สิ้นสุดยุคการแบ่งปัน! เริ่มจาก Netflix ยกเลิกระบบแชร์รหัสผ่าน ล่าสุด Disney เพิ่งบังคับแยกบัญชีบ้าง ในเวลาใกล้เคียงกับที่ห้างค้าส่งรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกาอย่าง Costco ห้ามใช้บัตรสมาชิกของคนอื่นซื้อของ
หนึ่งในช่องทางหาเงินบริษัทเทคโนโลยีนำมาใช้ในช่วงนี้คงไม่พ้นการบังคับให้จ่ายเงินกับสิ่งที่เคยใช้ได้แบบฟรีๆ อย่างการยกเลิกระบบแชร์รหัสผ่านหรือแม้แต้การใช้บัตรสมาชิกร่วมกัน ทำให้ผู้ใช้จำเป็นต้องจ่ายค่าสมัครสมาชิกแบบของใครของมัน
ระบบยกเลิกการแชร์บัญชีเป็นอีกผลลัพธ์ของเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น ทั้งการติดตาม IP Address ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และระบบตรวจสอบใบหน้า
ไม่ใช่แค่นั้น บรรดาธุรกิจค้าปลีกและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยังใช้เทคโนโลยีมาตรวจสอบด้วยว่า นักเรียน นักศึกษาที่อยากจะใช้ส่วนลดนักเรียน ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้อยู่ไหม หรือว่าเรียนจบแล้ว
ล่าสุด Disney+ เองก็เพิ่งจะยกเลิกระบบการหารบัญชีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนเพิ่มรายได้และยอดสมาชิก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Bob Iger ซีอีโอของ Disney บอกว่า จะยกเลิกการแชร์รหัสผ่านสำหรับบางประเทศในเดือนมิถุนายนและจะขยายไปประเทศอื่น ๆ ในเดือนกันยายน
Bob Iger ยังพูดถึง Netflix ด้วยว่าเป็นมาตรฐานในวงการสตรีมมิ่งที่นำระบบป้องกันการหารบัญชีมาใช้ เขาเองยังนับถือกับสิ่งที่ Netflix ทำและคิดว่าถ้า Disney ประสบความสำเร็จแบบ Netflix ได้ก็จะดีมาก
Netflix ผู้นำสู่จุดสิ้นสุดของยุคแชร์รหัสผ่าน
การป้องกันระบบหารบัญชีถือว่าประสบความสำเร็จมากสำหรับ Netflix ที่จากเดิมปล่อยให้ผู้ใช้แชร์รหัสผ่านกันเพราะจะได้ดึงดูดคนมาดูคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มมากขึ้น
จุดเริ่มต้นของการยกเลิกหารบัญชีของ Netflix มาจากที่บริษัทเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มาตลอดจนถึงปี 2022 ที่จำนวนสมาชิกเริ่มลดลงเป็นครั้งแรกในประวัติการณ์
สาเหตุเรื่องคุณภาพของคอนเทนต์ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ถกเถียงกันได้ แต่อีกข้อก็มาจากที่ Netflix ต้องเจอคู่แข่งมากมายในตลาด ไม่ว่าจะเป็น Disney, Apple, HBO และ Amazon ที่พากันเข้ามาทำธุรกิจสตรีมมิ่ง
Netflix เลยต้องใช้ Brand Loyalty เป็นเดิมพันเข้าสู้ ด้วยแนวคิดที่เชื่อว่า ผู้ใช้จะยอมจ่ายเงิน 7-15 ดอลลาร์ หรือ 240-540 บาทต่อเดือนเพื่อดูคอนเทนต์ต่อไป
กลยุทธ์นี้ของ Netflix ถือว่าสุ่มเสี่ยงอยู่พอตัว แต่ในที่สุดก็ดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จเพราะเมื่อปีที่แล้ว มียอดผู้สมัครสมาชิกเพิ่มขึ้น 30 ล้านคน ขณะที่ไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นกว่า 9 ล้านคน
แม้ Netflix จะประสบความสำเร็จแต่สำหรับอนาคตของผู้เล่นรายอื่นก็ยังไม่แน่นอน เพราะไม่ได้อยู่ในวงการสตรีมมิ่งมานานเท่า Netflix อย่างแพลตฟอร์มของ Disney เอง ทั้ง Disney+, Hulu and ESPN+ ก็เพิ่งจะทำกำไรในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้
ผู้ใช้ Netflix ในไทยเองก็ต้องทำตามนโยบายป้องกันระบบแชร์บัญชีเหมือนกัน โดยผู้ใช้แพ็คเกจมาตรฐานและพรีเมี่ยมสามารถเพิ่ม “สมาชิกเสริม” ได้โดยต้องจ่ายเงินเพิ่ม 99 บาทต่อเดือนต่อคน การนับบัญชีจะยึดจากบ้านของสมาชิกจากการเชื่อมต่อทีวีเป็นหลัก หรืออีกวิธีหนึ่งก็สมัครสมาชิกใหม่ไปเลย ไม่ยุ่งเกี่ยวกับบัญชีของคนอื่น
Costco ห้างดังอเมริกาใช้กลยุทธ์แบบเดียวกัน แม้ไม่ใช่สตรีมมิ่ง
Costco ห้างค้าส่งรายใหญ่จากสหรัฐอเมริกาเองก็เลือกใช้กลยุทธ์แบบเดียวกันผ่านให้ผู้ใช้ต้องสมัครสมาชิกเอง ใช้ลัตรสมาชิกของคนอื่นไม่ได้
การเป็นสมาชิกระดับเริ่มต้นของ Costco มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 60 ดอลลาร์หรือราว 2,100 บาทต่อปี
เมื่อปีที่แล้ว Costco มีรายได้จากค่าธรรมเนียมสมาชิกอยู่ที่ 4.6 พันล้านดอลลาร์ และรายได้จากส่วนนี้ถือว่าเป็นกำไรส่วนใหญ่
ในเดือนหน้า Costco จะปรับขึ้นค่าธรรมเนียมสมาชิกเพิ่มอีก 5 ดอลลาร์หรือประมาณ 175 บาท เพิ่มขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2017 ค่าธรรมเนียมส่วนนี้จะช่วยให้ Costco รักษาราคาสินค้าให้มีราคาถูกไว้ได้และช่วยให้บริษัทมีรายได้ไปจ่ายเงินเดือนพนักงานด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา