TMB รุกลูกค้าธุรกิจ พัฒนาแพลตฟอร์ม Business ONE รวมทุกบริการธุรกิจไว้ในที่เดียว

ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาธนาคารเป็นภาคธุรกิจที่มีความเปลี่ยนแปลงมากที่สุด ทั้งจากการดิสรัปชั่นของ FinTech การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค และการแข่งขัน ในไทยจะเห็นว่า ผู้ใช้ทั่วไปหลายคนใช้ Mobile Banking เป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่สำหรับลูกค้าธุรกิจ องค์กรต่างๆ โดยเฉพาะระดับ SME การใช้บริการการเงินด้วยดิจิทัล ยังมีอยู่อย่างจำกัด

ข้อมูลจากธนาคารทหารไทย หรือ TMB ระบุว่า 60% ลูกค้าธุรกิจของ TMB มีการใช้บริการดิจิทัล แต่ก็ยังใช้บริการบางส่วนที่สาขา เช่น เรื่องของเช็ก และการฝากถอนเงินสด แต่หมายความว่ามีอีก 40% ที่ยังไม่ใช้บริการดิจิทัล ดังนั้นเป้าหมายของ TMB คือ ในปี 2564 จะต้องทำให้ลูกค้าธุรกิจ 100% สามารถเข้าถึงบริการดิจิทัลได้

นี่เป็นที่มาการพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ Buiness ONE ด้วยนิยามว่าเป็นมากกว่า Internet Banking ที่เชื่อมข้อมูลและบริการทั้ง Financial และ Non-Financial ไว้ที่เดียว

เสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ของ TMB บอกว่า การเติบโตของธุรกรรมออนไลน์ในประเทศไทยเติบโตสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คนไทยซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น 21% และทำธุรกรรมการเงินออนไลน์สูงขึ้นถึง 93% ลูกค้าธุรกิจก็เช่นเดียวกัน โดยลูกค้าธุรกิจของธนาคารทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ของทีเอ็มบีเพิ่มขึ้น 50% และลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ เพิ่มขึ้นถึง 100% ในปีที่ผ่านมา

Business ONE จะมาช่วยให้การใช้งานดิจิทัลของลูกค้าธุรกิจสะดวก และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การจ่ายเงินหรือโอนเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเบิกวงเงินสินเชื่อ ฯลฯ สามารถเข้าถึงได้ในที่เดียว เรียกว่าเป็น “Digital Business Management Platform” ช่วยธุรกิจขนาดใหญ่และเอสเอ็มอีลดต้นทุนในการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์

รัชกร ชยาภิรัต หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร นวัตกรรมทางดิจิทัล (ลูกค้าธุรกิจ) ของ TMB บอกว่า Business ONE มีรายละเอียดดังนี้

  • ONE Platform – ให้ลูกค้าธุรกิจทำทุกธุรกรรมได้ครบจบในระบบเดียว ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินหรือโอนเงินให้คู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเบิกวงเงินสินเชื่อเพื่อธุรกิจ ลดปัญหาไม่ต้องจำรหัสเข้าใช้งานหลายระบบ และยังสามารถใช้งานได้จากทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเข้าผ่านคอมพิวเตอร์
    แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน โดยได้รับประสบการณ์การใช้งานแบบเดียวกัน
  • ONE to Control – ให้ลูกค้าธุรกิจควบคุมธุรกิจได้ในระบบเดียว ใช้งานง่าย สามารถเลือกออกแบบหน้าจอการใช้งานได้ตามกลุ่มผู้ใช้งาน ทำรายการพร้อมกันได้หลายรายการในครั้งเดียว มีระบบช่วยแนะนำวิธีการโอนหรือจ่ายเงินที่สะดวก รวมถึงการหาข้อมูลทางบัญชีที่รวดเร็ว และหากมีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ระบบจะสามารถประมวลข้อมูลได้เอง และแสดงข้อมูลในเชิงวิเคราะห์ เป็นการช่วยวางแผนการเงินในอนาคตได้
  • ONE to Command – เป็นระบบเดียวที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง financial solution ของธนาคาร และ non-financial solutions อื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน HR Management ที่ช่วยให้ลูกค้าบริหารทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเชื่อมต่อเรื่องการบริหารพนักงานและการจ่ายเงินเดือนเข้าด้วยกัน

ธนาคารต้องการพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ตามความต้องการของผู้ใช้งานจริง โดยใช้ลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง นำปัญหาที่ลูกค้าประสบจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งมาแก้หรือปรับปรุง เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานใหม่ที่ดีกว่าเดิม คาดว่าจะเป็นผู้ช่วยหลักในการบริหารงานของผู้บริหารธุรกิจขนาดใหญ่และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยทั่วประเทศ แก้ปัญหาการใช้งานแบบเดิมๆ โดยธนาคารจะทยอยโอนย้ายลูกค้าปัจจุบันขึ้นระบบใหม่นี้ ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป และคาดว่าภายในสิ้นปี 2564 จะมีลูกค้าธุรกิจที่เป็นนิติบุคคลของทั้งทีเอ็มบีและธนชาต มาใช้งานกว่า 100,000 บริษัท โดยการใช้งาน Business ONE ไม่มีค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายในการใช้งานแต่อย่างใด

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา