันสมัย เรียบหรู ซ่อนฮาร์ดแวร์ทั้งหมดให้เกิดความเรียบร้อย ใช้งานได้ยืดหยุ่นกับทุกพื้นที่
- New Swing Door: ประตูบานสวิงดีไซน์มินิมอล ซ่อนบานพับเพื่อภาพลักษณ์ที่เรียบสะอาดตา เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความเนี้ยบทุกมุมมอง
- New Fixed Divider: ฉากกั้นพื้นที่ที่ตอบโจทย์ความโปร่งโล่ง พร้อมความยืดหยุ่นในการจัดสรรพื้นที่ภายใน
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดคือการ ซ่อน รายละเอียดฮาร์ดแวร์ สกรู และองค์ประกอบเชิงกลภายในโครงสร้าง ช่วยยกระดับความงาม และความกลมกลืนระหว่างพื้นที่
บูธ TOSTEM – สถาปัตยกรรมของประสบการณ์ไร้รอยต่อ
เพื่อให้เจ้าของบ้าน, สถาปนิก และผู้สนใจสามารถเข้าใจถึงแคมเปญ และผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ของ TOSTEM ได้มากขึ้น TOSTEM มีการสร้างบูธ TOSTEM ที่ตั้งอยู่ในงาน สถาปนิก’68 ที่ออกแบบโดย ภากร มหพันธ์ จาก M SPACE หนึ่งในสถาปนิกชั้นนำของไทย และได้แรงบันดาลใจจากห้องญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม หรือ Tatami Room เพื่อนำโครงสร้างบานเลื่อนมาเชื่อต่อพื้นที่ต่าง ๆ ภายในบูธ TOSTEM ได้อย่างไร้รอยต่อเช่นกัน
หากเจาะลึกไปที่บูธ TOSTEM จะพบว่า ด้านบนของของบูธจะประกอบผนังกั้นห้องแต่ละแผ่นที่ค่อย ๆ เปลี่ยนจากหลังคาทรงจั่วไปเป็นผนังได้อย่างกลมกลืน ส่งต่อเป็นพื้นที่อย่างต่อเนื่อง คล้ายประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ไหลเวียน ไม่หยุดนิ่ง และปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ ยกระดับการรับรู้เรื่องการใช้ชีวิตอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งปกติแล้วห้องแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมจะมีบานประตูจำนวนมากมากั้นไว้ แต่น่าจะดีกว่าถ้านำบานเหล่านั้นไปอยู่ด้านบน และสร้างมิติใหม่ในการออกแบบ
“เราอยากทำพื้นที่ให้เห็นถึงการเคลื่อนผ่าน และผู้เข้าชมได้เห็นภาพรวมของบูธ TOSTEM เป็นเส้นโค้ง และเป็นสถานที่ที่มีความไหลลื่นอยู่ภายใน” ภากร มหพันธ์ จาก M SPACE กล่าว โดยบูธ TOSTEM มีอีกจุดเด่นที่น่าสนใจคือ ทุกชิ้นส่วนสามารถถอดประกอบได้ใหม่ จึงติดตั้ง และขนย้ายได้ง่าย ที่สำคัญสามารถนำบูธ TOSTEM ไปใช้งานได้ใหม่ในงาน หรือสถานที่ต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ของแคมเปญนี้ในระยะยาว
มากกว่านวัตกรรมคือเรื่องความยั่งยืน
อย่างที่แจ้งไปข้างต้นว่าบูธ TOSTEM สามารถติดตั้ง และนำไปใช้ใหม่ได้ง่าย ช่วยสร้างความยั่งยืนในการทำบูธ แต่มากกว่านั้น ผลิตภัณฑ์ของ TOSTEM ยังเต็มไปด้วยความยั่งยืนเช่นกัน เพราะปัจจุบัน TOSTEM มีการนำอะลูมิเนียม หรือวัสดุหลักในการทำบานประตู และหน้าต่าง มารีไซเคิล เพื่ออนุรักษ์แร่บอกไซต์ หรือแร่หลักในการนำมาผลิตอะลูมิเนียม โดยเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นก่อน และหลังจากนั้นมีการนำมาปรับใช้ที่โรงงานที่ในประเทศไทย
ทำให้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของ TOSTEM ทำมาจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ตอบโจทย์ทิศทางผู้บริโภคยุคใหม่ รวมถึงองค์กรต่าง ๆ ที่ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และยินดีที่จะใช้จ่ายมากกว่าเดิมเพื่อได้สิ่งที่มีคุณภาพสูง และรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมายหลักของ TOSTEM ที่เน้นจับกลุ่มลูกค้า Upper Mass – Luxury Segment จนเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ TOSTEM จะมียอดขายเติบโต 20% ที่ประเทศไทยในปี 2025
แต่เพื่อเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายสินค้าให้มากขึ้น TOSTEM มีการทำแคมเปญส่งเสริมการตลาด เช่น
- ฟรีค่าธรรมเนียมรูดบัตรเครดิต สำหรับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ในงาน
- Early Bird รับบัตรกำนัล 4,000 บาท สำหรับลูกค้ากลุ่มแรกที่มียอดซื้อ 50,000 บาทขึ้นไป
- Friend to Friend แนะนำเพื่อน รับเพิ่มทั้งคู่ คนแนะนำและผู้ถูกแนะนำจะได้รับบัตรกำนัลมูลค่า 4,000 บาท
ทั้งยังเดินหน้าขยาย TOSTEM Studio ซึ่งเป็นโชว์รูมที่บริหารโดยตัวแทนจำหน่ายในหัวเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต และอื่น ๆ โดยตั้งเป้าขยายให้ครบ 20 สาขาภายในปี 2025 เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้บริโภคหลากหลายพื้นที่ได้รับรู้ถึงประสบการณ์ใช้งานสินค้าของ TOSTEM
Brand Inside มองว่า แคมเปญ Connecting Spaces of Living ไม่เพียงสื่อสารผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่สะท้อนวิสัยทัศน์ของแบรนด์ TOSTEM ในการสร้างโลกที่อยู่อาศัยที่มีความกลมกลืนในทุกมิติ ทั้งการใช้งาน ความรู้สึก และความยั่งยืน และหากคุณคือผู้ที่มองหานวัตกรรมด้านการอยู่อาศัยที่ก้าวล้ำ พร้อมตอบโจทย์การออกแบบที่กลมกลืน และยืดหยุ่น New Interior Series ของ TOSTEM คือคำตอบที่ไม่ควรพลาด
โดยเฉพาะผู้ที่มีแผนไปที่งาน สถาปนิก’68 หรือสนใจเรื่องการออกแบบ และการตกแต่งบ้าน สามารถไปเยี่ยมชมบูธ TOSTEM ได้ระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2568 โดยบูธจะตั้งอยู่ที่ D103 ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1 ทางเข้า 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา