เซ็นลาดคนล้น จนต้องมีห้างใหม่? The Central พหลโยธิน ห่างแค่ 300 เมตร เปิดปลายปีหน้า

หรือ ‘เซ็นทรัล ลาดพร้าว’ จะคนล้นจนต้องมาเปิดห้างใหม่? CPN เผยแล้วมีทางเชื่อมสองห้าง ห่างกันแค่ 300 เมตร-พื้นที่รวมกันใหญ่กว่าเซ็นทรัลเวิลด์ มาแน่ปลายปี 2026 กับ ‘The Central พหลโยธิน’ อีกหนึ่งเมกะโปรเจกต์ของ เซ็นทรัลพัฒนา

The Central พหลโยธิน

สำหรับใครที่สัญจรผ่านไปผ่านมาแถวย่านพหลโยธิน แล้วสงสัยว่า เอ๊ะ เขาล้อมจะสร้างศูนย์การค้าอะไรกันนะ? ทำไมถึงอยู่ใกล้ ‘เซ็นทรัล ลาดพร้าว’ ขนาดนี้?

ไม่ต้องตกใจไป เพราะศูนย์การค้าใหม่ที่ว่า ไม่ได้สร้างมาเพื่อเป็นคู่แข่งเซ็นทรัล ลาดพร้าว

แต่ ‘ชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล’ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าและกลุ่มงานพัฒนาโครงการ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) กล่าวว่า 2 โครงการนี้จะเติบโตไปพร้อมๆ กันต่างหาก

ที่สำคัญ ชนวัฒน์ยังเล็งทำ ‘ทางเชื่อม’ ระหว่าง The Central พหลโยธิน กับ เซ็นทรัล ลาดพร้าวด้วย ทำให้ทั้ง 2 โครงการห่างจากกันเพียง 300 เมตรเท่านั้น ซึ่งถ้ารวมพื้นที่ของทั้งคู่แล้ว จะมีขนาดใหญ่ราวๆ 1 ล้านตารางเมตร ถือว่าเทียบเท่าหรือมากกว่าขนาดของ ‘เซ็นทรัลเวิลด์’ เลย

แล้วทำไมถึงต้องตั้งศูนย์การค้าใกล้ๆ กัน ด้วย? หรือทั้ง 2 โครงการนี้จะมีความเหมือนความต่างอย่างไร? มาดูกัน

ย่านพหลโยธินศักยภาพสูง ผู้คนมีกำลังซื้อสูงกว่าค่าเฉลี่ยกทม. 2 เท่า

The Central พหลโยธิน

‘ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา’ Chief Marketing Officer บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา เผยว่า โดยปกติ CPN มักเป็นเจ้าแรกๆ ในการบุกเบิกย่านใหม่อยู่แล้ว และเชื่อว่า The Central พหลโยธิน จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงย่านพหลโยธินให้กลายเป็น ‘Central Business District’ (CBD) แห่งใหม่ประจำกรุงเทพฯ ตอนเหนือได้ 

ปัจจุบัน ย่านพหลโยธินมีอัตราการเติบโตสูงเทียบเท่าย่าน Central CBD เลย เพราะติด Top 10 ทำเลราคาที่ดินที่แพงที่สุดในไทย โดยมีราคาประเมินอยู่ที่ 1.9 ล้านบาทต่อตารางวา พร้อมอัตราการเติบโตสูงถึง 5% มากกว่าเพลินจิต-ชิดลม สุขุมวิท สีลม หรือสาทรเสียอีก

“กรุงเทพฯ ไม่ใช่ CBD อย่างเดียว กรุงเทพฯ มีมิติอื่นเยอะแยะเลยเหมือนเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก ถ้าเราดูเมืองใหญ่ทั่วโลก มันจะมีพื้นที่แต่ละพื้นที่ที่เป็นเหนือใต้ออกตก ไม่ว่าจะเป็นลอนดอน นิวยอร์ก โซล หรือว่าญี่ปุ่น”

‘อิศเรศ จิราธิวัฒน์’ Head of Leasing – Fashion & Luxury บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ยังบอกว่า ย่านพหลโยธินมีศักยภาพเทียบเท่ากับ ‘ราชประสงค์’ โดยมองว่า หลักๆ แล้ว องค์ประกอบสำคัญของทำเลยุทธศาสตร์ที่เหมาะกับการพัฒนาโครงการระดับโลกคือ

  1. เติบโตบนฐานโครงสร้างคมนาคมหลัก: The Central พหลโยธิน ตั้งอยู่บนถนน 2 สายหลักคือ วิภาวดีรังสิต และ พหลโยธิน ที่มีรถยนต์สัญจรกว่า 3 แสนคันต่อวัน รวมถึงเป็นจุดเชื่อมต่อของ MRT สายสีน้ำเงินกับ BTS สายสีเขียว
  1. รายล้อมด้วยดีมานด์คุณภาพสูง: ถ้าเทียบจากรัศมี 10 กิโลเมตร จะเห็นว่าโครงการนี้รายล้อมด้วย โครงการที่อยู่อาศัย 472 แห่ง โดยกว่าครึ่งเป็นโครงการหรู พร้อมออฟฟิศ 52 แห่ง โรงแรม 41 แห่ง โรงเรียนนานาชาติ 6 แห่ง และสถาบันการศึกษาชั้นนำอื่นๆ อีกกว่า 50 แห่ง 
  1. สามารถเป็นที่ตั้งของแบรนด์เรือธง: อิศเรศบอกว่า จะได้เห็นแบรนด์ชั้นนำต่างๆ มาเปิด Flagship Store สาขาสองที่ The Central พหลโยธิน หลังจากไปเปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์มาแล้ว รวมถึงมีแบรนด์ใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาด้วย

นอกจากนี้ ณัฐกิตติ์ยังเผยว่า หากอิงจากฐานข้อมูลของ CPN ย่านพหลโยธินถือเป็นย่านที่มีฐานกำลังซื้อแข็งแกร่ง เพราะ

  • ผู้คนมีกำลังซื้อสูงกว่าค่าเฉลี่ยคนกรุงเทพฯ 2.3 เท่า
  • ยอดขายต่อพื้นที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ 45%
  • จำนวนผู้ใช้บริการมากกว่าศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ โดยเฉลี่ย 2.9 เท่า

เดินได้ทั้งเซ็นลาดทั้ง The Central พหลโยธิน แม้ทาร์เก็ตต่างกัน แต่จะเติบโตไปด้วยกัน

The Central พหลโยธิน

ในแง่ของความเหมือนและความต่างระหว่างเซ็นทรัล ลาดพร้าว กับ The Central พหลโยธิน นั้น ทางชนวัฒน์ก็อธิบายว่า ทั้ง 2 ศูนย์การค้านี้จะมีจำนวนผู้เข้าใช้บริการราวๆ 130,000 คนต่อวันเท่าๆ กัน แต่จะทำโพสิชันให้ต่างกันแน่นอน และลูกค้าสามารถไปได้ทั้งสองที่ ไม่จำเป็นต้องเลือกเดินแค่ศูนย์การค้าเดียว

ชนวัฒน์มองว่า กลุ่มลูกค้าของ The Central พหลโยธิน จะคล้ายๆ กับทาร์เก็ตของเซ็นทรัลเวิลด์เลย ขณะที่ฐานลูกค้าของเซ็นทรัลลาดพร้าวอาจเป็นกลุ่มที่สูงขึ้นกว่านั้นนิดหน่อย

ที่สำคัญ ร้านรวงต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในเซ็นทรัลลาดพร้าว และต้องการพื้นที่ขยับขยาย ก็สามารถมา The Central พหลโยธินได้ เนื่องจากที่ลาดพร้าวนั้นค่อนข้างแน่นพอสมควรแล้ว

ขณะเดียวกัน แบรนด์ไหนที่ต้องการเช่าพื้นที่ในเซ็นทรัลลาดพร้าว แต่ไม่มีโอกาสเสียที ก็สามารถมาลงที่ The Central พหลโยธิน ได้เช่นกัน 

ฉะนั้น ชนวัฒน์จึงมองว่า การเข้ามาของ The Central พหลโยธิน จะช่วยให้เซ็นทรัลลาดพร้าวเติบโตไปพร้อมๆ กัน มากกว่าเป็นคู่แข่งนั่นเอง

ขอเป็นแม่เหล็กดึงดูดการเติบโตใหม่ๆ ด้วยพื้นที่เกือบ 5 แสนตารางเมตร

The Central พหลโยธิน

ในส่วนของดีไซน์ The Central พหลโยธิน คือโครงการมูลค่ากว่า 21,000 ล้านบาท มีขนาดใหญ่ติดอันดับ Top 5 ของ CPN โดยตั้งอยู่บนที่ดิน 49 ไร่ พร้อมพื้นที่ 457,409 ตารางเมตร ซึ่ง ‘จุฑาธรรม จิราธิวัฒน์’ Head of Business Development บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ก็เผยว่า ที่นี่จะเป็นมากกว่าศูนย์การค้า เพราะคือคอมมูนิตี้ของคนรุ่นใหม่ รวมถึงครอบครัวทุกเจนเนอเรชัน

“คอนเซปต์นี้ก็คือ The Central Playlist เปรียบเสมือนการ shuffle playlist ของกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยความน่าค้นหา แล้วก็นำไปสู่การค้นพบเพลงใหม่ๆ ในสไตล์ที่เป็นตัวเรา เราก็ตั้งใจ create product นี้ให้มี experience เพื่อให้ Friends ของ The Central ได้มาพบกับ journey ที่เป็นของตัวเอง” จุฑาธรรมกล่าว

เธอเล่าต่อว่า หลักๆ แล้ว ไฮไลต์สำคัญของ The Central พหลโยธิน ก็อย่างเช่น

  • Central Stage เชื่อมต่อ International Food ชั้นบนกับ Street Food ชั้นล่าง พร้อมอีเวนต์จัดงานป๊อปอัพอาหารต่างๆ
  • Market Hall ที่ออกแบบพื้นที่ให้มีความ Dynamic ทำให้การมาแต่ละครั้ง เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ออกไป
  • Waterfall Courtyard โอเอซิสที่เต็มไปด้วยของ Edible Garden หรือสวนทานได้ ในแนวคิด From Farm to Garden
  • Fashion Playlist ที่มีตั้งแต่ Fashion Houses ถึงเสื้อผ้าแนว Street ซึ่งเป็นศูนย์รวมของ Sports Fashion ยุคใหม่
  • Weekender Playlist สะท้อนความหลากหลายของลูกค้า
  • Creative Playlist คอนเซปต์ใหม่ เพื่อเติมเต็มการใช้ชีวิตของทุกคน 

ณัฐกิตติ์เสริมว่า The Central พหลโยธิน จะเป็นพื้นที่ที่รองรับกิจกรรมของคนทุกกลุ่มอย่างหลากหลาย เช่น

  • Convention Hall พื้นที่กว่า 6,700 ตารางเมตร รองรับคอนเสิร์ตและอีเวนต์ระดับโลก
  • Urban Sport Community อย่าง การปีนเขา
  • Immersive Art Destination
  • Experiential Discovery Zone
  • Family Entertainment

ในเชิงการออกแบบสถาปัตยกรรม จุฑาธรรมอธิบายว่า The Central พหลโยธิน จะมีการแทรก ‘รอยยิ้ม’ ในทุกๆ องค์ประกอบ และมีการออกแบบแลนด์สเคปให้เหมือนกับการโอบกอดผู้คนให้รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นด้วย

“The Central พหลโยธิน มูลค่าโครงการกว่า 21,000 ล้านบาท จะเป็นอีกหนึ่งโครงการระดับโลกที่ต่อยอดความสำเร็จของเรา เพื่อผลักดันย่านนี้ให้เต็มศักยภาพสูงสุด และยกระดับสู่ The Next CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ” ชนวัฒน์กล่าว

สุดท้ายนี้ The Central พหลโยธิน จะเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 4 ของปี 2026 แต่รายละเอียดแบรนด์ต่างๆ ที่เข้ามาจำหน่ายจะเป็นอย่างไรนั้น คงต้องรอติดตามกันต่อไป

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา