ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ หนี้ครัวเรือนที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองยังไม่นิ่ง ทำให้ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าครึ่งแรกของปี 2023 ยังมีปัญหา
Toshiba ประเทศไทย มองว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เติบโต 14% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 มาจากยอดขายเครื่องปรับอากาศจำนวนมากในช่วงฤดูร้อน แต่ถ้าตัดสินค้านี้ไปตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะติดลบ 1% ทันที
แบรนด์ต่าง ๆ ที่แข่งขันในสภาพตลาดที่หดตัวใช้กลยุทธ์ใดบ้าง และ Toshiba ที่แทบไม่มีส่วนแบ่งในตลาดเครื่องปรับอากาศจะปรับตัวอย่างไร อเล็กซ์ มา รองประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ได้อธิบายไว้ดังนี้
ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า 45,000 ล้านบาท ที่ยังยาก
อเล็กซ์ มา รองประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยครึ่งแรกของปี 2023 ที่ประกอบด้วย Major Appaliance (เครื่องปรับอากาศ, ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า) กับ Small Appliance (เครื่องทำน้ำอุ่น, หม้อหุงข้าว, ไมโครเวฟ, พัดลม และสินค้าชิ้นเล็กอื่น ๆ) เติบโตราว 14% จากปีก่อน
มูลค่าตลาดนี้รวมทั้งหมด 45,000 ล้านบาท แบ่งเป็น Major Appliance 34,000 ล้านบาท ผ่านจำนวนยอดขาย 3 ล้านเครื่อง ส่วน Small Appliance มีมูลค่า 11,000 ล้านบาท ผ่านยอดขาย 8 ล้านเครื่อง แต่หากตัดสินค้าเครื่องปรับอากาศออกไป ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะหดตัว 1% ทันที
“ภาพรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าครึ่งแรกของปี 2023 มีเครื่องปรับอากาศเป็นตัวขับเคลื่อน เพราะอากาศในประเทศไทยที่ร้อนทำให้ผู้บริโภคนำเงินไปซื้อสินค้าดังกล่าวจนมียอดขายเติบโต 36% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่สินค้าใหญ่อื่น ๆ เช่น ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า ต่างมียอดขายลดลง 3% ทั้งคู่”
ไม่เน้นเครื่องปรับอากาศก็ยังเติบโตได้
Toshiba มีส่วนแบ่งในตลาดเครื่องปรับอากาศค่อนข้างน้อย และอยู่ระหว่างชะลอการทำตลาด ยังมียอดขายเติบโต 15% ในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ได้ เนื่องจากบริษัทเน้นสร้างความแข็งแกร่งในตลาดตู้เย็น กับเครื่องซักผ้า รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กหลายประเภทเพื่อผลักดันยอดขายให้ตามเป้าหมาย
“ครึ่งแรกของปี 2023 โตชิบา ไทยแลนด์ มียอดขายเติบโต 15% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2022 และเราตั้งเป้าว่าทั้งปี 2023 จะมียอดขายเติบโต 15% เพื่อสร้างการเติบโตต่อเนื่อง 4 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2022 ที่ยังมีปัญหาโรคโควิด-19 ระบาด เรายังสามารถเติบโตได้ 5%”
สิ้นปี 2023 Toshiba ยังตั้งเป้าเป็นอันดับ 3 ของตลาดตู้เย็นผ่านส่วนแบ่ง 14.5% เป็นอันดับ 3 ของตลาดเครื่องซักผ้าผ่านส่วนแบ่ง 8% เป็นอันดับ 1 ของตลาดไมโครเวฟผ่านส่วนแบ่ง 27% และเป็นอันดับ 2 ของตลาดหม้อหุงข้าวผ่านส่วนแบ่ง 9% รวมถึงมีส่วนแบ่งมากขึ้นในตลาดเครื่องทำน้ำอุ่น
ยกระดับแบรนด์ด้วยการทำตลาดกลุ่ม Mid High
การไปถึงเป้าหมายดังกล่าว Toshiba จะเน้นทำตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับ Mid High ที่มีนวัตกรรม และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมากขึ้น โดยในครึ่งแรกของปี 2023 เปิดตัวไปทั้งหมด 31 รายการ และครึ่งหลังจะเปิดตัวอีก 39 รายการ ทำให้ทั้งปี 2023 จะมีสินค้าที่จำหน่ายทั้งหมด 208 รายการ
“เราไม่ได้เน้นแค่ฟังก์ชัน แต่ยังใส่ความพรีเมียมเข้าไปเพื่อจูงใจ ซึ่งจะเกิดควบคู่กับการเพิ่มช่องทางการขาย การทำตลาดผ่านกิจกรรมต่าง ๆ และการเน้นจำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์ที่ลูกค้าเปิดใจซื้อสินค้าขนาดใหญ่มากขึ้น โดยหวังว่าช่องทางออนไลน์จะมียอดขายเติบโต 30% และบริษัทจะอัดงบประมาณเพิ่ม 20% ในช่วงปลายปี”
อย่างไรก็ตามยอดขายออนไลน์ของ Toshiba ยังคิดเป็นเพียง 5% ของยอดขายทั้งหมด ส่วนสินค้าใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 ส่วนใหญ่จะเป็นตู้เย็น หลังจากครึ่งแรกของปี 2023 จะเปิดตัวเครื่องซักผ้าเพื่อรับกับช่วงฤดูฝนของประเทศไทย และทั้งหมดนี้จะใช้งบการตลาดมูลค่า 12% ของยอดขาย ในการสื่อสาร
ครึ่งหนึ่งของยอดขาย Toshiba มาจากตู้เย็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดขายของ โตชิบา ไทยแลนด์ ครึ่งหนึ่งมาจากตู้เย็น ผ่านการมีส่วนแบ่งยอดขายจากกลุ่มตู้เย็นสองประตูขนาดเล็ก และตลาดไมโครเวฟของประเทศไทยมีมูลค่าราว 2,000 ล้านบาท เป็นตัวเลขค่อนข้างน้อย ทำให้บริษัทต้องเพิ่มยอดขายกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กอื่น ๆ เพิ่มในกรณีที่ยังไม่เน้นทำตลาดเครื่องปรับอากาศ
ปัจจุบัน Toshiba มีโรงงานทั้งหมด 3 แห่งในประเทศไทย เน้นผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศไทย และส่งออกไปในตลาดต่าง ๆ ล่าสุดบริษัทแม่มีการลงทุนราว 5,000 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานเครื่องปรับอากาศในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง มีกำลังการผลิต 4 ล้านเครื่อง พร้อมดำเนินการช่วงปลายปี 2023
“บริษัทแม่ของเรา (Midea Group จากจีน) ตัดสินใจลงทุนโรงงานเครื่องปรับอากาศที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เน้นส่งออกสินค้าไปในเอเชียเป็นหลัก และยังเป็นการเตรียมความพร้อมในการทำตลาดเครื่องปรับอากาศในอนาคตที่ประเทศไทย”
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา