บมจ. เอ็ม วิชั่น ผู้จัดงาน Thailand Mobile Expo เผยงานสิ้นปีส่อกร่อย เหตุโทรศัพท์มือถือไม่ว้าวพอ เศรษฐกิจในประเทศยังซบเซา หวังเงินสะพัดในงาน 1,000 ล้านบาท น้อยกว่าครั้งกลางปีที่ทำได้ 1,300 ล้านบาท
Thailand Mobile Expo สะพัดน้อย
โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอ็ม วิชั่น เล่าให้ฟังว่า งาน Thailand Mobile Expo หรือ TME ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-9 ต.ค. 2565 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ อาจไม่มีเงินสะพัด และจำนวนผู้เข้าชมมากเทียบเท่าครั้งที่จัดช่วงกลางปีที่ผ่านมา
“การกลับมาจัดที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับเรา ทำให้คาดการณ์อะไรได้ยาก ประกอบกับเศรษฐกิจซบ และโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ยังไม่มีเทคโนโลยีที่จูงใจผู้ซื้อพอ บริษัทจึงคาดหวังเงินสะพัดภายในงานที่ 1,000 ล้านบาท ผ่านผู้เข้าชมทั้ง 4 วันราว 4 แสนราย”
ทั้งนี้งาน Thailand Mobile Expo ครั้งก่อนหน้าที่จัดขึ้นในศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคมีผู้เข้าชมงานราว 2 แสนคน และมีเงินสะพัด 1,200-1,300 ล้านบาท ส่วนงานที่เคยจัดที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ก่อนปรับปรุงใหม่เคยมีผู้เข้าชมงาน 7-8 แสนคน มากที่สุด 1 ล้านคน และมีเงินสะพัดกว่า 1,500 ล้านบาท
แบรนด์ยังไม่กลับมาทุ่มเงินกับการออกงานเต็มที่
ขณะเดียวกัน แบรนด์สินค้าเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือต่าง ๆ ยังไม่กลับมาลงเงินกับการจัดงานเพื่อขายสินค้า ทำให้งานนี้มีเพียงซัมซุงที่เป็นแบรนด์โทรศัพท์มือถือลงทุนเป็นหลัก ส่วนค่ายโทรศัพท์มือถือจะเหลือแค่เอไอเอส กับทรู ที่ใส่เงินเข้ามา ซึ่งอาจต้องรองานในช่วงต้นปีหน้าแบรนด์ต่าง ๆ ถึงจะกลับมาลงทุนอย่างจริงจังเหมือนในอดีต
“เราคิดว่าต้องรองานในเดือน ก.พ. 2566 แบรนด์ต่าง ๆ ถึงจะลงเงินกับการจัดงานมากเหมือนเมื่อก่อน เพราะตอนนี้ยังอยู่ในช่วงขาลงของตลาดโทรศัพท์มือถือ ผ่านการที่ไม่มีของใหม่มาขายมาก และผู้ค้าก็ไม่อยากสั่งสินค้าเข้ามาจำหน่ายเพราะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นเต็มที่”
สำหรับโทรศัพท์มือถือที่จะจำหน่ายได้ดีภายในงาน เอ็ม วิชั่น มองว่า จะเป็นโทรศัพทืมือถือระดับเรือธง เช่น iPhone 14 Plus และ iPhone 14 Pro ที่มีจำหน่ายในงาน กับ Samsung Galaxy Z Filp4 และ Z Fold 4 ซึ่งทั้งสองแบรนด์ต่างมีราคาเริ่มต้นมากกว่า 35,000 บาท
งานคริปโตฯ กระแสเริ่มตกจากครั้งก่อน
นอกจากนี้ภายในงาน Thailand Mobile Expo ยังมีงาน Thailand Crypto Expo จัดซ้อนอยู่ในงาน ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่งานดังกล่าวจัดขึ้น แต่ด้วยสภาพตลาดสกุลเงินดิจิทัล หรือคริปโตเคอร์เรนซีอยู่ในช่วงขาลงเช่นกัน ทำให้ผู้เข้าชมดูคึกคักน้อยกว่าครั้งที่จัดในช่วงกลางปี
“คนชอบคริปโตฯ ยังไงก็ชอบโทรศัพท์มือถือ ผมว่าทั้งสองงานมันยังจัดร่วมกันไปได้ ซึ่งหลังจากนี้เราจะยังจัดงานคู่กันไปอยู่ ยิ่งฝั่งคริปโตฯ ที่ยังมีผู้สนใจออกบูธ ทำให้บริษัทยังสร้างรายได้จากการจัดงานกลางที่สามารถรวมผู้ให้บริการ และแพลตฟอร์มต่าง ๆ มาเจอกับผู้ที่ชื่นชอบบนโลกออฟไลน์ได้”
ทั้งนี้ เอ็ม วิชั่น ปัจจุบันแบ่งธุรกิจออกเป็น 3 ด้าน ประกอบด้วย ธุรกิจการจัดแสดงงาน, ธุรกิจงานโฆษณา และเอเจนซี กับธุรกิจพาณิชย์ โดยนอกจากการจัดงานต่าง ๆ บริษัทมีธุรกิจเกี่ยวกับสันทนาการ เช่น การให้เช่ารถบ้านในงานคอนเสิร์ตกลางแจ้ง และการทำแพลตฟอร์มคูปองท่องเที่ยวร่วมกับ ซุปเปอร์ริช (สีส้ม) ร้านแลกเงินชั้นนำของไทย
สรุป
Thailand Mobile Expo น่าจะกลับมาคึกคักจริง ๆ ต้องรอครั้งที่จัดในเดือน ก.พ. 2566 เพราะที่จัดงานเป็นที่ใหม่ และยังต้องรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมา รวมถึงเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือที่ต้องจูงใจผู้ซื้อมากกว่านี้ ส่วนงานคริปโตฯ อันนี้ต้องรอตลาดฟื้น ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะฟื้นเมื่อไร
สำหรับรายได้ของ บมจ. เอ็ม วิชั่น ในแต่ละปีมีดังนี้
- ปี 2564 รายได้รวม 241 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5.6 ล้านบาท
- ปี 2563 รายได้รวม 206 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 39.9 ล้านบาท
- ปี 2562 รายได้รวม 333 ล้านบาท กำไรสุทธิ 29.8 ล้านบาท
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา