ต้องบอกว่า ประเทศไทยเป็นสังคมอุดมดราม่าโดยแท้ ตัวละครบนหน้าสื่อหมุนเวียนเปลี่ยนกะ รับไม้ต่อเหมือนวิ่งผลัดระยะสั้นกว่า 4 x 100 ถ้าเริ่มต้นจากเรื่องที่ไม่ต้องย้อนความไปไกลมาก อาจเริ่มจากประเด็นความไม่พอใจในภาพลักษณ์ใหม่ของทิดเอก อดีตพระมหาไพรวัลย์ยังไม่ทันจาง ก็มีความดราม่าเปิดตัวรายการ “นินทาประเทศไทย” บนความขัดแย้งระหว่างทิดเอกและน้าเน็กโต้กลับกันไปมา
เรื่องสงบ มาเรื่องใหม่ เรื่องดารากับดราม่าพลังใบ ไปพีเค ปิยะวัฒน์กับความคิดเห็นคนไม่เท่ากันบนท้องถนนที่ฟังแล้วชวนหดหู่ เรื่องยังไม่ทันจบดี ก็มาแจ็ค แปปโฮที่ก้าวขึ้นไปยืนบนโต๊ะโอมากาเสะ และล่าสุด เจ๊ติ๋ม ทีวีพูลกับทิดปอง อดีตพระมหาสมปอง สารพันเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้นรายวันคู่ขนานไปกับปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในไทยแต่โดนข่าวดราม่ากลบหมด ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันรั่วที่ระยอง รถชนหมอกระต่ายที่ไม่ควรจบด้วยนายตำรวจใหญ่หลายนายดาหน้าข้ามถนนทางม้าลายให้ประชาชนดู … เพื่ออะไร? ไปจนถึงของแพง ราคาแรงทั้งแผ่นดินที่ยังไม่มีอะไรดีขึ้น พร้อมการอัดฉีดงบกว่าพันล้านบาทในการแก้ปัญหาของรัฐที่เหมือนละลายงบประมาณไปให้สูญเปล่า ได้ไม่คุ้มเสีย
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน ไล่เลี่ยกัน ข้อมูลท่วมท้นจนเราเลือกเสพแต่ข่าวดราม่าหนักๆ เพื่อให้ทันกระแส .. ความน่าเศร้าของเรื่องนี้ก็คือ เพราะเรื่องดราม่าหนักๆ ที่กระทบผลประโยชน์ของคนไม่กี่คน ทำให้ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นซึ่งกระทบชีวิตประชาชนที่เหลือมากกว่า ถูกลดความสำคัญลงไปด้วย
Brand Inside ชวนดูซีรีส์เรื่อง Clickbait จาก Netflix เรื่องที่สะท้อนภาพสังคมที่นิยมดูแต่เรื่องดราม่าและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเหยื่อ เรื่องในครอบครัวเหยื่อที่พร้อมจะถูกขุดทั้งในแง่การสืบคดีและในแง่คนชอบดู แม้ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับชีวิตก็ตาม
<สปอยล์เนื้อหาเล็กน้อย>
เรื่องนี้จบในตัว มี 8 ตอน เรื่องเปิดมาด้วยความสัมพันธ์ในครอบครัวก่อนเลย ทั้งเรื่องดำเนินโดยสะท้อนความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวเนื่องจากเกี่ยวพันกับเหยื่อในหลายเฉด ทั้งมิติพี่น้อง แม่ลูก สามี-ภรรยา เพื่อน ไปจนถึงตัวเอกสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องคือตำรวจหรือนักสืบ นักข่าว ผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ทั้งหมดสอดคล้องร้อยเรียงให้กลายเป็นละครฉากใหญ่
เนื้อเรื่องเริ่มจากตัวละครสำคัญในเรื่อง 1 คนหายตัวไป ญาติติดต่อไม่ได้ จากนั้นเขาก็ปรากฏตัวผ่านคลิปวิดีโอที่บอกให้โลกรู้ว่า ถ้าคนดูครบ 5 ล้านวิว เขาจะต้องตาย
ทั้งที่รู้ว่าถ้าดูครบ 5 ล้านวิวผู้ที่อยู่ในคลิปวิดีโอจะต้องตาย ผู้คนก็ยังไม่หยุดดู จะมีอะไรน่าดู น่าลุ้นไปกว่า บุคลคนนั้นจะตายจริงหรือเปล่า เกิดอะไรภายใต้ความตื่นเต้นนั้น..ถ้ายังจำกันได้ เคยมีคนยิงตัวตายผ่านสื่อให้เราดูมาแล้ว ในช่วงที่กำลังเริ่มนิยม live facebook อย่างหนัก ผู้ชมจำนวนมากแสดงความเสียดายที่คนขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย แต่ไม่ฆ่าตัวตายสักที สื่อรายงานข่าวโดยใช้คำบรรยายวนไปวนมาเรื่อยๆ ตลอดเหตุการณ์เพื่อให้ไม่ขาดตอน…และในที่สุดผู้ที่ขู่ว่าจะฆ่าตัวตายก็ฆ่าตัวตายให้ดูจริงๆ เพราะถูกกดดันอย่างหนัก ราวกับเป็นตัวแสดงในรายการเรียลลิตี้..เราได้อะไรจากสิ่งนี้?
จากนั้นทั้งเรื่องจึงเป็นการสืบสวน สอบสวนเพื่อให้ได้มาซึ่งตัวฆาตกรที่แท้จริง
เราได้อะไร? จากซีรีส์เรื่อง Clickbait บ้าง
หนึ่ง เหยื่อ
หน้าฉากที่เราเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เรื่องราวที่กำลังชุลมุนอยู่ มีอะไรซ่อนอยู่มากมาย ตัวละครค่อยๆ คลี่ปมให้เราดูว่าเบื้องหน้าที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อเป็นแบบหนึ่ง จากนั้นก็ค่อยๆ เปิดให้เห็นว่ามีเรื่องราวเบื้องหลังอยู่ในตัวละครอีกหลายตัวซ่อนอยู่ แต่ละปมค่อยๆ คลายออก (จนบางคราวทำให้รู้สึกได้ว่า ถ้าเรื่องดำเนินไปแบบที่ผิดกับที่คนดูคาดหวัง อาจเข้าใจผิดว่าซีรีส์เรื่องนี้เริ่มออกทะเลกลางเรื่อง หรือจริงๆ แล้วความเป็นคนนั้นซับซ้อน หลากมิติ เกินกว่าที่เราจะตัดสินเพียงมุมใดมุมหนึ่งและชีวิตจริงก็อาจเป็นมากกว่าซีรีส์หรือละครที่เราดู หรือจริงๆ แล้วมากกว่าความซับซ้อนในตัวคน มีอะไรซ่อนอยู่ภายใต้เหตุการณ์นั้น)
สอง สื่อมวลชน
เส้นบางๆ ระหว่างความหวังดีของสื่อในการตีแผ่เนื้อหาเพื่อช่วยไขความจริง กับการพยายามรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของเหยื่อ ทำให้สื่ออาจถูกตีภาพให้เข้าใจผิดได้ ในส่วนนี้ สื่อต้องนำเสนอให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการที่สื่อพยายามกัดไม่ปล่อยในประเด็นใด ประเด็นหนึ่ง สื่อต้องการให้ความช่วยเหลือเหยื่อ หรือต้องการสะท้อนความจริงเพื่อให้โลกรับรู้ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นอยู่และกำลังดำเนินต่อไปโดยไม่มีการแก้ปัญหา การนำเสนออย่างต่อเนื่องก็เพื่อให้สังคมตระหนักและนำไปสู่การแก้ปัญหา หรือจริงๆ แล้ว ต้องการเพียงเรียกเรตติ้ง..เท่านั้น
สาม นักสืบ
ความซับซ้อนของตัวละครที่เป็นนักสืบทำให้เกิดความเข้าใจผิดขณะปฏิบัติงานข้ามสายงาน แต่เมื่อการสื่อสารและการเปิดใจเกิดขึ้นก็ทำให้ทุกอย่างเคลียร์และผู้คนหันมาร่วมมือกันมากขึ้น แม้การทำงานจะทำให้บางฝ่ายข้ามเส้นอีกฝ่ายไปบ้างแต่ก็มาจากความตั้งใจดีเพื่อทำให้งานบรรลุผลทั้งนั้น
ด้านมืดของนักสืบหรือตำรวจในเรื่องก็คือ การพยายามสร้างผลงานหรือทำให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ แน่นอนว่าแผนปฏิบัติการดังกล่าวย่อมกระทบเหยื่อและครอบครัวเหยื่อไปด้วย
สี่ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
พื้นที่บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นทั้งโอกาสและหลุมพรางชีวิตของผู้คน เป็นทั้งพื้นที่ให้เห็นความสวยงามและเปิดเผยด้านมืดของผู้คน เราจะใช้แพลตฟอร์มอย่างไรเพื่อสร้างโอกาสให้ตัวเองและผู้อื่น เราจะใช้แพลตฟอร์มอย่างไรเพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นและตัวเอง เรื่องนี้สะท้อนผ่านแอปพลิเคชั่นหลากหลายแบบ ทั้งแอปหาคน และแอปหาคู่
ห้า ผู้ชม
การส่งเสียเชียร์ดังๆ ของผู้ชม ทำให้ความดราม่าจากกระแสข่าวหรือประเด็นที่เกิดขึ้นในสังคมทั้งที่กระทบเพียงคนกลุ่มน้อยดำเนินต่อไปได้ พร้อมๆ กับกระแสที่ดังขึ้นจนกว่าจะมีเรื่องใหม่มากลบ
แน่นอนว่าประเด็นสังคมที่ยิ่งใหญ่หรือเป็นเรื่องสำคัญต่อชีวิตประชาชนที่เหลือย่อมถูกลบเลือนความสำคัญลงไปด้วย นอกจากเสียงเชียร์ดังๆ ที่ช่วยหล่อเลี้ยงกระแสดราม่า เสียงเชียร์นี้เองที่ช่วยเร้าให้สื่อยิ่งกระพือข่าว แต่ในแง่ลบยังมีแง่บวก เรื่องใดยิ่งทำให้โด่งดัง ทำให้ผู้คนยิ่งสนใจ ในด้านหนึ่งก็ช่วยกดดันให้เจ้าหน้าที่ยิ่งตั้งใจทำงานมากขึ้น แน่นอน เราไม่ปฏิเสธว่า มีเจ้าหน้าที่หลายคนตั้งใจทำงานแก้ปัญหาอยู่ แต่ประเด็นสังคมที่เป็นกระแสสร้างแรงกดดันให้คนหันมาพยายามแก้ปัญหามากขึ้น
ในแง่ดีคือการพยายามเคลียร์ปัญหา แต่แง่ร้ายซ้อนแง่ดีก็คือ เรื่องไหนไม่ดราม่า เรื่องนั้นไม่มีการแก้ไข หรือถ้าจะแก้ ก็แก้น้อยเต็มที อย่างที่เราได้เห็นประเด็นคนร้องเรียนผ่านสื่อว่าข้ามถนนทุกวัน เส้นม้าลายจางหาย แจ้งเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ให้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่อีกฝ่าย เมื่อเรื่องดังขึ้น จึงมีการทำทางม้าลายให้คนข้าม..ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น??
อ้างอิง – Netflix
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา