นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ผู้นำธุรกิจดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรและบริการที่มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ภายใต้แนวคิด
‘ดูแลคุณในทุกช่วงชีวิต’ (Lifetime Health Guardian For All) เปิดเผยว่า หลังจากประเทศเมียนมาเกิดการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 รอบที่ 2 ซึ่งมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วกว่า 100,000 ราย ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนและความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของโรงพยาบาลต่างๆ THG จึงประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ Ar Yu International Hospital (รพ.อายุ อินเตอร์เนชั่นแนล) ในเมืองย่างกุ้ง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในเครือที่ THG ร่วมลงทุนกับพาร์ทเนอร์ท้องถิ่น เพื่อติดตามสถานการณ์และวางมาตรการรับมือการระบาดรวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยมุ่งเน้นด้านความปลอดภัยของบุคลากรและคนไข้เป็นสำคัญ
ขณะเดียวกัน THG ได้นำองค์ความรู้และประสบการณ์จากการรับมือโรค COVID-19 ในประเทศไทย
ในช่วงที่ผ่านมา แลกเปลี่ยนกับทีมผู้บริหาร Ar Yu International Hospital เพื่อวางมาตรการต่างๆ อาทิ มาตรการคัดกรอง การแบ่งแยกพื้นที่ตรวจรักษาคนไข้โรคทางเดินหายใจออกจากคนไข้โรคอื่นๆ มาตรการด้านสุขอนามัย ฯลฯ ภายใต้มาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาลเครือ THG ในประเทศไทย เพื่อให้ชาวเมียนมาที่ใช้บริการเกิดความมั่นใจ
“สิ่งที่เราทำเพื่อรับมือการระบาดของโรค COVID-19 คือทำให้โรงพยาบาลเป็นสถานที่ที่สะอาดและรู้สึกปลอดภัยสำหรับคนไข้ที่มาใช้ เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจเมื่อต้องเดินทางมาโรงพยาบาล โดยมุ่งเน้นการคัดกรอง และมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด เพราะความปลอดภัยของบุคลากรและคนไข้เป็นสิ่งสำคัญ” นายแพทย์ธนาธิป กล่าว
Dr. Nway Nu Wai (ดร. เนย์ นุเวย) รองผู้อำนวยการ Ar Yu International Hospital กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 รอบที่ 2 ในเมียนมาถือว่าค่อนข้างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและการเดินทางออกนอกที่อยู่อาศัย เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลเมียนมาได้บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ โดยปัจจุบันเมียนมามีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วกว่า 100,000 ราย เสียชีวิตกว่า 2,000 ราย และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นวันละกว่า 1,000 คน เทียบกับช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 199 ราย เสียชีวิต 6 ราย และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันในอัตราต่ำมาก
โรงพยาบาล Ar Yu International จึงได้ยกระดับมาตรการรับมือการระบาดของโรค COVID-19 เทียบเท่ากับมาตรฐานโรงพยาบาลเครือ THG ในไทย ทั้งมาตรการคัดกรอง มาตรการด้านความสะอาดและการดูแลพนักงาน อาทิ การตรวจคัดกรองและซักประวัติคนไข้อย่างละเอียด จัดทำห้องตรวจคนไข้โรคทางเดินหายใจแยกจากอาคารโรงพยาบาล สวมใส่หน้ากากอนามัยและชุด PPE ขณะปฏิบัติหน้าที่ เพิ่มความถี่การทำความสะอาดและการระบายอากาศในอาคาร ฯลฯ เพื่อสร้างมาตรฐานที่โดดเด่นในเมียนมา ให้เป็นที่ไว้วางใจสำหรับผู้มาใช้บริการ ทำให้ Ar Yu International Hospital เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่เป็นตัวเลือกแรกๆ เมื่อต้องตรวจรักษาโรคในช่วงนี้ และยังเปิดให้บริการอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้คนไข้เข้าใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมามีคนไข้นอกเพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ยวันละกว่า 300 คน และมีคนไข้ในที่นอนพักรักษาตัวเฉลี่ยอยู่ในระดับกว่า 60 คน เทียบกับเดือนกันยายนที่ผ่านมามีคนไข้นอกเฉลี่ยวันละกว่า 200 คน และคนไข้ในเฉลี่ยอยู่ในระดับกว่า 50 คน
ชุติมา ศรีฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลและบริการลูกค้า Ar Yu international hospitalกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา Ar Yu International Hospital ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลแพทย์ พยาบาลและพนักงานทั้งหมดกว่า 800 คน ทั้งด้านการอำนวยความสะดวก สร้างขวัญและกำลังใจ รวมถึงดูแลความปลอดภัยขณะปฏิบัติงาน ลดโอกาสการแพร่ระบาดของเชื้อโรค โดยจัดเตรียมที่พักในบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาลและบริการรถรับ-ส่ง เพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัสเชื้อ ขณะเดียวกันได้จัดเตรียมอาคารรองรับพนักงานกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเข้ารับการกักตัวเพื่อสังเกตอาการ โดยมีการออกแบบระบบควบคุมความดันลบ (Negative Pressure) ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค พร้อมทั้งติดตามอาการอย่างใกล้ชิดจนกว่าจะครบกำหนดการกักตัว นอกจากนี้ ในส่วนของคนไข้ ได้นำระบบ Tele Consult หรือการให้คำปรึกษาสุขภาพทางไกลผ่านระบบไอที เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนไข้ที่ไม่สะดวกเดินทางมายังโรงพยาบาลอีกด้วย
นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ THG กล่าวเพิ่มเติมว่า จากประสบการณ์ในการรับมือกับการระบาดของ COVID-19 ที่ผ่านมา โรงพยาบาลในเครือ THG ทุกแห่งได้ปรับการดำเนินงานเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค สำหรับบุคลากรและผู้มาใช้บริการ อาทิ มาตรการตรวจคัดกรองการแยกคนไข้กลุ่มเสี่ยงออกจากคนไข้อื่นๆ ทั้งขั้นตอนการตรวจวินิจฉัยและพักรักษาตัวในวอร์ดคนไข้เฉพาะ การทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค ตลอดจนการจัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันสำหรับแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือในกรณีที่ประเทศไทยเกิดการระบาดรอบที่ 2 และพร้อมนำประสบการณ์รับมือ COVID-19 ของโรงพยาบาล Ar Yu International Hospital มาปรับใช้ต่อไป
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา