ระบบซื้อขายหุ้นที่ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวมีปัญหาจนทำให้ต้องหยุดการซื้อขายเป็นเวลา 1 วัน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์หลังจากเปลี่ยนมาใช้เป็นระบบคอมพิวเตอร์ และยังสร้างผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่นๆ ในญี่ปุ่นด้วย
ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ได้เกิดปัญหาการซื้อขายระหว่างวันจนต้องทำให้ตลาดหลักทรัพย์ต้องประกาศระงับการซื้อขายเป็นเวลา 1 วันเต็ม เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์หลังจากเปลี่ยนระบบมาเป็นคอมพิวเตอร์ ซึ่งปัญหาเกิดจากอุปกรณ์ของตลาดหลักทรัพย์ที่ปัญหา ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถสับเปลี่ยนไปใช้ระบบสำรองได้ ทำให้ต้องหยุดการซื้อขายระหว่างวัน ไม่เพียงเท่านั้นตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ได้ออกมาชี้แจงว่าถ้าหากมีการรีเซ็ตระบบระหว่างวันจะสร้างปัญหาให้กับนักลงทุนได้ โดยเฉพาะการส่งคำสั่งซื้อขายที่อาจมีปัญหา
สำหรับตลาดหลักทรัพย์โตเกียวได้เปลี่ยนระบบการซื้อขายมาเป็นระบบคอมพิวเตอร์นับตั้งแต่ปี 1999 และในปี 2010 ได้เปลี่ยนระบบเซิฟเวอร์สำหรับจับคู่การซื้อขายโดยใช้ระบบใหม่ของ Fujitsu ชื่อว่า Arrowhead โดยใช้เซิฟเวอร์กว่า 400 เครื่อง สามารถลดดีเลย์ของคำสั่งซื้อขายลงมาได้ที่ 0.2 วินาที และยังมีระบบสำรองอีก 3 เท่า
ปัญหาของระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์โตเกียวนั้นมีปัญหาครั้งใหญ่ ต้องย้อนไปถึงในปี 2005 ที่ต้องปิดการซื้อขายเป็นระยะเวลา 4 ชั่วโมง 30 นาที จากปัญหาการอัพเกรดระบบซื้อขาย ปัญหาดังกล่าวนี้ทำให้ประธานตลาดหลักทรัพย์โตเกียวต้องประกาศลาออกจากตำแหน่ง
ขณะเดียวกันในปี 2006 ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวก็เกิดปัญหาขึ้นมาอีกครั้งจากปัญหาที่ไม่สามารถรองรับคำสั่งซื้อขายจากนักลงทุนได้ ทำให้ต้องย่นระยะเวลาซื้อขายลงมาเป็นเวลา 3 เดือนจนแก้ปัญหาได้สำเร็จ
ปี 2011 ที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ระบบซื้อขายนั้นกลับไม่ประสบปัญหาแต่อย่างใด แต่ในปี 2012 ระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์โตเกียวยังมีปัญหาจนทำให้นักลงทุนส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นไม่ได้ถึง 241 หุ้น จนส่งผลกระทบข้างเคียงคืออนุพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับหุ้นจำนวน 241 ตัวไม่สามารถซื้อขายได้ด้วย
เหตุการณ์ที่ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวไม่สามารถซื้อขายได้ ยังส่งผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นตลาดหลักทรัพย์ฟุกุโอกะ ซัปโปโร นาโกย่า นั้นต้องปิดการซื้อขาย 1 วันเต็มไปด้วยเช่นกัน ยกเว้นเพียงแค่ตลาดซื้อขายล่วงหน้าและอนุพันธ์ที่ตลาดหลักทรัพย์โอซาก้าเท่านั้นที่ยังซื้อขายได้
สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้ Katsunobu Kato เลขาธิการคณะรัฐมนตรีต้องออกมาขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ได้กล่าวปฏิเสธถึงกรณีที่ว่ามีการโจมตีด้านไซเบอร์นั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของญี่ปุ่นก็ได้ออกมาแถลงว่าจะมีการสืบสวนหาปัญหานี้ต่อไป
ที่มา – CNN, DW, Yahoo Finance
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา